วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

การเดินทาง 31 - ค้างในป่า

กลุ่มของเกรนได้เดินทางออกจากหมู่บ้านลงมาตามเส้นทางลงใต้เข้าไปยังเขตป่าทืบเพื่อตัดออกไปยังหมู่บ้านกลางป่าอีกแห่ง

"ท่านเกรนข้าว่าน่าจะไปทางซ้ายนะคะ" อายะเสนอขึ้น

"เจ้าแน่ใจหรืออายะ" เกรนว่า

"ข้ามั้นใจคะ เพราะเหมือนมีเสียงลำธารมาจากทางนั้น"

"ถ้างั้นเรารีบๆ ไปต่อกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะก่อนที่จะได้ตั้งเต็นกัน" มิเรนว่า

"จะว่าไปไอ้แผนที่นี้ มันก็ไม่บอกให้ดีกว่านี้ซักหน่อยว่ามีทางแยกในป่าด้วย ไม่น่าถึงไม่ค่อยมีคนเดินทางไปยังหมู่บ้านที่เราจะไปกันมากนัก" เกรนที่เริ่มเดินตามอายะอยู่ด้านหลังยังบ่นให้กับความไม่ละเอียดของแผนที่ที่ตนซื้อมาจากพ่อค้าคนหนึ่ง

"ท่านจะมาพูดอะไรตอนนี้ก็คงไม่ช่วยอะไรแล้วหละคะ" มิเรนว่า

"แต่มันก็อดบ่นไม่ได้นี้หว่า"

แต่ทั้งสามก็เดินตามทางที่อายะแนะนำมาเลื่อยๆจนผ่านไปไม่นานก้มาพบกับลำธารสายหนึ่งตามที่อายะว่าในตอนแรก

"หุหุ เป็นไรคะ" อายะยืนยืดไหล่ยิ้มอย่างภูมิใจ

"555 เก่งมากเลยอายะ" เกรนเอามือลูบผมนางแล้วเอ่ยชม

"อายะ ท่านเกรน ไปช่วยกันตั้งเต้นกับหาฟืนเถอะคะ ส่วนข้าจะรองน้ำมาต้มแล้วใส่ถุงน้ำกับหม้อเอาไว้ทำซุบมันบดเป็นอาหารเย็นเองคะ" มิเรนที่ตอนนี้วางกระเป๋าของตนไว้ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วหยิบหม้อขนาดเล็กออกมา แล้วตรงไปตักน้ำในลำธาร

"ได้ๆ งั้นข้าไปหาเศษไม้ก่อน ส่วนอายะเจ้าช่วยมิเรนหาเศษไม้แถวนี้เอาไปต้มน้ำไปก่อน เดี๋ยวข้ากลับมาค่อยกลางเต็นกัน" เกรนจึงฝากอายะเอาไว้ แล้วเดินตรงไปเก็บเศษไม้เลื่อยๆลึกเข้าไปในป่า

เกรนเดินเลือกเก็บเศษไม้ไปเลื่อยๆ รอบๆ บริเวณจุดที่จะค้างคืน ทั้งเป็นการตรวจสอบความปลอดภัยรอบๆบริเวณจุดค้างคืนไปในตัว บางครั้งเขาก็ทำการปักกิ่งไม้เฉียงออกเป็นแถบๆโดยถ่ายลมปราณแฝงเข้าไปในกิ่งไม้ด้วยเพื่อเป็นกับดักอย่างง่ายๆ เมือเดินครบรอบดีแล้วเขาก็ตรงกับไปยังจุดที่สองสาวอยู่

ก็พบว่าตอนนี้อายะกำลังกางเต็นขนาดกลางที่ซื้อมาใหม่แทนอันเก่าที่เล็กเกินไปสำหรับสามคนอยู่ ซึ่งเธอเพียงแค่ดึงเต็นออกมาจากถุงเก็บ ใช้นิ้วกดปุ่มบดล็อกสายรัดตรงกลางสองอันแล้วคลี่ออกมาเล็กน้อยโยนไปบริเวณที่ต้องการพบตัวเต็นกระทบพื้นมันก็กางออกมาเป็นรูปร่างเต็นนอนสี่เหลี่ยมขนาดสี่คนนอนได้อย่างสบายๆ แล้วเดินไปตอกสมอบกยึดรอบๆตัวเต็นอย่างชำนาญ

ส่วนมิเรนที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยจากจุดที่อายะกางเต็นนั้น นางกำลังนั่งกรอกน้ำที่ต้มแล้วใส่ถุงน้ำที่ละถุง พางดูซุบมันบดที่ต้มอยู่ไปด้วย ซึ่งตรงนี้นางได้นำก้อนขนาดพอนั่งมาวางล้อมกองไฟสามก้อน และด้านข้างก็มีกล่องที่ใส่จานชามช้อนส้อมกระเตียบวางเอาไว้พร้อมหยิบใช้งานตลอดเวลา

"ไงสาวๆ ข้าเก็บเศษไม้มาแล้ว" เกรนเดินตรงมาทางอายะ แล้ววางกองเศษไม้ไว้ข้างหินนั่งงด้านหนึ่ง

"คะท่านเกรนข้าซุบมันบดกำลังได้ที่แล้ว ท่านไปดูอายะเถอะคะ เสร็จทางนั้นแล้วจะได้มานั่งกินด้วยกันคะ"

"อา.. ได้สิ" เกรนตอบรับแล้วหันไปทางอายะ

"งั้น ท่านเกรนช่วยเอาข้าเอาสัมภาระมาวางไว้ด้านหน้าเต็นหน่อยสิคะข้าจะเข้ารอข้างในจะได้จัดวางง่ายๆไม่ต้องเดินไปมา" อายะเอ่ยขึ้น แล้วมุดตัวเข้านั่งชันเขารอในเต็น

"อาๆ" เกรนตอบรับแล้วเดินไปหยิบสัมภาระที่วางอยู่ใต้ต้นไม้มาวางไว้หน้าเต็นให้อายะ ซึ่วนางก็ค่อยเอาไปจัดวางในเต็นอีกต่อหนึ่งอย่างสบายๆ

"สองคนนั้น ถ้าเสร็จแล้วรีบมานั่งเลยคะ ซุบมันบดกำลังได้ที่แล้ว" มิเรนหันหลังมาเรียกทั้งสองคน

"เสร็จแล้วๆ" เกรนขานรับแล้วเดินตรงไปเลือกนั่งบนหินที่มิเรนเอามาวางเป็นที่นั่งก้อนหนึ่ง

"ว้าว กินหอมจัง ข้าชักหิวขึ้นมาซะแล้วสิ" อายะออกจากเต็นมานั่งอีกคน

มิเรนจึงหยิบถ้วงขึ้นมาตักซุบมันบดใส่แล้วส่งให้เกรนและอายะ แล้วจึงตักในส่วนของตนทีหลัง เมื่อได้ครบกันทุกคนแล้วทั้งสามจึงเริ่มจัดการซุบมันบดตรงหน้าทันที บางครั้งเกรนก็ขยับมือไปหยิบเศษไม้โยนเข้าในกองไฟด้วยเพื่อเพิ่มเชื้อไฟให้ติดอยู่เสมอๆ ส่วนสองสาวยังคงพูดคุยกันเลื่อยเปื่อยตามภาษาสาวๆกันจะมีวนถามความเห็นเกรนก็บางครั้ง จนเวลาผ่านไปซุบในหม้อได้หมดลง

"ว๊า... หมดซะแล้ว" อายะเอ่ยขึ้นเมื่อตนนั้นกำลังจะตักเพิ่ม

"หืม นั้นเจ้ายังไม่อิ่มอีกหรือไง เห็นตัวเล็กกว่าเพื่อนแต่ดันกินได้กินดี" เกรนเอ่ยขึ้นขัดอายะที่กำลังพยายามกวาดเศษซุบในหมอมาใส่ถ้วยตน

"ก็ข้ากำลังโตไง เลยกินกว่านิดๆหน่อยๆ เอง" อายะกล่าวแล้วตักซุบที่กว่าได้อัน้อนนิดเข้าปากบางของตน

"งั่นเอาไว้ครั้งหน้าข้าจะทำให้มาขึ้นแล้วกันนะ" มิเรนเอ่ยขึ้น

"อืมๆ" อายะพยักหน้าถี่พร้อมกลืมซุบในปากตน

"เอาหละงั้นพวกเจ้าไปนอนเถอะเดี๋ยวคืนนี้ข้าจะเฝ้ายามเอง" เกรนเอ่ยออกมาเพื่อให้สองสาวได้นอนหลังจากเดินทางผ่านป่ามาทั้งวัน

"แต่ท่านเกรนก็เดินทางมาเหนื่อยๆเหมือนกันนะคะ" มิเรนแย้งขึ้น

"555 ข้านะสบายอยู่แล้ว ขอเวลาเดินลมปราณพักฟื้นสักครู่ก็เหมือนได้พักผ่อนแล้วหละ"

"คนฝึกปราณได้ระดับท่านเกรนนี้สะดวกดีนะคะ ไม่ต้องนอนก็ได้"

"ไม่หลอกอายะข้าก็ต้องนอนเหมือนกันนะ ถึงการเดินลมปราณมันช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้นอนหลับก็เถอะ แต่ยังไงก็ต้องนอนอยู่ดีนั้นหละเพื่อให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคายจริงๆ ขืนทำติดต่อกันนานร่ายกายจะทนไม่ไหวเอาได้" เกรนอธิบาบให้อายะฟัง

"งั้นพวกข้าไปอาบน้ำตรงธารน้ำกันก่อนนะคะ"

"อืม ส่วนข้าจะขอนั่งเดินลมปราณสักหน่อยหละกัน"

ว่าแล้วสองสาวก็พากันเดินตรงไปยังลำธารโดยหาจุดที่มีโขดหินกองสูงเพื่อเป็นที่บดบันตามธรรมชาติ ส่วนเกรนยังคงนั้นที่เดิมแล้วหลับตาเริ่มเดินลมปราณพักฟื้น

ซ่าๆ จ๋อมๆ

"อา... พี่มีเรนรีบๆลงมาสิคะ น้ำเย็นสบายจัง" ที่ถอดชุดของตนอย่างรวดเร็วแล้ววางไว้บนโขดหินอย่างรวด แล้ววิ่งลงไปว่ายเล่นใรลำธารโดนไม่รีรอ

"จ้าๆ" มิเรนค่อยถอดชุดของนางวางอย่างเป็นระเบียบตรงโขดหินข้างๆชุดของอายะ แล้วค่อยๆเดินตามอายะลงไป เมื่อเท้านางจุ่มลงผืนลำธาร นางก็อุทานขึ้น "อุ๊ย น้ำเย็นจัง"

"เย็นแบบนี้หละสบายดี พี่มิเรนก็รีบเดินลงมาตรงนี้สิคะ จะได้ช่วยกันขัดหลังซักหน่อย วันนี้เดินทางมาตั้งนานเหนียวตัวจังเลย"

"จ้าาาาา" มิเรนขานรับแล้วเดินตรงไปยังจุดที่อายะนั่งแตะเท้าใต้น้ำเล่นจนผืนน้ำกระเพื่อมๆ เป็นคลื่นสวนกระแสน้ำที่ไหล

"พี่มิเรนช่วยขัดหลังให้หน่อยสิ" อายะนั่งหันหลังแล้วยื่นแปรงขัดหลังให้มิเรน ซึ่งมิเรนก็รับมาแล้วนั่งลงด้านหลังอายะลงมือขัดหลังนางเบา

"อืมมมม สบายดีจัง" อายะพยักหน้าแล้วจักการขัดมือขาและลำตัวด้านหน้าของนางเช่นกัน

"หลังเจ้านี้เล็กจังน้า" มิเรนที่ขัดลงไปถึงด้านล่างก็เอ่ยขึ้น

"แหะๆ ก็ข้าตัวเล็กกว่าพี่นี้หน่า ก็ไม่น่าแปลกใจเลยนี้คะ"

"แต่ด้วยอายุของเจ้า ข้าว่าเจ้าน่าจะโตขึ้นได้อีกนิดหละนะ"

"ถ้าเป็นงั้นก็ดีสิค้า"

"เอาน่าเจ้าไม่ต้องคิดมากไปหลอก เอ้า.. เสร็จหละทีนี้ตามข้าบ้าง" หลังที่นางถูหลังในอายะเสร็จจึงหันหลังตนไปทางอายะแล้วรวบผมนางพาดไปทางด้านหน้าแทน

"ได้ค่ะ อิอิ" อายะขานรับพร้อมหันตัวมาทางมิเรนแล้วรับผ้าถูหลังจากมิเรนมาถูให้อย่างอารมณ์ดี

"เอ๋ เจ้าเปลี่ยนอารมณ์ได้ไว้จริงๆ" มิเรนที่หันหลังให้หลับตาผ่อนคลายปล่อยให้อายะถูหลังตนไปเลื่อยๆ
 
"แหะๆ" อายะรับคำสั้นๆแล้วถูหลังต่อไป ส่วนมิเรนนางนั่งผ่อนคลายสักครู่ก็หยิบผ้าอีกผืนขึ้นมาขัดแขนขาตนเช่นกัน

นางเริ่มขัดจากแขนนางก่อนทีละข้างแล้วค่อยโน้มตัวลงเล็กน้อยไปขัดขานางทีละข้างเช่นกัน เนื่องด้วยจังหวะที่โน้มนั้นไม่ต่ำมากจึงทำให้อายะที่ชอบแอบมองหน้าอกมิเรนเห็นมันสั่นไหวไปตามจังหวะการถู อายะจึงรีบถูหลังมิเรนเร็วขึ้นจนเสร็จแล้วส่งมือสองข้างของนางโอบไปจับอกอวบของมิเรนจากทางด้านหลังโดยที่มิเรนไม่ทันตั้งตัว

"อะ ว้าวววว อายะเจ้าเล่นอะไรเนี่ย" มิเรนที่ตกใจจึงร้องขึ้น

"แหะๆ แบบว่าข้าเห็นมันสั่นไปมาแล้ว หมั่นใส้ เอ๊ย มันน่าจับเล่นนะ เลยเผยตัวไปหน่อย" อายะที่ยังไม่ปล่อยสองมือกล่าวจากทางด้านหลัง

"ถะ ถ้าอย่างนั้น เจ้ารีบปล่อยได้แล้ว อะ อ้าาาาาา" มิเรนที่กำลังจะกล่าวเตือนอายะ กับโดนแรงขยำของอายะจนต้องหยุดมาครางแทน

"ว้าว.. อกพี่มิเรนตึงแน่นและเด้งจังเลย" อายะไม่ได้พูดเปล่า แต่นางได้ออกแรงขยำอกมิเรนมากขึ้น

"อะ อ้าาาาา อายะเจ้าพอเลย อืมมมมมม รีบเอามือออกไปก่อนที่ข้าจะโกรธนะ" นางปล่อยผ้าจากมือแล้วเอามือไปเกาะกุมมืออายะให้หยุด

"อืม มันรู้สึกดีไปอีกแบบแฮะ ไม่น่าท่านเกรนถึงชอบขยำนัก อิอิ" อายะยังคงออกแรงขยำอกมิเรนอย่างสนุกสนาน ส่วนมิเรนนั้นเริ่มทนไม่ไหวแล้วจึงส่งแขนเอื้อมไปเขกหัวอายะที่ด้านหลังอย่างแม่นยำ

โป๊ก !!!

"อู้ย..." อายะส่งเสียงร้องพร้อมปล่อยมือออกจากอกมิเรน มากุมกลางศีรษะของตน

"แฮะ แฮะ ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ แฮะ แฮะ" มิเรนที่หยุดออกมาได้ก็หันไปจ้องอายะอย่างระวังตัวแล้วกล่าวออกมา

"โอ้ว พี่มิเรนไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือกันเลย แค่เล่นๆเองนะ อูยยย" อายะที่ยังกุมศีรษะอยู่บ่นออกมา

"กะ ก็เจ้าเล่นขยำซะขนาดนั้นเดี๋ยวข้าก็ อ๊ะ" มิเรนเหมือนจะกล่าวอะไรต่อแต่ก็หยุดกลางคันเอามือปิดปากทันที

"ก็ อะไรนะคะ เอ๋ๆ" อายะส่งสายตาเจ้าเล่ไปทางมิเรนทั้งมีมือยังกุมศีรษะตนอยู่

"อายะบ้า จะ เจ้าทำให้ข้าเกือบพูดอะไรออกไปแล้ว" มิเรนเริ่มหน้าแดงแล้วขึ้นเสียงไปทางอายะ ตัวต้นเหตุที่ยังส่งสายตาเจ้าเล่อยู่อย่างนั้น

"อุอุ เดี๋ยวข้าช่วยเติมคำให้เอามั้ยคะ" อายะกล่าว พางขยับกายเข้าใกล้มิเรนอีกนิด

"พอเลยๆ ข้าจะออกไปหละ" มิเรนกล่าวแล้วขยับลุกเดินออกจากลำธารไปหยิบเสื้อใส่อย่างรวดเร็ว

"อิอิ รอข้าด้วยสิ" อายะกล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนขยับกายจากลำธารตามมิเรนไปเช่นกัน

...

ทางด้านเกรนที่ทำการเดินลมปราณ จนฟื้นกำลังมาได้ 2 ใน 3 ส่วนแล้ว กับรู้สึกเหมือนมีอะไรกำลังจ่องมาทางตนอยู่ จึงแผ่รัสมีปราณออกไปรอบๆ เพื่อตรวจสอบดู

ฟิ่ว... มีดเล่มหนึ่งพุ่งจากพุ่มไม้ห่างออกไปไม่ไกลนักทางด้านหลังเกรน

"เอะ" เกรมรีบหมุนตัวออกข้างหลบมีดนั้นทันที

ฟิ่ว...ฟิ่ว...ฟิ่ว...
ตุบ...ตุบ...ตุบ...

แต่ก็มีตามมาอีกหลายเล่มจึงต้องหมุนกระโดดหลบไปยังพุ่มไม้อีกด้านอย่างต่อเนื่อง

[ใครกันนะทีมารอบโจมตี หรือจะเป็นพวกโจรหละเนี่ย] เกรนคิดในใจ พรางขยับตัวหลบเข้าไปประชิดจุดที่มีมีดปาออกมาเลื่อยๆ

ฟิ่ว...ฟิ่ว... ตุบ...ตุบ... ซวบๆ
ฟิ่ว...ฟิ่ว... ตุบ...ตุบ... ซวบๆ

ไม่นานมีดทีปาออกมาก็หยุดลง เกรนจึงเร่งปราณส่งพลังไปยังส่วนล่างดีดตัวพุ่งฟันไปยังพุ่มไม้นั้นทันที

"ย้าก..." ฉับ!!! เคล้ง!!! ผุบ...

ผู้ลอบโจมตีที่สวมชุดดำปกปิดทั้งตัวและมีผ้าสีดำห่อศีรษะปิดบังใบหน้าจนเห็นเพียงตาเท่านั้น รีบชักดาบสั้นออกมารับพรางกระโดดหลบฉากออกจากพุ่มไม้ไป

"เจ้าเป็นใครกัน ถึงได้มาลอบกัดกันแบบนี้" เกรนถามออกไป พร้อมเคลื่อนกายเข้าหาอีกฝ่ายไปด้วย

อีกฝ่ายหาใช่มือสมัครเล่นไม่ เมื่อเห็นเกรนเข้าประชิดด้วยความเร็วกว่าก็อาศัยจังหวะลงพื้นถากหลบไปเลื่อยๆแทนการประทะตรงๆ

ผุบๆ ตึกๆ ผุบๆ ตึกๆ ผุบๆ ตึกๆ

[ปะ เล่นไม่ตอบอะไร แถมกระโดดหลบไปมาตลอดเลย จับตัวได้ยากจริงๆ สงสัยต้องออกแรงมากอีกหละ เฮ่ย...] เกรงคิด

แต่ไม่ทันไร อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ทัน จึงออกท่าซักคลื่นดาบใส่เกรนจนเกรยต้องเปลี่ยนจากรุกมารับสะบัดคลื่นดาบแทน

เคล้ง!!! เพี้ยว... ตูม!!!

ซึ่งอีกฝ่ายก็อาศัยช่องว่างนี้ฉากหลบออกจากเกรนไปในที่สุด แล้วฟายไปในป่าอย่างรวดเร็ว

"เฮ่ย... หนีไปจนได้ อะไรของมันกันนะ"

เกรนบ่ยอย่างฟัวเสีย จากการล่าถ่อยของอีกฝ่ายอย่างกะทันหัน แล้วเดินไปสำรวจกับดักเตือนภัยของตนทีละจุด

[เฮ่ย... ที่เห็นกับดักเราไม่มีโดนทำลายหรือทำงานเลย ผู้ที่มานี้ต้องมีฝีมือใช้ย่อยเลย] เกรนได้แต่ถอนใจ แล้วเดินกลับไปยังจุดก้างเต็นรอสองสาว พรางคิดวิธีรับมือกับผู้เยือนแปลกประหลาดอย่างเงียบๆ

...

มุมมืดห่างออกไปไม่มากนัก

"แฮกๆ หนอยมันเก่งจริงๆ นี้ถ้าไม่มีสิ่งนี้ของอาจารย์เราคงไม่รอดเป็นแน่แท้" ร่างในชุดดำบ่นพรางนั่งพักบนกิ่งไม้ใหญ่

"การเคลื่อนไหวไม่ธรรมดาจริงๆ อย่างงี้ต้องใช้แผนอื่นหละ อืม..."

"อืม..." "อืม..." "อืมๆ..." "อืมๆๆๆๆๆๆ..."

"โอ้ย คิดไม่ออกอะ สงสัยต้องเสียเอาดาบหน้าหละ ไงซะตอนนี้พักเอาแรงก่อนหละกัน"

....

"ท่านเกรน คิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ" เสียงมิเรนทัก เมื่อสองสาวกลับมายังจุดตั้งเต๊น แล้วพบเกรนที่กำลังนั่งนิ่งคิดอะไรอยู่คนเดียว

"ไม่มีอะไรหลอก มาๆ กินกันได้แล้ว วันนี้เป็นซุบมันนะ"

"คะ" ทั้งสองนางขานรับทันที แล้วนั้นลงข้าวๆ เกรน ตักซุบมันกินกันอย่างสบายใจ

[เอาเถอะ... ยังไงคืนนี้อีกฝ่ายคงยังไม่รีบเคลื่อนไหว หละมั้ง เฮ่อ.......]