วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 23 - ป่าไผ่สีรุ้ง(1)

ทั้งหมดนั่งลงบนโต๊ะแล้วสั่งอาหารมากินคนละจาน

"อาหารของทางใต้นี้แปลกดีเป็นจานๆแล้วใส่กับข้าวไว้ด้านบน" มิเรนเอ่ย

"อา เพราะว่าแดนใต้ติดกับทะเลซะส่วนใหญ่ ดังนั้นพื้นที่ส่วนมากจะเป็นที่ดอนสูงและทุ่มราบซะส่วนมาก" เกรนเอ่ย

"แถมอาหารส่วนมากจะรสจัดด้วยนะคะ" อายะเสริมพร้อมตักข้างใส่ปากตน

"อืม รสชาติอร่อยไปอีกแบบกับตอนกลางที่เราอยู่เลยนะคะ" มิเรนว่า

"อัน แอ่ อู่ แอ้ว อะ" อายะที่เคี้ยวอยู่ออกเสียงมา

"เอาๆ กินก่อนค่อยพูดก็ได้ 555" เกรนหัวเราะเบา แล้วหันไปตักข้าวตอนกินดูบ้าง

"อิง อ้วย อิ อะ" คราวนี้เป็นมิเรนืั้ส่งเสียงออกมา

"เอากันเข้าไป" เกรนกรอกตากับการเล่นแปลกของสองสาว แล้วทั้งสามก็กินไปส่งเสียงแปลกกันไปจนอาหารหมดจานแล้วเรียกเก็บเงิน

"อา อิ่มจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะราคาไม่แพง" เกรนเอ่ยหลังจากอิ่มแล้ว

"นั้นสินะคะ ข้าอยากเรียนการทำอาหารของที่นี้ดูบ้างจัง" มิเรนว่า

"คงอยากนะคะ พี่มิเรน เพราะที่ข้ารู้พวกเราจะเดินทางลงใต้นิคงไม่มีที่พักไหนที่มีเครื่องครัวทำอาหารแบบนี้ครบคันหลอกนะคะ" อายะว่า

"เอาไว้ตอนกลับแวะซื้อของใช้ก็ได้ แต่คงต้องหาเงินกลางทางกันเพิ่มหละนะ" เกรนเสนอความเห็น

"นั้นสินะคะ" มิเรนเอามือแตะแก้มใช้ความคิด

"เออ ยังไม่ต้องคิดตอนนี้หลอก เดี๋ยวเราเดินไปทางป่าไผ่รุ้งกันดีกว่านะ" เกรนกล่าว

"นั้นสอนะคะนี้ก็จะ10โมงแล้วเดินทางไปข้ามเขาอีกลูกแนะ กล่าวจะถึงก็บ่ายๆได้หละ" อายะว่า


"นั่นสินะคะ" มิเรนเสริม

แล้วทั้งสามก็ลุกออกจากร้านไป พวกเกรนเดินไปตามทางที่แผนที่หมู่ย้านวาดเอาไว้ต้องข้ามเขาไปอีกลูกก็ถึงที่ราบกลางป่าที่มีไผ่หลากสีสันขึ้นกระจายเป็นแถวสวยงาม สีไผ่เปลี่ยนไปตามการโยกไปมาของต้นไผ่บริเวณรอบๆมีร้านน้ำชาตั้งอยู่มากมาย รองรับผู้คนที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่มีมากไม่แพ้กัน

เกรนเลือกร้านที่อยู่เกือบสุดทาง เพราะเห็นว่าคนน้อยดีแถมอยู่ใกล้แนวไผ่ลึกสมควรมีความร่มรื่นดี

"น้องคะ พี่ของชาไผ่รุ้ง 3ที่ และลูกชิ้นปิ่ง 3ชุดนะ" เมื่อนั่งไม่นานมิเรนก็สั่งอย่างรวดเร็ว

"อะ เฮ่ย เจ้าสั่งเหมือนเคยมาเลย" เกรนว่า

"แหมท่านเกรนคะ เราเดินผ่านมาหลายร้าน ข้าก็เห็นทุกร้านแปะป้ายแบบนี้กันหมด จะไม่ให้ข้าจำได้ไงหละ" มิเรนตอบ

"เอาเถอะๆ" เกรนยกมือยอมตามใจนาง

"อิอิ ข้าก็ว่างั้นหละ" อายะที่นั่งข้างมิเรนหัวเราะออกมา

"แต่ที่นี่ลมดีจริงๆเลยนะ เย็นสบายๆด้วย" เกรนว่า

"ข้าว่าเรามากลางเต็นนอนแถวนี้กันดีมั้ยคะ" มิเรนเสนอ

"ไม่ได้หลอกคะ พี่มิเรนไม่ได้ยินหรือคะว่าที่นี้ช่วงเย็น จะมีสัตว์ออกมาชุกชุมมาก" อายะว่า

"เอ๋ ไม่รู้มาก่อนเลยคะ" มิเรนว่า

"เป็นอย่างนั้นเองหรือ มิน่าพวกร้านต่างๆจะสร้างให้ร้านยกสูงขึ้นจากพื้นแบบนี้" เกรนหันไปมองร้านที่เขาใช้บริการที่อยู่หลังเขา มันยกสูงขึ้นมาถึงระดับอกเลยทีเดียว โดยใช้บรรไดพลาดระหว่างตัวร้านกับพื้นใช้ในการเดินขึ้นลงร้าน

"มาแล้วคะ" เสียวหญิงสาวดังขึ้น นางเดินลงมาจากร้านพร้อมถาดใส่ชากับลูกชิ้นปิ่งตามจำนวนที่สั่งไป นางวางของที่สั่งบนโต๊ะเสร็จ เกรนก็ส่งเงินไปให้เป็นที่รู้กันว่าในแดนใต้แห่งนี้ของมาเงินไปจ่ายก่อนกินนั้นเอง แล้วนางก็เดินไปอีกด้านรับลูกค้าที่มานั่งใหม่อีกกลุ่ม

พวกเกรนที่ได้อาหารแล้วต่างก็ชิมกันอย่างสนุกสนาน โดยฉะเพราะสองสาวที่สั่งมาอีกหลายชุดแบบไม่กลัวน้ำหนักกันเลยทีเดียว ส่วนเกรนนั้นกินบ้างเล็กน้อยแต่ส่วนมากเขาจะมองไปรอบๆกินบรรยากาศมากกว่า เขาสังเกตเห็นชายคนหนึ่งจากกลุ่มที่นั่งโต๊ะที่ห่างออกไปไม่ไกลลุกเดินขึ้นไปบนร้านที่ยกสูง ชายคนนั้นเข้าไปอยู่นานสองนานเขาก็ออกมาทำท่าทางเหมือนเรียกให้พวกตามขึ้นไป แล้วพวกที่นั่งก็ลุกตามขึ้นไปอย่างคาด

"เอ๋ ชักแปลกแล้วแฮะ" เกรนบ่นเอาๆ

"มีอะไรหรือคะ ท่านเกรน" มิเรนได้ยิ่นคำบ่นของเขาจึงหันมาถาม

"อ๋อ เปล่าหลอกข้าเหมือนรู้สึกว่าจะปวดหนัก ข้าว่าจะไปขอเจ้าของร้านเข้าห้องน้ำสักหน่อย" เกรนตอบไป

"งั้นหรือคะ รีบๆหละ" มิเรนว่า

เกรนพยักหน้าหนึ่งครางแล้วลุกเดินตรงไปยังร้านที่ยกสูงขึ้น แล้วหันไปดูสองสาวพบว่าทั้งสองกับไปนั่งกินพูดคุยกันต่อก็สบายใจ จากเดินเปลี่ยนเดินปราณลงขาเป็นย่อยเบาไปด้านหลังร้านที่เห็นคนกลุ่มนั้นเดินตามกันเข้าไป เขามองลอดเข้าไปปจากรูผุของฝาด้านหนึ่งที่ทำจากแผ่นไม้

เขาเห็นพวกนั้นกำลังล้อมหญิงที่มาเสริพอาหารที่ตนสั่งอยู่นางดูกระสับกระส่ายนั่งกอดตัวเองแน่อยู่มุมหนึ่งของห้องเก็บของด้านหลังนี้

"อูว ดูอีนี่สิผิวสวยดีแท้" ชายร่างเตี้ยกำลังลูบตามแขนหญิงสาว

"ท่านเมื่อไหร่จะเริ่มกันหละ ข้าเงี่ยนจะแย่อยู่แล้ว" ชายร่ายสูงใหญ่ว่า

"ใจเย็นๆสิ ตัวยากำลังออกฤทธิ์" ชายที่ยืนตรงกลางมองดูหญิงสาวอย่างใจเย็นว่า

"ข้าว่าขื่มขืนไปเลยเถอะ ไม่ต้องรอดูผลจากยาบ้าอะไรนั้นแล้ว" ชายอีกคนที่อยู่ด้านซ้ายสุดว่า

"ใช้เลย" ชายร่ายเล็กที่อยู่ด้านขวาสุดเสริม

"เฮ่ย ใจเย็นๆสิวะ ข้าก็เงี่ยนไม่แพ้พวกเจ้า แต่ข้าต้องมั่นใจว่ายาที่ซื้อมามันของจริง" ชายที่ยืนตรงกลางว่า

"เจ้าสูงช่วยข้าจับนางนี้เงยหน้าหน่อย" ชายร่างเตี้ยว่า

"ได้สิเจ้าจะทำไร" ชายร่ายสูงใหญ่กล่าวแล้ว ขยับไปด้านข้างนางจับคางนางให้แหงนหน้าขึ้น หญิงสาวไม่มีแรงต้านจึงทำตามอย่างว่าง่าย

"อย่างงั้นหละ อยนู่นิ่งๆซะ" ชายร่างเตี้ยเดินเข้าไปด้านข้างอีกด้านแล้วชักแท่นกายตนออกมาลูบไปมาบนแก้มนาง

"อู้วววววว แก้มเนียนจริงๆ อาาาา" มันจับแทนกายตัวเอง แทงลูบไปมาบนแก้มหญิงสาว ไม่นานนางก็มีอาการตอบสนองเริ่มหายใจแรงขึ้น สองขาเริ่มขยับไปมา

"เฮ่ยๆ ได้ผลว่า งั้นข้าช่วยกระตุ้นอีกคน" ชายอีกคนว่าแล้วก็เดินตรงไปอีกด้านให้คนร่ายใหญ่ขยับด้านหลังทั้งที่มือยังจับค้างหญิงสาวอยู่

"อาาาาา จริงๆด้วย อย่างนี้ก็เสียวไปอีกแบบ" ว่าแล้วชายอีกคนก็ชักของตนออกทำแบบเดียวกับชายร่างเตี้ยทันที

"555 ดูสิท่านนางนี้เริ่มมีอาการแล้ว" ชายอีกคนเอ่ยชอบใจ

"อู้ว อาาาาาา ขะ ข้าแตกแล้ว อ้ากกกก" ไม่นานชายร่ายเตี้ยก็ครางออกมาพร้อมกระฉูดน้ำใส่แก้มหญิงสาวและเทิะไปหมด

"อะ อะ อู้ววววววว ข้าด้วย อาาาาา" ชายอีกคนก็แตกติดๆกัน

หญิงสาวตอนนี้บิดกายท่อนล่างไปมาสองมือเกร็งแน่นหายใจติดขัด กลิ่นน้ำกามที่ชายทั้งสองสาดใส่หน้านางมันไปกระตุ่นความอยากภายในพุ่งพวดออกมาจนนางทนเริ่มไม่ไหวต้องอาปากหอบออกมา "แฮะๆ"

"555 นั้นไงได้ผลวะ งั้นพวกเราลงมือันเถอะ เดี๋ยวมืดลงจะเดินทางกลับลำบาก" ในที่สุดชายที่ยืนตรงกลางก็เอ๋ยขึ้น

"ข้ารอมานานแล้ว" ว่าแล้วทั้งหมดก็ลุกขึ้นถอดกางเกงตนเองออกเผยแท่นกายตนที่มีหลากหลายขนาดตั้งชี้โด่เดินไปจับตัวหญิงสาวกระชากออกจากผนังมาอยู่กลางห้อง

ชายที่ยืนตรงกลางจับหัวนางแล้วยัดแท่นกายตนเข้าไปยังปากน้อยๆที่อาหายใจหอบอยู่

"อุบบบบบ อืมมมมมม" นางครางด้วยความตกใจ

"อมไปซะ อี้ดอก 555"

อีกคนเดินไปด้านข้างแทนที่ชายอีกคนที่แตกไปหมาดจับมือนางขั้นมาจับกำแท่นกายตนแล้วขยับมือชักเข้าออก

"อูย มือมันนิ่มสุด"

"ข้าก็ว่างั้น อาาาา" ชายร่างสูงใหญ่ก็ทำเช่นกันกับอีกด้านหนึ่ง

"อาาาาา เห็นแล้วอยากต่ออีกหลายๆรอบ" ชายที่โดนแทนที่สองคนเดินไปด้านหลังหญิงสาวแล้วชักแท่นกายตนไปมาจนมันตั้งขึ้นอีกครั้ง

"อาาาาา" "อู้วววววว" "สุดยอด" "ซีดดดดด" "มืออีนี้เยี่ยมไปเลย" "ซูดดดดดด" "มันมัก็เยี่ยม" "อู้ววววว"

ตอนนี้หญิงสาวไม่สนอะไรแล้ว นางตอบสนองพวกมันอย่างเต็มที่เพื่อระบายความเสียวที่มากขึ้นของตน นางทั้งดูดอมของชายคนคนกลางที่เป็นหัวหน้าพวกมันอย่างอร่อย ส่วนสองมือกำแท่นกายแล้วชักไปมาเองโดยพวกมันไม่ต้องช่วยขยับมือแล้ว ทำให้เสียงพวกมันดังระงมไปทั่วห้อง

"ไม่ไหว ขะ แตกก่อนหละ อู้ววววว"

"อะ อะ ข้าด้วย อ๊ากกกกกก"

"ปากอีนี้เยี่ยมสุด โอ้ววววววว"

ไม่นานพวกมันก็ชักกระตุกแตกตามๆกันไปสามคน แต่อีกสองที่พึ่งเสร็จจึงยังทนกว่าเพื่อนจึงยังไม่แตกยังชักต่อสักพัก ตัวหัวหน้าจึงพยักหน้าให้ทั้งสองจับหญิงสาวที่นั่งดูดเลียของตนจนแข็งขึ้นมาอีกให้นอนราบลงไปกับพื้น แล้วตนก็ลงไปคล่อมนางเอาไว้

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 22 - แยกย้าย

แสงแดดที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างยามเช้าได้ปลุกเกรนให้ตื่นขึ้นจากการนอนพักผ่อน

"อืม เช้าแล้วหรือ" เกรนเอ่ยขึ้น อย่างัวเงีย

"ท่านเกรนตื่นแล้วหรือคะ" เป็นเสียอายะดังมาจากด้านข้าง

"อายะ มันกี่โมงแล้ว"

"พึ่ง7โมงเองคะ วันนี้เราจะไปเที่ยวส่วนไผ่คงต้องรอยามบ่ายถึงจะไปกัน ช่วงเช้าคงอยู่ในหมู่บ้านแถวนี้นะคะ"

"อืม งั้นข้าขออาบน้ำก่อนเดี๋ยวตามลงไปนะ" เกรนลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ แต่ก็หยุดตรงหน้าทางเข้าเพราะรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังมา

"อะ เอย เจ้าไปรอข้างล่างก้ได้นะ" เกรนว่า

"ไม่เป็นไรคะ ข้าเป็นของท่านแล้วให้ข้าช่วยนะคะ" นางเอ่ยส่งสายตาน่ารักไปยังเขา

"อุบ" เกรนโดนสายตาอ่อนเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก (นี้มันสุดยอดวิชาอ่อนเลย มิเรนยังไม่ได้ขนาดนี้ เอาไงดีหละ)

"ท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือคะ"

"อะ ข้ายังรักเจ้านะ แต่ข้าจะอาบน้ำ เออ เดี๋ยวเจ้าเปียกนะ" เกรนพยายามบอกบัด

"อา ไม่ต้องห่วงคะ งั้นข้าจะถอดเสื้อเข้าไปด้วย" นางกล่าวพรางจะถอดเสื้อออก

"อะ เฮ่ย เดี๋ยวก่อน นี้มันกลางวันเลยนะ" เกรนกระโดดไปจับมือนางเอาไว้ทันที

"เอ๋ เลยยังไงหรือคะ เมื่อคืนท่านก็เห็นร่างข้าแล้ว จะเห็นอีกก็ไม่แปลกนี้คะ ก็ข้าเป็นของท่านแล้ว" คราวนี้อายะกล่าวออกมาแบบเขิน เพราะนอกถึงเรื่องเมื่อคืน ความจริงนางก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ใจกล้าทำเรื่องแบบนั้นลงได้อย่างไร ทั้งที่ตนพึ่งได้รู้จักชายคนนี้ได้ไม่นาน แต่ความรู้สึกตอนนี้นางมั่นใจว่ารักเขาเป็นแน่แท้

"งะ เอางั้นก็ได้" เกรนใจอ่อนลงจึงยอมนาง

"คะ" อายะยิ้มออกมา ถอดเสื้อผ้าแล้วเดินตามเกรนเข้าไปในห้องน้ำ

อายะทำการถูอาบน้ำให้เกรนทั้งตัวจนเขานั้นแค่นั่งอยู่เฉยๆเท่านั้น จะมีตอนที่นางทำความสะอาดเกรนน้อยเท่านั้นที่เขามีเสียงครางจากการถูของนาง แน่นอนมันพองขึ้นมาเล็กน้อยแต่เขาก็อดทนนับเลขไปเลื่อยๆ อายะที่เห็นของเกรนน้อยชัดๆถึงกับมองอย่างสนใจว่าแท่นนี้หรือที่เข้าไปในต้วนางเมื่อคืนขนาดอวบเกินกำมือนางไปนิดหน่อย แต่ความยาวที่เมื่อคืนสัมผัสได้กับที่เห็นไม่สมกันเท่าไหรเพราะมันยาว5-6นิ้วซึ่งไม่น่าจะเข้าไปในตัวนางได้ทั้งแท่นเลย อายะถูเล่นเกรนน้อยเพลินจนส่วนล่างนางเริ่มคันยุกยิกอีกครั้ง แต่ไม่ทันใดก็ได้ยินเสียงมิเรนที่มาเคาะประตูห้องเรียกเกรน

ก็อกๆ

"ท่านเกรนตื่นได้แล้วคะ ข้าจะเข้าไปนะคะ" นางก็เปิดปะตูเข้ามาอย่าง่ายดายด้วยเวทสะเดาะล็อกประตู

อายะยังไม่ทันตั้งตัวจึงตกใจลุกตัวขึ้นก้าวตรงไปช่องระบายลมเหมือนกำลังจะหนี แต่เกรนที่ตาไวกับคว้ามือนางเอาไว้ทัน

"อายะเจ้าไม่ต้องหนีซ่อนหลอกยังไงข้าก็ต้องบอกเรื่องนี้แก่มิเรนอยู่แล้ว" เกรนเอ่ยขึ้น

"ตะ แต่ ขะ ข้ายังไม่ได้เตรียมใจเลย" อายะตอบไป

"ข้าบอกแล้วว่าข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องหวง"

"แต่ว่า" นางเอ่ยแย้ง

"ไม่ต้องเลย เจ้าอยู่ตรงนี้หละ" เกรนมองตานางอยู่ครู่หนึ่ง

"เฮ่ย คะข้าจะไม่ไปไหน"

"ดีมากงั้นเจ้าช่วยข้าอาบให้เสร็จเถอะ"

แล้วก็ดึงตัวนางเข้าใกล้เขาแล้วหยิบขันตักน้ำมาราดทั้งตังเขาแล้วนางไปพร้อมๆกัน จากนั้นก็เช็ดร่ายกายใส่เสื้อเดินออกจากห้องอาบน้ำไปห้องนอน

"อ้าว ท่านเกรนคะ เสร็จแล้วหรือคะ" มิเรนที่นั่งรออยู่บนเตียงเห็นเกรนเดินออกมาจึงเอ่ยทักก่อน

"อืม มิเรนเจ้ามาเช้านะ ทำธุระส่วนตัวเสร็จหมดแล้วหรือ" เกรนหยุดตรงหน้านางแล้วเอ่ย

"คะข้าเสร็จหมดแล้ว แต่อีกคนคงยังมั้งคะ อิอิ" นางกล่าวอย่างมีเร่นัย

"หืม เจ้าหมายความว่าไงหรือ" เกรนเอ่ยสงสัย

"ก็ท่านคงได้นางแล้วสินะคะ" มิเรนเอ่ยออกมา

"งะ เจ้ารู้ได้ไงเนี่ย ข้ายังไม่ทันบอกเลย นี้แอบดูข้าเมื่อคืนหรือ" เกรนมีท่าทีตกใจขึ้นมา

"ไม่ใช่หลอกคะ ท่านไม่รู้จริงๆหรือคะ" นางกล่าวออกมาพรางเอานิ้วชี้ยื่นออกมาจิ้มแขนเขา

"อะ อืม"

"งะ ท่านลืมไปได้ไงนะ ก็ข้าผูดพันกับกายของท่านนะคะ เมื่อท่านมีพลังมากขึ้นข้าก็ต้องมีพลังเพิ่มขึ้นด้วย ตอนที่ข้าร่ายเวทคลายล็อกประตู้ข้ารู้สึกได้ว่ามันเร็วขึ้นและใช้พลังน้อยลงด้วย บวกกับอายะหายไปตั้งแต่เช้า และเข้ามาก็เห็นเสื้อนางที่ใส่เมื่อคืนอยู่ตรงนี้เลย จึงพอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น" น้อยกล่าวงอนๆออกมาหันหน้าไปอีกทางที่มีเสื้อหญิงสาวตกอยู่

"เอะ จริงด้วยสิ ข้าก็พึ่งนึกได้ตอนที่เจ้าบอกนี้หละ" เกรนที่พึงนึกได้ จึงยกมือขึ้นลูบผมหลังตนแก้เก่อ

"เฮ่อ แล้วอายะหละคะ" มิเรนถอนใจกับความบื่อๆบางครั้งของเขา แล้วหันมาสนใจเพื่อนร่วมสามีอีกคนแทน

"ขะ ข้าอยู่นี้" อายะที่แอบหลังประตูห้องอาบน้ำเดินออกมา

"เจ้าไม่เป็นไรนะ" มิเรนที่เห็นอายะจึงลุกเดินไปจับมือนางลูบหาควมผิดปกติ

"ข้าไม่เป็นไรหลอก" อายะตอบไป

"ท่านเกรนไม่ได้บังคับเจ้าใช่มั้ย" มิเรนยังมองรอบตัวอายะเลยถามต่อ

"ขะ ข้าเต็มใจคะ" อายะก้มหน้าตอบ เป็นความจริงที่นางเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

"งั้นทีนี้เราก็มีสามีคนเดียวกันแล้วนะ อิอิ" มิเรนโอบกอดนางทันที

"คะ พี่มิเรน อืมมมม" อายะที่โดนอกอวบใหญ่ของมิเรนบดอยู่เต็มหน้าเอ่ยอย่างลำบาก

"เออ พี่หรือ ไปตกลงกันตอนไหนหละเนี่ย" เกรนเอ่ยกับมเรนด้วยความสงสัย

"ก็เมื่อคืนก่อนที่ข้าจะหลับไป ข้าคิดว่าถ้าเรียกชื่อกันจะเหมือนสนิทมากกว่านะ เลยตกลงกันว่าจะเลือกชื่อกัน แล้วคือว่าข้ามีอายุมากกว่านางข้าเลยให้นางเรียกข้าว่าพี่ไงคะ อิอิ" นางหันมาตอบเกรน แล้วหันไปกอดอายะแน่ขึ้นไปอีก

"อุบ อะ อ๋อย" อายะพยายามถอดใบหน้าออกจากอกอวบมรณะของมิเรนที่ทำให้นางหายใจไม่ออก

"เออ ข้าว่าเจ้าปล่อยอายะสักหน่อยก็ดีนะ เหมือนนางจะไม่ไหวแล้ว" เกรนเอ่ยเตือนมิเรน

"เอ๋ ว้ายยยย อายะเป็นไรบ้างนะ" นางจึงก้มมองสาวร่างเล็กที่โดนกดหน้าจนมิดอก เห้นว่าทำท่าเหมือจะขาดใจอยู่มิเรนจึงตกใจปล่อยอายะออกเป็นอิสระ

"ปะ แฮก แฮะ พี่มิเรนข้านึกว่าจะไม่รอดสักแล้ว แฮะ แฮก" อายะที่หยุดออกมายืนหายใจสุดปอดเพื่อชดเชยอากาศที่หายไป

"555 เห็นเจ้าเข้ากันได้ดีข้าก็สบายใจหละ" เกรนที่มองอยู่เอ่ยออกมา

"พี่มิเรน ขะ ข้า" อายะพอรู้สึกตัวว่าเรื่องของตนยังไม่กระจางจึงพยายามจะกล่าวอะไรสักอย่างออกมา

"เจ้ารักท่านเกรนมั้ยหละ" อยู่มิเรนก็กล่าวออกมา

"อะ อืม คะ" อายะเอ่ยออกมา

"แล้วเจ้าชอบข้ามั้ย" มิเรนชี้มาที่ตน

"ข้าไม่มีทางรังเกลียดท่านหลอก" อายะสายหน้า

"อิอิ แค่นี้ก็พอแล้วข้ารักทั้งเจ้าแล้วท่านเกรน ส่วนเจ้าก็รักทั้งข้าและท่านเกรน แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับการอยู่ร่วมกัน" มิเรนยื่นมือออกกุมมือทั้งสองของอายะเอาไว้

"พี่มิเรน" อายะมองไปยังมือที่กุมมือนางเอาไว้

"ใช่มั้ยคะท่านเกรน" มิเรนเอ่ยหันไปมองเกรน ทำให้อายะหันไปมองด้วยเช่นกัน

"ข้าของสาบานว่าจะรักพวกเจ้าให้เท่าๆกัน ไม่ทิ้งพวกเจ้าไปไหนแน่นอน" เกรนเอ่ยแล้วเดินโอบเอวสองสาวเอาไว้คนละข้าง

"คะท่านเกรน" สองสาวตอยพร้อมกัน

"งั้นเราน่าจะลงไปได้แล้ว คนอื่นคงมีเรื่องต้องรอคุยกันเราอยู่แน่ๆเลย" เกรนกล่าวพร้อมโอบเอวพวกนางพาเดินออกจากประตูห้องไป

"ทะ ท่านเกรนแบบนี้ ขะ ข้าอายนะคะ ปล่อยก่อนได้มั้ย" มิเรนเอ่ยออกมา

"งะ แต่ว่า" เกรนกำลังจะโน้มน้าวมิเรน

"ข้าก้คิดเช่นนั้นคะ ชายหญิงไม่สมควรทำประเจิดต่อหน้าททระกำนัล" อายะที่เคลื่อนไหวได้เร็วหมุนตัวออกจากมือเกรนแล้วดึงตัวมิเรนออกมาด้วย

"เอา เฮ่ย" เกรนร้อง

"ลงไปกันเถอะ พี่มิเรน ปล่อยให้นายหื่นเดินตนเดียวไป" อายะว่าแล้วก็จูงมือมิเรนเดินลงบรรไดไป

"กรรม สนิทกันจริงๆ รอด้วย" เกรนเกาหัวแล้วจึงค่อยเดินตามลงไป

...

ด้านล่างโรงพักผ่อนมีกลุ่มชาย7หญิง2 นั่งรอเกรนอยู่ เมื่อเขาเดินลงมาก็เข้าทักทันที

"เกรนฝันดีมั้ย" สมชายเอ่ย

"อืม ข้าสบายๆอยู่แล้ว นี้ร่วมกันซะมีเรื่องอะไรหรือเปล่าหละ" เกรนที่รับคำแล้วเดินมานั่งข้างสมชาย ส่วนมิเรนกับอายะเดินไปนั่งกับนาริสาและเบญจมาศอีกโต๊ะหนึ่ง

"ใช่ เจ้าจำเรื่องเมื่อวานได้สินะ ข้าต้องพาคุณหนูไปซ่อนตัวและคงไม่ได้ไปพร้อมพวกเจ้าซะแล้ว ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยจริงๆ" สมชายเอ่ย

"ไม่เป็นไรหลอก เรื่องของเจ้าสำคัญกว่านี้ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกกันได้เลยนะ" เกรนเอ่ยตอบ

"555 ข้าคงไม่รบกวนอะไรเจ้าหลอก งั้นเดี๋ยวพวกข้าขอตัวไปหละ ชักช้ามันจะเสียเรื่องเอาได้"

"หา จะไปแล้วหรือ"

"ใช่แล้วหละ"

"งั้นหรือ งั้นข้าขอให้พวกเจ้าโชคดีนะ" เกรนกล่าวยิมให้สมชาย

"งั้นข้าลาหละ" สมชายหันไปพักหน้าให้แก่เบญจมาศหนึ่งที แล้วเอ่ยกับลูกน้องตน "ไปพวกเรา"

"ข้าต้องไปแล้วขอบคุณสำหรับการเดินทางแสนสนุกอันสั้นนี้ แต่ข้าจะจดจำเอาไว้ตลอดไป" นาริาเอ่ยกับมิเรนและอายะ

"ข้าก้เช่นกัน" มิเรนเอ่ย

"ขอให้เจ้าโชคดีนะ ลาก่อน" อายะว่า

"อืม ลาก่อน" นาริสาเดินออกไป

"ข้าก็ขอตัวเช่นกัน ลาก่อนคะ" แล้วตามด้วยเบญจมาศเดินตามหลังนาริสาออกไป

ไม่นานก็มีเสียงรถม้าเคลื่อนตัวออกไปจากโรงพักผ่อนตามด้วยเสียงม้าหลายตัว เกรนคิดว่าพวกเค้าคงไปซื้อม้ามาเพื่อการเดินทางที่เร่งรีบ หลังจากที่กลุ่มสมชายเกรนก็หันไปเรียกให้มิเรนและอายะที่ยืนส่งมานั่งโต๊ะตน

"อา เหลือแต่พวกเราแล้วนะ" เกรนว่า

"คะ" มิเรนกล่าวเสียงอ่อยๆ

"อย่างคิดมาก สักวันเราควได้พบกันนั้นหละ" เกรนจึงเอ่ยปลอบ

"นั้นสิคะ" อายะเสริม นางไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไร แต่นางผ่านอะไรมามากจึงทำใจได้เร็วกล่าวมิเรนมากนัก

"งั้นเราไปกินอะไรเบาๆที่ตลาดสักหน่อย แล้วค่อยไปที่ดงไผ่รุ้งกัน" เกรนเอ่ยออกมา

"อืม เอาสิคะ" เป็นมิเรนที่หันไปหาเกรนยิ้มรับ แล้วลุกขึ้นมาทันที

"งะ" เกรนอ้าปากค้าง กับการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วของมิเรน

"ไปกันเถอะคะ ท่านเกรนก็รีบลุกสิคะ" คราวนี้เป็นอายะที่ลุกไปจับมือกับมิเรนแล้วเริ่มเดินออกไป

"อะ เฮ่ย อะไรกันฟะ" เขาได้แต่บ่นอีกครั้งแล้วก็เดินตามสองสาวไป

ระหว่างทางเดินสองสาวยังคงแวะชมร้านค้าและแผลงลอยตามทางเหมือนยังไม่ได้ดูมาก่อนอย่างงั้น ทำให้เกรนที่เดินตามมามีเวลาคิดเรื่องสถานการณ์แดนใต้ ทั้งเรื่องกลุ่มโจรที่ตนพบมา และการสลายของสำนักอันดับสาม ร่วมถึงลองผนึดพลังของตนดุด้วย เพราะเห็นมิเรนว่ามีพลังเพิ่มขึ้น

(เอะ นี้มันไม่ใช้เพิ่มนิดหน่อยแล้ว สุดยอดเลย) เขาพบว่ามันเพิ่มขึ้นมาถึงเท่าตัวเลยทีเดียว

(อุบ ปะไหนบอกว่า 1คนสามารถเพิ่มได้ 1/3 ของพลังที่มีอยู่ไงฟะ แต่นี้มันเพิ่มเท่าตัวเลยนะ ดีไม่ดีอาจมากกว่าก็ได้นะเนี่ย) เกรนลองเดินปราณและจิตดู

(อืม อย่างงี้ค่อยมีแววหน่อย คงไม่ต้องหาภรรยาหลายคนแล้วแค่นี้ข้าว่าน่าจะลุยด้ายตะวันตกได้ด้วยซ้ำไป) เกรนคิดถึงจุดหมายของตนขึ้นมา

และไม่นานพวกเขาก็เดินเข้าไปร้านข้าวตามสั่งข้างทางร้านหนึ่ง เพื่อกินข้างเช้ากัน

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 21 - คืนเสียว

"อืม อาาาา"

"ดีๆ ตรงนั้นหละ อูยยยยย"

"เยียม ลงมาอีกนิด นั้นหละ อะ อูยยยยย"

เกรนครางยาวจากฝีมือการนวดของอายะที่กดไล่ตามเส้นเอ็นของร่างกายเพื่อผ่อนคลายเส้น บางครั้งเขาก็เกร็งตัวจากความเจ็บจนเผยเดินลมปราณแบบไม่รู้ตัวจากการกดโดนเส้นที่ตึงแน่น ทำให้ตำแหน่งการวนปราณนั้นสะเปะสะปะไม่มาก แต่นั้นกลายไปเป็นจุดชนวนของการกระตุ้นวิชาสายเพิ่มพลังของเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายที่เกร็งขัดดันผ่านลมปราณเล็กๆน้อยๆออกมากระจายรวบๆตัวเขาจากธรรมดาไม่นานก็กลายเป็นลมปราณแบบที่กระตุ่นอารมณ์สาวแบบชั้นหนึ่งไป ซึ่งปราณนี้ค่อยๆส่งผลต่ออายะที่กำลังนวดเส้นให้แก่เกรนอยู่อย่างช้าจนเจ้าตัวไม่สามารถรับรู้ได้ อายะที่นวดให้เกรนอยู่นั้นรู้สึกว่าหัวใจนางเต้นเร็วขึ้นเหมือนวันก่อนที่เขาได้ช่วยตนไว้ ตอนแรกๆนางคิดว่าน่าจะมาจากการออกแรงกดเส้นที่ไม่ได้ทำมานานแล้วก็ได้ แต่เมื่อยิ่งนานไปก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆกายมากขึ้นนางสัมผัสได้ถึงบรรยายกาศรอบตัวนางที่ทำให้รู้สึกสบายตัว ร่างกายเริ่มร้อนขึ้นทีละนิดโดยที่นางไม่เข้าใจตนเอง แต่ก็ยังทนกดเส้นให้เกรนที่ร้องครางอย่างสบาย

หลังที่กดเส้นให้เกรนครบ 50นาที ในที่สุดอายัก็ถึงขีดความอดทนต่อร่างกายที่เปลี่ยนไปโดนไม่รู้สาเหตุนางหยุดมือยันหลังเกรนไว้แล้วนั่งนิ่งหายใจหอบ ใบหน้าขึ้นสีชมพูอ่อนๆ นางพยายามต่อต้านร่างกายที่ร้อนรุ่มมากขึ้นมากขึ้นทุกขณะ ตอนนี้แม้กระทั่งส่วนล่างนางยังรู้สึกคันยุกยิกไปมาอีกด้วย จึงกดท่อนล่างแนบไปกับขาข้างหนึ่งของเกรนเอาไว้แน่น

"หือ อายะกำลังดีเลยไงหยุดซะหละ" เกรนที่รู้สึกว่าอยู่นางก็หยุดมือไปเอ่ยขึ้น

"แฮะ แฮะ ขะ ข้า ไม่รู้เป็นอะไร มันร้อนกายไปหมดเลย" อายะขยับปากบอกอย่างช้าๆ

เกรนที่ได้ยินดังนั้นก็หมายขยับกายพลิกไปดูนาง แต่พอขยับตัวแล้วขาเลื่อนไปเท่านั้น

"อะ อาาาาาา" นางร้องเสียงหลงออกมาทำให้เกรนตกใจยิ่งจึงชะงักตัวอยู่ท่าเดิม

"อะ เฮ่ย เจ้าเป็นอะไรนะ" เกรนที่เริ่มหวั่นใจนิดๆ เพราะเสียงร้อยแบบนี้เขาเคยได้ยินมาก่อน

"ขะ ข้าไม่รู้ แฮะ แฮะ มันร้อนรุ่มไปทั่วร่างเลย แฮะ แฮะ"

"เอางี้เจ้าค่อยๆหายใจเข้าออกช้าๆปล่อยใจให้สบายนะ" เกรนเห็นถ้าไม่ดีอย่างที่คิดหละ

"ขะ ข้าก็พยายามอยู่แต่มันไม่ได้ กายมันร้อนรุ่มไปหมด ขะ ข้า ขอท่านได้มั้ย"

"หืม เจ้าจะเอาไรหละ"

"ชะ ช่วยอยู่นิ่งๆก่อน ขะ ข้า อืมมมมม" นางกดมือยันหลังเกรนที่นอนชันศอกอยู่ แล้วแนบล่องนางไปกับขาของเขา

"อะ เฮ่ย ข้าว่าเจ้าไม่ควรนา" เกรนที่ตอนนี้รู้แล้วว่านางจะทำอะไรเพราะอาการของนางบ่งบอกเหมือนกับตอนที่นอนกับมิเรน

"ขะ ข้าทนไม่ไหวแล้ว อะ อาาาาา" นางเอ่ยแล้วเริ่มขยับเอวให้ส่วนล่องนางถูไปกับขาของเกรนไปมา

(อะ เออ มันเกิดขึ้นได้ไงฟะ) เกรนได้แต่คิดหาคำตอบในใจกับอาการของอายะ

"อะ อาาาาาา ซีดดดดดดด ดีจัง อาาาาา"

(อืม เนินนางก็นิ่มดีนะ เฮ่ย ไม่ได้ๆ เราจะมาหื่นตอนนี้ไม่ได้)

"ซูดดดดด อาาาาาา เยี่ยมไปเลย อะ อาาาาาา" นางเริ่มขยับเร็วขึ้น และทิ้งน้ำหนักกดลงมามากขึ้น

(อู้ววว มะ ไม่ไหวแล้วโว้ย เล่นใช้ขาตูระบายอารมณ์แบบนี้ใครจะไปทนไหวฟะ) ตอนนี้เกรนน้อยเริ่มตื่นขึ้นมาหลังจากที่เขาพยายามสดอยู่นานสองนาน

"อะ อะ อะ อาาาาา ข้าไม่ อะ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ในที่สุดนางก็เกร็งกายกดเอวสายวนแน่กับที่ไปกับขาของเกรน สองมือที่ยันกายเปลี่ยนเป็นจิกลงแผ่นหลังเขาอย่างแรงจนเจ็บแป๊บๆ แต่มันกับเป้นการกระตุ้นเขาไปอีกทาง เกรนรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลซึ่มผ่านกางเกงนางออกมาชะโลมขาของตนจนไหลออกข้างขาลงเตียงไป

"แฮะ แฮะ แฮะ" หลังจากเกร็งกายถึงสวรรค์ไม่นานนางก็ล้มตัวฟุบไปบนหลังเกรนอย่างอ่อนแรง

"อายะ ขะ ข้าว่า" เกรนพยายามหันหน้าไปบอกนาง แต่ไม่ทันขาดคำนางก็ยื่นริ้มฝีปากขึ้นมาประกอบจูบกับเขา

"อืมมมมม"

ในที่สุดวามอดกลั่นของเขาก็หมดลง เขาเอี้ยวตัวหมุนให้นางลงไปนอนบนเตียงส่วนตัวเขากับมาคล่อมนางเอาไว้ โดยที่ริ่มฝีปากทั้งสองไม่แยกออกจากกัน เกรนส่งมือไปประคองหลังศีรษะนางจูบเรียบริมฝีปากน้อยรอบหนึ่งส่วนอีกมือก็ยื่นไปลูบไล่ใบหูคออ้อมผ่านแผ่นหลังไปโอบเอวไว้ แล้วบดฝีปากลงไปพร้อมส่งลิ้นเข้าไปชอนไชในปากนางด้วย อายะที่ไม่เคยมาก่อนแม้กระทั่งจูบได้พยายามจูบตอบโดนเรียบแบบเขา

"อืมมมมม อื๊มมมมมม" จุ๊บๆจ๊วบๆ

"ฮืมมมมม ฮืมมมมม" จุ๊บๆจ๊วบๆ

การจูบที่เผ็ดร้อนผ่านไปไม่นาน นางก็เริ่มรู้สึกร้อนรุ่มกายขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้นางไม่สะกดมันเอาไว้กับปล่อยออกมาทางเสียงแทน

"อาาาา แฮะ แฮะ ท่านเกรนข้า รู้สึกร้อนอีกแล้ว อืมมมมมม"

"งั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง" เขาจูบนางอีกครั้งแล้วถอนฝีปากไปจูบแก้นางแล้วเลื่อนลงมาบริเวณอกขนาดผลส้มของนางมือที่ประคองศีรษะนางวางศีรษะลงบนหมอนนอนแผ่วเบา แล้วเลื่อนมานวดเคล้นอดและยอดถัดนางไปมา อีกมือไม่อยู่นิ่งหลังจากที่ได้ปลดเสื้อบนนางออกแบบหลวมๆ แล้วก็ขยับลงไปบดสายรัดเอวออกแล้วดึงกางเกงที่เปียกไปด้วยน้ำอุ่นเป็นดวงขนาดใหญ่ออกทางขานาง อายะที่เอามาโอบคอเกรนไว้เชิดหน้าครางให้ความร่วมอย่างดีนางยกก้นแล้วขยับขาให้เขาสามารถถอดกางเกงได้ง่ายขึ้น

"อาาา ซีดดดด สะ เสียงจัง อาาาา"

"ฮืมมมม" เรนครางในคอทั้งที่ปากยังจูบวนรอบๆอกนางไปมา มีวนไปดูดแรงๆที่ยอดบ้างเล็กน้อย

"ซีดดดด ดีจัง อาาาาาาา"

ตอนนี้มือที่เหลือจากการถอดกางเกงอายะได้ปลดกางเกงตนออกไปแล้วเช่นกัน ทำให้เกรนน้อยออกมาสู้โลกกว้างผงกหัวอยู่ตรงหน้าขานาง เขาค่อยๆเคลื่อนกายลงจูบวนรอบสะดึนางไล่ลงไปเนินด้านล่างของนาง เขาจ้องพิจารณาอยู่พักหนึ่งเนินนางนั้นมีพงหญ้าขึ้นน้อนมากแถมบางอีกตั้งหาก ส่วนร่องถ้ำนั้นยิ่งแล้วใหญ่สองกลีบสีชพูนั้นปิดสนิท เขาค่อยๆใช้มือแหกกลีบออกข้าหนึ่งเผยให้เห็นติ่งเสียวนางที่เล็กเท่าเม็ดถั่วอยู่ด้านใน เขาผังหน้าลงเนินแล้วค่อยเลียกลีบทั้งสองสลับดูดติ่งเสียวนางไปมา

"อะ อี้ออออออ ซูดดดดดดด อาาาาาาาาาา" อายะถึงกับออกแรงกดหัวเกรนแน่นยกเอวลอยขึ้น ระบายกับความเสียวที่ได้รับ

"อะ อาาาาาาา ซีดดดดด เสียงอะไรอย่างงี้ อาาาาาา"

"ฮืมมมมม"

"อะ โอ้วววววว เร็วขึ้นอีก ท่านเกรน ขะ ข้าจะ อาาาาาา" นางเริ่มโยกเอววนไปมากดหน้าเกรนแน่ขึ้น

"ฮืมมมม" แผ็บๆ จ๊วบๆ เกรนขยับลิ้นเร็วขึ้น เลียวนขึ้นไปดูดติ่งเสียวหนักขึ้น และใช้อีกมือส่งนิ้วชี้แหย่เข้าไปรู้นางนิ้วหนึ่ง เพื่อควานเพิ่มความเสียงให้แต่นางมากขึ้น

"อะ อะ อาาาาาา โอ้ยยยยยยยย ขะ ข้า ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยย" อายะถึงสวรรค์ไปอีกครั้งน้ำรักนางไหลทะลักออกมาอย่างไม่หยุดแต่เกรนก้พยายามดูดดื่มให้หมดทุดหยดเช่นกัน นั้นทำให้นางยิ่งเสียวมากขึ้นไปอีก

"แฮะ แฮะ แฮะ แฮะ ท่าน เกรน ขะ ข้า แฮะ แฮะ" นางพยายามจะกล่าวอะไรซักอย่าง

"อายะข้าขอเจ้าได้มั้ย" เกรนที่เลียน้ำรักนางจนหมดก็เงยหน้าขึ้นเอ่ยกับนาง

"จนป่านี้ แล้วท่านจะมาพูดอะไรอีก" นางเอ่ยขึ้นพร้อมเอามือปิดตาสองแก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันตาจากที่ออกชมพูนิด

"งั้นเจ้ายอมเป็นภรรยาของข้าสินะ" เกรนเอ่ย

"อะ อืม" อายะออกเสียงเบาๆ พร้อมหงกหัวขึ้นลง

"ขอบใจเจ้ามาอายะ" เกรนเอ่ยพร้อมขยับกายขึ้นมาเกาะมือนางออก แล้วจูบปากนาง

"อืมมมมม"

"ข้าจะใส่หละ จะเจ็บสักหน่อยของเจ้าเล็กมาก" เกรนถอนปากออกแล้วกระซิบข้างหูนางเบาๆ

"คะ ข้าพร้อมแล้ว"

เกรนส่งมือจับเกรนน้อยให้จ่อกับปากถ้ำนางแล้วค่อยเบียดกายดันให้เกรนน้อยเข้าไปยังถ้ำอย่างใจเย็น

"อะ อี้" นางขยับตัวจากความแน่ที่ปากถ้ำ

"อือ หัวติดหละ ข้าจะเอาเข้าหละนะ"

เกรนออกแรงนิดหนึ่งดันแท่นกายเขาไปในถ้ำจนหัวเข้าไปได้ทั่งแท่น

"อี้ อาาาาาา มันแน่จัง" อายะกัดฟันเอ่ย

"เจ้าไม่เป็นไรนะ"

"อะ คะ ท่านต่อเถอะ"

เกรนจึงออกแรงกดแทนกายเข้าไปอีกจนชนแผ่นกันบางเข้า คราวนี้เป็นเสียงร้องเจ็บของนางออกมาแทน

"อะ โอ้ยยยยย จะ เจ็บหยุดก่อนเถอะ"

"ฮืมมมม" เกรนรับคำแล้วเริ่มเล่าโลมนางให้มีอารมณ์เสียวคลายเจ็บ เขาจูบปากนางแล้วส่งมือข้างหนึ่งที่จับแท่านกายไปเคล้นคลึงอกและบีบยอดถัดนาง ส่วนอีกมือเลือนจากการเกาะเอวนางไม่ให้หนีมากุมก้นงอนนางแล้วขยำเบาๆไปมา

"อืมมมมม อาาาาาา ท่านเกรนข้า ไม่เจ็บแล้ว" อายะที่เริ่มเสียวขึ้นมมา จนหายเจ็บผละออกจากการจุบเขาแล้วกล่าว

"เจ้าพร้อมนะ"

"คะ คะ อืมมมมม" อายะตอยได้แค่นั้นก็โดนเกรนจูบอีกครา พร้อมทั้งขยับแท่นกายเขาอย่างแรงเพราะต้องผ่านเยื่อกันนี้ไปให้ได้ก่อน ผลจากแรงกระแทกทำให้เกรนน้อยเขาไปได้ถึงครึ่งท่อน

"อุบบบบบบบ" นางร้อยออกเสียงในลำคอ เขาจึงหยุดให้ภายในถ้ำปรับตัวอีกครั้ง ส่วนสองมือก็ยังทำงานของมันอยู่เพื่อลดความเจ็บของนาง

"อืมมมม อาาาาา" เกรนที่เห้นว่าร่องนางเริ่มหมิบเขาอีกครั้งก็ถอนจูปแล้วไปไซ้แก้มหุและต้นคอนางแทน แล้วเริ่มดันส่วนกายเข้าไปอีกครั้งจนสุด

"โอ้ววววว ซีดดดดด"

"อู้วววว สุดแล้วนะอายะ"

"มะ มันทั้งแน่นเจ็บเสียวบนกันไปหมด อูยยยยยยย" นางพยายามขมีบและสายก้นไปมา

"ไม่ต้องห่วงจากนี้ไปเจ้าจะเสียงอย่างเดียวแล้ว"

"บ้า ท่านเกรนนะพูดอะไรเนี่ย" นางหันหน้าไปอีกทางอย่างอายๆ

"เจ้านี้พอแบบนี้แล้วน่ารักจริงๆนะ" เกรนกล่าวชมพร้อมขยับแท่นกายให้หมุนควานภายในถ้ำ

"อู้ววววววว ซีดดดดด" นางร้องเสียงหลงทันที ส่วนเอวเริ่มสายไปมารับกับการควงของเขา เมื่อเห็นดังนั้นเกรนจึงขยับเกรนน้อยถอยออกช้า

"อูยยยยยยย" นางแอ่นกายตามแท่นกายของเขาที่ถอนออกช้าๆ แต่พอเกรนถอนจนถึงหัวหยักเขาก็กระแทกกายเข้าไปส่วนกัยการแอ่นกายขอนาง

"อุบบบบบ ซีดดดดดด" จากนั้นเขาก็ขยับเช่นเดิม และนางก็แอ่นกายเช่นเดิม ซ้ำไปมาจนเขารู้สึกได้ว่าภายในถ้ำนั้นเลื่อนมากแล้วจึงเปลี่ยนจังหวะเป็นสาวกระแทกถี่ขึ้น

"อะ อาาาาา ซูดดดด สะ เสียว อะ อาาาาา"

"อู้วววว สุดยอด"

"อาาาาา ซีดดดดด ท่านเกรน เร่งอีกก็ได้ ขะ ข้าไม่เจ็บแล้ว อู้วววววว" นางขยับขาที่อากว้างไปรัดเอวเขา แล้วขยับกายสวนการกระแทกของเขาไปด้วย

"ฮะ ฮะ ฮาาาาา ฮืมมมมมม" เกรนก้มลงยันศอกกับเตียงแล้วสอดมือใต้เอวนางยกตัวนางขึ้นสวนกับการกระแทกเข้าของเขา อีกมือก็ไปเคล้นอกนางอย่างมันมือ

"ซูดดดดด อะ อาาาาาา เร็วอีกท่านเกรนขะ ข้า เสียว อะ อาาาาาา"

"ฮะ ฮะ อู้วววววว ของเจ้ายอดจริงๆ"

"โอยยยยย ซีดดดดดด อาาาาาา ทั้งเสียวทั้งแน่น อาาาาาาา"

"ฮะ เป็นไง อย่างที่ข้าบอก มันจะเสียวอย่างเดียว อุ้ววววว"

"ทะ ท่านเกรน บ้า อู้วววววว ซีดดดดดด"

"ท่านเกรน ขะ ข้า ก็จะ อาาาาาา ซีดดดดด อีกแล้ว อาาาาา"

เกรนจึงเริ่มกระแทกเร็วขึ้นให้ตนเสร็จทันนาง

"อะ อะ อาาาาาา อะ อะ ซีดดดดดด อะ อู้ววววว ขะ ไม่ไหวแล้ว"

"ฮะ ฮะ ข้าด้วย อู้วววว"

"อะ อา อ่า อะ ซีดดดด มะ มาแล้ว อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ในที่สุดนางก็ถึงสวรรค์ไปก่อน ร่างนางสั่นกระตุกเฮือกๆ ก่อนที่จะหมดเรี่ยวแรงอ่อนให้เกรนกระแทกอีก สองสามทีเขาก็บ่อยน้ำเสียงเข้าสู่ถ้ำนางตามไปติดๆ

"ฮึก อาาาาา" นางกระตุกรับกับน้ำอุ่นๆที่พุ่งเข้ามาโดนมดลูกนางหลายครั้ง ทุกครั้งที่น้ำรักของเขาเข้ามาภายในตัวนางเหมือนมีอะไรบางย่างหมุนเข้ามาแล้ววนจากตัวนางออกไปผ่านถ้ำของนาง แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อนจากเกมรักจึงมิได้สนใจมากนัก

"อู้ววววว" เกรนโน้มตัวลงกอดทับนางบนเตียง อย่างหมดแรง เขาก็รู้สึกถึงพลังบางอย่างเรือนรางที่ไหวเวียนไปทั่วร่างจากการเสร็จสมครั้งนี้ ก็พอรู้แล้วว่าความสมารถวิชาตนได้ทำงานแล้ว จึงยังเสียบแท่นกายตนเอาไว้อย่างนั้น

"แฮะ แฮะ เจ้ามีความสุขมั้ย" เกรนที่ยังกอดนางอยู่เอ่ยขึ้นข้างหูนางเบาๆ

"อะ อืม" นางขยับกายซบบ่าเขาพรางเอ่ยพักหน้าตอบ พยายามซึ่มซับรสรักที่ได้รับเข้ามาในกายตน

"ดีแล้ว ข้าดีใจที่ได้เจ้ามาเคียงข้างอีกคน" เกรนเอ่ยพร้อมหมุนตัวให้นางขึ้นมาอยุ่ด้านบน พร้อมเอื่อมมืออีกข้างไปดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งเขาและนาง

"แสดงว่ามิเรนก็ด้วยหรือคะ" นางมองตาเขา

"ใช้แล้วเจ้าขัดอะไรหรือไม่"

"ไม่คะ ข้าไม่ได้ขัดอะไร แค่ไม่แน่ใจว่านางจะยอมหรือไม่"

"อืม เรื่องนี้ข้าจะคุยกับนางเอง เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าได้เจ้าแล้วไม่คิดทิ้งไปหลอก"

"คะ ข้าเชื่อใจท่าน" นางกล่าวแล้วซุกนอนยังแผงอกกว้างของเขา

"เจ้าคงเหนื่อยมากแล้วสิ นอนเถอะไว้เรื่องนี้ค่อยว่ากันพรุ้งนี้" เรากล่าวแล้วขยับมือโอ้บกอดและลูบผมนางเบาๆจน ทั้งสองหลับไป

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 20 - ข่าวร้าย

ไม่นานทั้งสองก็เดินกลับมายังจุดตั้งเต็นของเกรน

เขาพานางไปแนะนำและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกสมชายและมิเรนฟังแต่ไม่ได้เล่าประวัตินางทั้งหมดรวมถึงเรื่องคำสาบที่สามที่เกรนยังไม่รู้ว่าคืออะไรด้วย

"เรื่องมันก็เป็นแบบนี้หละ" เกรนกล่าว

"งั้นไอ้หัวโจกพวกนี้ก็หนีไปได้สินะ" สมชายสรุปง่ายๆแล้วชี้ไปที่กองโจรที่โดนมัดด้วยเชือกอย่างแน่หนานั่งกองกันอยู่

"ข้าต้องขอโทษพวกท่านด้วยจริงๆ" อายะที่เงียบมานานได้เอ่ยขึ้น

"ไม่เป็นไรหลอก แม่นางท่านน่าสงสารมากกว่าด้วยซ้ำ" สมชายเอ่ย

"เมื่อเข้าใจกันแล้ว ข้าขอตัวไปจัดการเต็นข้าซักหน่อยนี้ก็ใกล้สว่างซะแล้ว" เกรนกล่าว

"นั้นสิ เอางี้พวกเจ้าไปนอนอีกสักหน่อยแล้วค่อยออกเดินทางกันไม่งั้น จะแย่เอานะ ถึงจะไปถึงหมู่บ้านช้ากว่าที่กำหนดซักหน่อยคงไม่เป็นไรหลอก" สมชายเอ่ย

"ข้าว่าเราออกเดินทางให้เร็วขึ้นจะดีกว่าไม่รู้ว่าหัวหน้าโจรนั้นจะไประดมพวกมาแก้แค้รหรือเปล่า" เกรนเอ่ย

"ข้าสนันสนุน ท่านเกรนคะ เพราะที่จำได้ฐานพวกนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากที่นี้มากนัก" อายะเอ่ย

"เช่นนั้นหรือ อืม" สมชายกล่าว แล้วหันไปมองลูกน้องตน

"ก็ดีนะคะ จะได้ส่งตัวคนเจ็บไปรักษาดีๆด้วย" เป็นคุณหนูนาริสาที่เอ่ยขึ้น

"ถ้าคุณหนูว่าเช่นนั้นก็ได้ พวกเราเดี่ยวมาร่วมกินข้าวเช้ากัน แล้วแยกไปเตรียมตัวเดินทางกัน" สมชายสรุป

ทุกคนขานรับ แล้วแยกย้ายกันไปทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ มานั่งกินกันระหว่างนั้นสามสาวก็ดึงตัวอายะเข้าไปในเต็นกินอาหารเช้าไปสัมภาษณ์ทำความรู้จักนางไปด้วยเป็นเสียงดังสนุกสนาน ส่วนเกรนที่นั่งกินกับพวกสมชายด้านนอกก็ปรึกษาเรื่องโจรกันว่าจะทำอย่างไรดี

"คงต้องคุมตัวไปจนถึงหมู่บ้านแล้วค่อยส่งตัวให้ทหารดูแลต่อไปหละ" สมชายกล่าว

"เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ไปเมืองใหญ่ คงได้ค่าหัวกันอยู่" มีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

"555 ดวงคงไม่สมพงกับรางวัลค่าหัวหละมั้ง" ชายอีกคนเอ่ยตลก

"เอาน่าๆ พวกเราแยกย้ายกันไปเก็บเต็นของตนเองแล้วมาสมทบกัยที่รถม้าซะ นายสองคนอย่าลืมกลบฟืนไฟด้วยหละ"

แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปจัดการงานของตน เกรนเดินไปจัดการกับเต็นของของตนจนเสร็จสับแล้วกลับมายังรถม้าที่ตอนนี้สมชายเอาม้ามาเทียบรถเสร็จแล้ว ส่วนพวกที่เหลือก็แบ่งกลุ่มออกไปคุมพวกโจรที่จับได้ให้เดินเท้าตามหลังรถม้าไป จากนั้นทั้งคณะก็เริ่มออกเดินทางต่อ ซึ่งระหว่างทางนั้นไม่พบอะไรผิดปกติ หรือพวกโจรจะตามมารังควานอะไรอีก ทำให้คณะสามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านที่หมายได้ก่อนเที่ยงวันพอดี

สมชายที่หลังจากเปิดห้องพักแล้วได้ขอตัวนำตัวโจรที่จับกุมได้ไปส่งให้แก่ทหารประจำหมู่บ้านก่อน ส่วนเกรนนั้นได้เช่าห้อง2ห้องให้มิเรนนอนกับอายะ ส่วนตนแยกนอนอีกห้อง หลังจากที่เขาเก็บสัมภาระเสร็จก็ออกเดินเล่นยังตลาดเล็กๆของหมู่บ้านแห่งนี้พร้อมพวกสาวๆ

เมื่อเข้าถึงตัวตลาดเกรนเลือกนั่งพักที่ร้านน้ำชาข้างทาง ปล่อยให้สาวๆออกเดินดูของกันเอง โดยกำชับมิเรนว่าถ้าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรก็ติดต่อผ่านทางจิตได้ตลอดและอย่าเดินเล่นจนเลยระยะที่นางสามารถออกห่างเขาได้ด้วย  หลังจากที่เกรนนั่นและสาวๆออกไปแล้วเขาก็สั่งน้ำชาขนมมาชุดหนึ่งแล้วรวมกระแสจิตกับปราณขยายการรับฟังให้ไกลขึ้นเพื่อรับฟังข้อมูลที่มีคนพูดคุยกันในร้านและรอบๆ เพราะเขาต้องการเก็บข้อมูลทั่วไปของแดนใต้เผื่อได้ใช้ในอนาคต

ซึ่งข้อมูลที่ได้นั้นมีมากมายตั้งแต่ด้านผลผลิตของแดนใต้ที่ไม่สู่ดีนัก การปล้นชิงที่เกิดขึ้นบ่อยมากขึ้น การข่นย้ายสินค้าจากทางเหนือ การส่งออกโดยร่วมที่ตกลง การเคลื่อนไหวของราชสำนักแดนใต้ แต่มาสนใจตรงที่ว่า ข่าวการล่มสลายของสำนักคุ้มกันอันดับสาม ซึ่งชื่อมันคุ้นๆอย่างมาก

"อุวะ ช่วงนี้มันแย่จริงๆ พวกโจรออกมาเพ่นพ่านมากขึ้นพวกสำนักคุ้มกันใหญ่มีฝีมือก็ขึ้นราคาค่าจ้างอีก แบบนี้ไม่ไหวนา"

"ใช้เลยนี้ข้ากัดฟันจ่ายเลยถึงของของได้ถึงนี้อย่างปลอดภัย"

"555 พวกเจ้าเอาแบบข้าสิ ร่วมกลุ่มกันจ้างแล้วออกมาพร้อมกันมันถูกลงไปแยะพอสมควรหละนะ"

"ก็เจ้าว่าได้นิ ของเจ้ามันสินค้าเครื่องประดับ ไม่เหมือนของพวกข้าที่เป็นพวกอาหารผักผลไม้คงรอให้ร่วมกันจ้างไม่ไหวหลอก แถมขึ้นราคาซะ"

"ใช่ๆ ราคานะถึงร่วมกันจ้างมันก็ยังแพงอยู่ดี ถ้านับจากกำไรที่พวกเราได้จากการขายของไปแล้ว แทบเหลือน้อยมากเลยไม่ไหวๆ"

"อือ ก็จริงของพวกเจ้านะ แล้วนี้พวกเจ้าคงอยู่ที่นี้ต่อจนขายหมดเลยสิ"

"ก็คงงั้นถ้าจะไปต่อคงต้องจ้างพวกมันอีก อย่างงี้คงไม่ไหวขาดทุนพอดี"

"อือ ต้องทนขายดูที่นี้หละอย่างน้อยก็น่าจะเท่าทุนอยู่บ้าง"

"นี้ถ้าพวกสำนัก 'สิงห์คะนองเดช' ไม่โดนพวก 'สมิงคำราม' กับ 'ฟ้าไร้ปราณี ' ร่วมมือกันบุกถล่มนะ สถานการณ์คงไม่แย่แบบนี้แน่ๆ"

"นั้นสิ แต่โลกเราก็แบบนี้หละ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก"

"แต่ที่น่าโมโหก็ราชสำนักไม่ติดตามเอาความอะไรเลย บอกซะเป็นเรื่องระหว่างสำนักเอง และไม่ได้ทำร้ายประชาชนด้วย"

"เฮ่ย ถึงไม่โดยตรงแต่ก็โดนอ้อมๆหละว้า พอสำนัก 'สิงห์คะนองเดช' ล่มไปพวกโจรก็เพิ่มขึ้นทันตาเลย แถมอีกสองสำนักใหญ่ก็ขึ้นราคาค่าจ้างอีก แบบนี้โดนพ่อค้าประชาชนเต็มเลยตั้งหาก"

"เฮ่ย พูดไปก็แค่นั้นหละ"

"ข้าคงต้อขอตัวไปดูร้านต่อหละ ปล่อยให้เมียดูน่าแล้วเดี๋ยวโดนด่าหูชาได้"

"อืมๆ ข้าไปด้วยจะไปดูว่ามีร้านไหนยังต้องการผักสดอีกมั้ย เผื่อจะขายได้อีกซักนิด"

"งั้น ข้าจะอยู่กับใครหละ งั้นข้าไปดูร้านค้าเพชนดีกว่าเผื่อมีแลกเปลี่ยนของกันได้บ้าง"

จากนั้นพ่อค้าสามคนนั้นก็เรียกเก็บเงินแล้วเดินแยกย้ายกันไป เกรนที่ฟังอยู่ก็นึกขึ้นได้ว่าชื่อสำนัก 'สิงห์คะนองเดช' มันเป็นสำนักสังกัดของพวกสมชายนี้เอง จึงเรียกเก็บเงินแล้วออกตรงไปยังสถานทำงานของกองกำลังทหารประจำหมู่บ้านทันที โดยส่งกระแสจิตไปบอกมิเรนว่าจะไปคุยธุระกับสมชายสักหน่อยถ้าพวกนางเดินเสร็จแล้วให้ไปนั่งรอที่ร้านน้ำชาก่อน

เกรนเดินไม่นานก็มาถึงหน้าสถานทำงานของกองกำลังทหารประจำหมู่บ้าน เขาก็เห็นสมชายกับพวกยืนเกาะกลุ่มคุยกันเคลียดข้างหน้าพอดี จึงตรงรี่เข้าไปหา

"สมชายข้ามีเรื่องจะบอกท่าน เกี่ยวกับสำนักของท่านนะ" เกรนกล่าวด้วยความเป็นห่วง

"หืม เกรนหรือถ้าเรื่องยั้ยพวกข้ารู้แล้ว เมื่อกี้ถามไถ่สถานการณ์แดนใต้จากพวกทหารมานะ" สมชายว่า

"งั้นหรือแล้วพวกท่านจะทำเช่นไรหละ"

"ข้าก็ยังไม่แน่ใจ ต้องลองสืบหาข้อมูลให้มากกว่านี้สักหน่อย"

"เป็นเช่นนั้นหรือ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ ข้าเต็มใจช่วยเสมอ" เกรนกล่าวพรางยิ้มนิดให้กำลังใจอีกฝ่าย

"อืม ถ้าถึงเวลานั้น แล้วจำเป็นจริงๆข้าต้องขอรบกวนเจ้าหละ" สมชายรับคำ

"มันแน่อยู่แล้ว" เกรนกล่าวยิ้มกว้างขึ้น

"งั้นพวกข้าขอตัวแยกย้ายกันไปสืบข่างกันก่อนดีกว่า ไว้เจอกันตอนเย็นที่โรงพักผ่อน

"อืม โชคดีท่านถ้าข้าได้ยินข่าวอะไรเพิ่มจะไปบอกท่านตอนเย็นเช่นกัน"

"ขอบใจเจ้ามาก ข้าไปหละ" สมชายกล่าวลาเดินแยกย้ายกันไปหาข่าว

เกรนยืนมองพวกสมชายที่เดินแยกย้ายกันไป แล้วเดินกับไปยังร้านน้ำชา ก็พบว่าพวกสาวๆได้มานั่งรออยู่แล้วโดยมีขนมน้ำชาวางตรงหน้ากันครบถ้วนทุกคน เขาหยุดทำอารมณ์แปปหนึ่งแล้วเดินยิ้มเข้าไปหาพวกสาว

"เป็นไงกันบ้าง พวกเจ้าสนุกกันมั้ย" เกรนถามขึ้นแล้วเอื่อมมือไปดึงเก้าอี้โตะข้างๆมานั่งข้างมิเรน

"อืม ที่นี้มีของสวยเยอะเหมือนกัน โดยฉะเพาะพวกเครื่องประดับนะ" มิเรนที่กล่าวขึ้นคนแรก

"อืม ข้าก็ชอบนี้ไงคุณหนูยังซื้อมาสองชิ้นเลย" เบญจมาศเอ่ย พร้อมดึงสร้อยคอกับปิ่นออกมาโชว์ให้เกรนดู

"อา สวยๆ แล้วมิเรน อายะ พวกเจ้าไม่ซื้ออะไรเลยหรือ" เขาชม แล้วหันไปถามมิเรนกับอายะ

"ข้าเสียดายเงินนะ เราต้องเก็บไว้ใช้จ่ายระหว่างเดินทางอีกมาก" มิเรนเอ่ย

"ส่วนข้าแค่ท่านชอบเอาไว้แล้วให้ติดตามไปด้วยก็พอใจแล้วไม่อยากรบกวนอะไรท่านอีก" อายะที่กล่าวออกมาแบบจริงจัง

"เฮ่ย เอาเถอะ ข้าขอบใจพวกเจ้าที่นึกถึงข้าขนาดนี้" เกรนกล่าว

"แล้วท่านเกรนไปคุยอะไรกับสมชายหรือคะ" นาริสาที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น

"อะ อา เออ คุยเรื่องโจรที่เราจับได้นะ ว่ามันเป็นพวกไหน กลบดานที่ไหน หัวหน้าเป็นใคร อะไรพวกนี้หละ" เกรนกล่าวเฉไฉไปเพราะไม่ต้องการให้นาริสารู้เรื่องสำนักในตอนนี้ เขาคิดว่าน่าจะปล่อยให้พวกสมชายเอ่ยจะดีกล่าวตนนอกแบบเขา

"งั้นหรือคะ" มิเรนรับโดยไม่สงสัยอะไร แต่อีกสามคนมองด้วยสายตาสงสัยอยู่

"555 นี้ก็ไกล้ค่ำแล้วหมู่นี้โจรมากด้วย พวกเรากลับไปยังโรงพักผ่อนเถอะ ป่านี้สมชายคงรอที่นั้นอยู่แล้ว" เกรนรีบออกตัวเปลี่ยนเรื่องทันที

"นั้นสินะคะ ข้าก็เหนื่อยด้วยเดินดูของตั้งนาน" มิเรนเห็นด้วย

"ช่วยไม่ได้นา คุณหนูคะพวกเรารีบกับตามที่ท่านเกรนว่าเถอะคะ" เบญจมาศเอ่ยขึ้น

"อืม" นาริสาตอบรับ

เกรนจึงสั่งเก็บเงินแล้วทั้งหมดพากันเดินกลับไปยังโรงพักผ่อน พอไปถึงก็พบวมชายยืนรออยู่ด้านหน้าเขาเชิญนาริสาเข้าไปยังห้องพิเศษที่ตนเช่าเอาไว้คุยเป็นการฉะเพาะกลุ่ม เกรนจึงแยกตัวกลับห้องของตนไป ส่วนมิเรนกัยอายะก็แยกไปห้องพวกตนเอง

เมื่อเกรนเข้าห้องไปแล้วจึงล็อกห้องเปิดหน้าตาระบายลม แล้วมานั่งสมาธิที่เตียงของตน เพื่อพื้นพลังที่ใช้ไปตอนผนึกอายะ สัมผัสทุกส่วนขยายความรับรู้การเคลื่อนไหวรอบตัวผ่านสายลมรอบกาย ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ไม่ทันใดก็สัมผัสได้ถึงคนๆหนึ่งตรงหน้าต่างห้อง คนนั้นเข้ามาทางหน้าต่างเดินตรงมายังเขาที่ยังคงอยู่ในท่านั่งสมาธิ แล้วหยุดยืนอยู่อย่างนั้นอยู่นานจนเขาสงสัย จึงต้องค่อยๆลืมตาขึ้นมอง

"อายะ เจ้ามีอะไรก็ว่ามาเถอะ ข้าสัมผัสเจ้าได้นานแล้ว"

"คะ ข้าเห็นว่าท่านอ่อนกำลังลงกว่าตอนที่ปะทะกัยข้าตอนที่โดนควบคุมอยู่"

"หืม เจ้ารู้ได้ไงหละ"

"ข้าสัมผัสได้จากการกระจายของจิตท่าน ตอนที่นั่งสมาธิคะ"

"อืม ห้องอยู่ติดกัน แต่สามารถจับกระแสจิตได้อย่างงี้เจ้าคงชำนาญด้านนี้สินะ"

"คะ สายวิชาของข้าเน้นความเร็วและเงียบ ส่วนมากจะใช้พวกจิตในการลบรอยและโจมตี"

"อืม เป็นอย่างที่เจ้าว่านั้นหละ แล้วเจ้าจะช่วยข้าอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าไอ้สายด้านนี้ถ่ายทอดกันแบบลมปราณได้นะ หึหึ"

"ไม่ใช่หลอกคะ วิชาสายนี้มีข้อเสียตรงที่หากใช้มากๆจะเหนื่อย การพื้นนั้นต้องพักนอนเท่านั้น ไม่งั้นก็ช่วยทำให้ผ่อนคลายก็ช่วยได้เหมือนกัน"

"หืม ข้าก็ทำอยู่นี้ไงหละ เจ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้หรือ"

"แน่นอนคะ"

"โอ้ว แฮะ แล้วมันเป็นไงหละ"

"ข้าสามารถใช้วิชาการนวดคลายจุดได้ มันจะช่วยให้ท่านผ่อนคลายได้อย่างมาก"

"หืม ข้าก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน เจ้าเรียนมาหรือ"

"ใช้ ข้าเรียนมาตั้งแต่เล็กนวดให้ท่านพ่อ" นางอ่อนเสียงลงตอนท้าย

"เอะ ข้าขอโทษด้วย ที่ถามให้เจ้าต้องคิดถึงพ่อเจ้าอีก"

"มะ ไม่เป็นไรหลอกคะ ท่านจะลองมั้ยคะ"

"อืม ต้องรบกวนเจ้าด้วย"

"คะ งั้นท่านเกรนนอนคว่ำหน้าลงเลยคะ" อายะตอบรับ

เกรนหันหน้าไปนอนคว่ำหน้าลงบนเตียง ส่วนอายะก็ขยับไปยังขาของเกรนจัดท่าทางของเขา แล้วเริ่มทำการนวดตามขั้นตอนที่ตนเรียนรู้มา


วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 19 - ระหว่างทาง(3)

"อ๊ากกกกก" เกรนร้องเสียงหลงอย่างตกใจ

"เวรหละ พลังเราโดนดูดผ่านเวทออกไป เอามือไม่ออกด้วย" เกรนรู้ได้เลยว่าพลังทั้งสามสายของตอนตอนนี้ค่อยไหลออกไปยังวงเวทที่ทาบมืออกของอีกฝ่ายอยู่

"เป็นไงเป็นกันวะ ย๊ากกกกก" เกรนเห็นว่าไม่สามารถถอนมือได้แล้วจึงทุนส่งพลังทั้งสามสายลงสู่วงเวททันที

เวลาผ่านไปประมาณ 20นาที เกรนที่มีเหงื่อออกจนท่วมตัวยังคงถ่ายพลังลงสู่วงเวทอย่างนั้น แต่ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้น วงเวทหยุดการดึงพลังจากชายหนุ่มแล้วเปล่งแสงแสบตามากว่าเดิมจนเกรนต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาบัตาไว้

วูบบบบบ วิ๊งงงงงงง ฟู่.....

เกิดเสียงและควันคลุ้งจากการทำงานของวงเวทขึ้นจนเกรนมองไม่เห็นรอบๆตัวพักใหญ่ จนสายลมพัดพาควันหายไปเขาก็สังเกตุเห็นชายร่างเล็กตรงหน้า

"เอ๋" เกรนรู้สึกผิดปกติบริเวณมือที่ตนทบบนอกของอีกฝ่าย

"เฮ่ย นี้มันอะไรกัน เจ้านี้ไหงมีหน้าอกออกมาได้ฟะ" แต่พอส่ายสายตาไปมองหย้าอีกฝ่ายที่สลบอยู่พอว่าใบหน้านั้นเรียวเล็กลงมาอีก คิ้วที่คมเข้มเปลี่ยนเป็นคมงามแบบหญิงสาว ทั้งปากก็เช่นกัน ส่วนสองแก้มกับเป่งนวลออกมาเห็นได้ชัด ทำให้ตอนนี้ใบหน้ารับกับผิวนวลงามได้สมส่วน

"เว้ย นี้มันผู้หญิงชัดๆเลย ไหงเป็นอย่างนี้ได้" เกรนที่ตกใจขยับตัวถอยห่างออกมาเล็กน้อย

"อืม" อีกฝ่ายที่รู้สึกตัวได้ส่งเสียงออกมา เป็นเสียงเล็กตามขนาดตัว นับตาสีฟ้าใส่จ้องมองเกรนเขม็ง

"นะ นี้มันอะไรกัน เจ้าทำอะไรข้า" เป็นเสียงเล็กที่มองตัวร่างกายตนแล้ว กล่าวออกมาด้วยความตกใจอย่างเห็นได้ชัด

"ขะ ข้า เออ" เกรนยังงงอยู่กับผลที่ได้จากวงเวทจึงตอบแบบติดขัด

"จะ เจ้า แก้เวทคำสาบในตัวข้างั้นหรือ" ชายหนุ่มที่ตอนนี้เป็นสาวร่างเล็กไปแล้วกล่าวอย่างตะหนก

"อือ น่าจะใช่นั้นละ ข้าแค่ลองวิชาดูเท่านั้นไม่คิดว่ามันจะส่งผลได้ดีขนาดนี้" เกรนที่ตั้งสติได้ก็กล่าวออกมา

"เจ้าต้องรับผิดเรื่องนี้" นางขึ้นเสียง

"อ้าว เฮ่ยเจ้ามาเป็นฝ่ายผิดนะ ไปอยู่กับโจรตั้งแต่แรก แถมนี้ข้าช่วยถอนคำสาบให้อีก เจ้าน่าจะขอบใจข้าสิถึงจะถูก" เกรนกล่าวออกมาแบบงงๆ

"จะ บ้าหรือมาคล้ายคำสาบ 'ชายชาตรี' แบบนี้ ข้าจะสามารถกลับไปได้เช่นไร ตัวคำสาบยังอยู่มั้ยเนี่ย เจ้ามีกระจกมั้ย" นางเอ่ยเสียงเครียด

"อะ เออ นั้นตั้งใจสาบตัวเองหรือเนี่ย ข้าต้องเสียใจกับเจ้าด้วยเพราะข้าถอนออกจนครบสามชั้นเลยหละ" คลาวนี้เกรนกล่าวพรางชี้ไปยังกลางอกของนาง พลันเกรนเองก็ตะลึงแทน "อะ เฮ่ย ลืมไปเลย"

"เจ้านี้มันอะไรอีก แต่สามชั้นหรือ" แล้วนางก็ก้มมองลงไปยังร่ากายตน นางก็ตะลึงเพราะเสื้อผ้านางโดนแหวกออกกว้างโชว์อกขาวนวลขนาดผลแอปเปิลแก้สายตาอีกฝ่ายเต็มๆ

"ว้ายยยยยย จะ เจ้าโจรหื่น ไอ้ชั่ว ไอ้ลามก ขะ จะฆ่าเจ้า" นางร้องขึ้นแล้วดึงคอเสื้อมาจัดเข้าที่อย่างรวดเร็ว

"หยุดๆไปเลย เมื่อกี้เจ้าก็จะฆ่าข้าอยู่แล้วไม่ต้องมาย้ำหลอก" เกรนกล่าวพร้อมอุดหูจากเสียงร้องของนาง

"เอะ เมื่อกี้ นะ นี้" นางพอได้ยินก็ยกสองมือขึ้นมอง

"เออ คราวนี้อะไรอีกหละ อย่างบอกนะว่าเมื่อกี้เจ้าไม่ตั้งใจนะ" คลาวนี้เกรนเอ่ยแบบเซ็งๆออกไป เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าเสียเวลากับชายร่างเล็กที่ตอนนี้กลายเป็นหญิงตรงหน้ามานานแล้ว

"ขะ ข้า ขยับได้ดังใจ" นางเอ่ยเบาๆออก แต่พอให้เกรนได้นอยู่

"เจ้าเคลื่อนไหวรวดเร็วขนาดนั้น ยังจะว่าขยับไม่ได้ดังใจอีกหรือ อย่ามาตอแหลนนะเจ้าโดนเวทควบคุมอยู่" เกรนหลีตากล่าว

"ถะ ถ้าข้าบอกว่าใช่หละ เจ้าจะทำไง" นางลดมือลง จ้องหน้าเกรนแล้วกล่าวออกมา

"เฮอะ อย่ามาหลอกข้าเลย เวทแบบนั้นนะ คนอย่างไอ้หัวหน้าโจรของเจ้าไม่มีทางร่ายได้หลอก ขนาดข้ายังไม่รู้เลยได้แต่ลองเวทไปมั่วๆเท่านั้น" เกรนกล่าว

"แต่ท่านก็สามารถแก้ได้ ท่านน่าจะเห็นการซ้อนทับของวงเวทสามวง ที่ตอนนี้มันหายไปแล้วบน เออ อกข้า" นางกล่าวไปถึงจุดสุดท้ายต้องเอ่ยเสียงเบาลงด้วยความอับอาย

เกรนยืนคลุ่นคิดไป พรางระวังการเคลื่อนไหวของนางได้

(ท่านฮาเดสก็เคยเตือนว่าวิชาสลายคำสาบนี้จะดึงพลังเจ้าของตามความแรงของคำสาบสินะ หรือว่าจะจริง ถ้าจริงๆผู้ลงคำสาบนี้คงเก่งมากเลย เพราะตอนนี้เรารู้สึกได้ถึงพลังทั้งสามสายลดลงไปเหลือ 1/5 เท่านั้น ทั้งทีก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้ใช้วิชาอะไรกินพลังมากเลยด้วยซ้ำ)

"..." เกรนยังจ้องนางแบบเงียบๆ

"..." นางก็เช่นกันแต่กับเอามือมากอดอกเอาไว้ เพื่อแสดงว่านางไม่ได้ขัดขื่นคิดหนีอะไร

"เฮ่ย เอาเป็ยว่าข้าเข้าใจหละ" ในที่สุดก็เป็นเกรนที่ถอนหายใจกล่าวออกมา

"เจ้าเชื่อข้าแล้วหรือ" นางกล่าวทำตาโต

"อืม ข้าลองประติดประต่อเหตุการณ์ตอนสลายคำสาบเจ้าดู ก็น่าจะเชื่อว่าที่เจ้าโดนคำสาบ 3อย่างนั้นน่าจะเป็นเรื่องจริง" เกรนเอ่ยพร้อมผ่อนกายลง

"ข้าต้องขอบใจเจ้าที่ยอมเข้าใจข้า" นางกล่าว

"แต่ข้าขอให้เจ้าเล่าเรื่องของเจ้าสักหน่อย ได้มั้ยข้าสงสัยว่าใครร่ายเวทแบบนี้ใส่เจ้า เพื่ออะไร แล้วทำไมเจ้าถึงไปอยู่ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าโจรกระจอกนั้นได้ เพราะคนที่ร่ายคำสาบนี้ต้องมีพลังมากกว่ามันแน่ๆ" เกรนกล่าวพรางนั่งลงใต้ต้นไม้ แล้วตบมือลงพื้นด้านข้าเป็นการบอกให้นางนั่งลงตรงนั้น

นางจึงเดินไปนั่งลงด้านข้างเขาแล้วกล่าวเรื่องราวของนางออกมา

"ข้ามีนามว่า 'อายะ' เกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางทิศตะวันออก พ่อข้ารับราชการส่วนแม่ข้านั้นเสียตั้งแต่ขายังเล็ก ข้าได้รับการเลี้ยงดูเช่นเด็กชายทั่วไปจนข้าอายูได้ 10ปี พ่อข้าจึงเรียกข้าเข้าพบที่ห้องแล้วพาลงไปห้องลับใต้ดิน ท่านทำการลงคำสาบให้ข้ามีกายเป็นชาย เพราะที่นั้นมีกฏว่าต้องส่งลูกสาวเข้ารับการคัดเลือกเข้าไปรับใช้ในวังหลวง แต่ท่านไม่ต้องการให้ข้าไปจึงทำเช่นนี้"

"ฮู้ โดนมาตั้งแต่เด็กเลยแฮะ" เกรนเอ่ยขึ้นขัดทำให้นางมองหน้าเขาทีหนึ่ง

"เออ ข้าชื่อเกรน เรียกแบบนั้นหละสั้นดี จะ เจ้าเล่าต่อไปสิ แหะๆ" เกรนกล่าวแก้ตัวด้วยการแนะนำตนเอง เอามือลูบผมตัวเองไปด้วย นางจึงถอนใจหันมาเล่าต่อ

"ตั้งแต่นั้นมาข้าก็มีชีวิตในฐานะชายคนหนึ่งมาตลอด แต่ยังไงในใจข้าก็ยังเป็นหญิงนะ ช่วงนั้นข้าต้องฝึกวิชาที่ถ่ายทอดจากท่านพ่ออย่างหนักจนอายุเข้า 15ปี ข้าก็โดนเรียกตัวไปรับใช้ราชการชั่วนั้นข้าก็ทำงานตามหน้าที่ปกติจนวันหนึ่ง ในตอนเย็นมีพวกทหารเข้ามาล้อมบ้านข้าแล้วบอกว่าพ่อข้าโดนจับเพราะแอบปิดบังความจริงที่ว่าข้าเป็นหญิง แต่ปลอมเป็นชายด้วยเวทคำสาบหนีการคัดเลือกเข้ารับใช้วังหลวงแต่พ่อข้าไม่ยอมเกิดการต่อสู้ขัดขืน ซึ่งข้าก็ร่วมสู่กับท่านพ่อด้วย แต่สุดท้ายพวกเราก็ต้องพ่ายให้แก่กำลังที่มากกว่ามากนักของทางการ ท่านพ่อส่งข้าหนีออกมานอกเขตหมู่บ้านผ่านช่องทางลับ แต่ตัวท่านกลับอยู่ปักหลักถ่วงเวลาให้ข้าได้หนีไปไกลขึ้นไปอีกแทน ข้าที่ไม่ยอมจึงโดนจับพาดสลบไปพอตื่นอีกครั้งก็มาอยู่ที่เขตแดนของภาคกลางแล้ว ตอนนี้มีเพียงผู้ติดตามช่วยข้าเพียง 2คนเท่านั้นทั้งสองเล่าเหตุการณ์ตอนที่ข้าสลบไปให้ฟังว่าที่จริงมีผู้ติดตามากกว่านี้แต่ระหว่างทางได้สละตนล่อเพื่อให้ข้าได้หนีจนข้ามแดนมาได้ ข้าจึงได้แต่ร่ำไหให้พวกเขาเท่านั้น จึงเดินทางสู่ภาคกลางหมายตั้งตนใหม่ รอวันที่จะแก้แค้นพวกที่ฆ่าพวกพ้องข้า"

มาถึงตรงนี้เกรนเห็นในตานางสั่นไหว จึงกล่าวออกไปโดยไมม่ทันคิด

"เจ้ายังดีกว่าข้านัก" นางหันไปมองหน้าเกรนแล้วอ้าปากจะพูด แต่เกรนกับชิงเอ่ยก่อน

"พ่อแม่ขาทิ้งข้าไปตั้งแต่ยังเด็ก แล้วไม่กลับมาอีกเลย ข้าต้องทนอยู่คนเดี่ยวถึงแม้ท่านจะทิ้งบ้านหลังเล็กกับเงินเล็กน้อยให้แต่ด้วยความเป็นเด็กไม่นานก็หมดไปข้าต้องเร่ร่อนเก็บของเก่าขาย เก็บเศษอาหารกิน ปากกัดตีนถีบตั้งแต่ 5-6ขวบเลยนะ ข้านั้นไม่ได้แม้แต่จะลาพวกท่านขนาดตอนนี้หน้าพวกท่านข้ายังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่เจ้าได้กล่าวลาได้จดจำท่านไม่ใช่หรือ"

"อืม" เป็นนางที่ครางในคอบาๆออกมาเหมือนเข้าเขา

"ข้านะเคนแค้นที่พวกท่านทิ้งข้าไป แค้นตนเองที่วันนั้นทำไมไม่ได้ติดตามพวกท่านไปด้วย แค้นพวกเพื่อนท่านที่หนีกลับมาแล้วไม่พาพวกท่านมาด้วย แค้นผู้คนไปหมด ไม่รู้เมื่อไหร่จากที่แค้นมากๆจนกลายเป็นไม่สนอะไรเลยไปได้ ซึ่งเมื่อข้าโตขึ้นเข้าใจอะไรมากขึ้นข้าก็ทำใจได้ ถึงไม่หมดก็เถอะนะ 555"

"ท่านตัดได้หรือ"

"ไม่รู้สิ คงเพราะข้ายังอยากมีชีวิตอยู่มั้งเลย คิดได้ว่าถ้ายังมัวแค้นอยู่อย่างเดี่ยวคงทำอะไรไม่ได้ ต้องหาทางอื่นๆดู 555  นี้นอกเรื่องเจ้ามาแยะแล้ว เจ้าเล่าเรื่องของเจ้าต่อสิ" เกรนกล่าวติดตลกออกมาเตือนนาง

"อะ เออ จริงสินะ" นางกล่าวไปมองหน้าเขาทีหนึ่ง แล้วหันไปมองท้องฟ้าเล่าเรื่องของนางต่อ

"จากนั้นพวกเราก็เริ่มตั้งตัวใหม่ทีดินแดนภาคกลางนี้ ทั้งรับจ้างข่นของ ล้างจาน แบกหาม สารพัดที่จะทำได้จนพอตั้งตัวได้ในไม่นานแต่ก็เกิดเหตุการณ์บุกปล้นหมู่บ้านที่พวกข้าอยู่จนได้ทางการไม่สามารถส่งกำลังมาช่วยได้ คนในหมู่บ้านบ้างที่ต่อสู่ขัดขืนก็โดนฆ่าตาย ที่ยอมก็โดนจับไปเป็นทาสส่งขายจำนวนมาก พวกข้าที่ต่อต้านต่างโดยจำนวนที่มมากกว่าสังหารไปหมดเหลือข้าคนเดียว ด้วยความสามารถด้านวิชาสายจิตของข้า เจ้าหัวหน้าโจรนั้นได้ให้คนๆหนึ่งที่มากับมันด้วยร่ายเวท 'กายสวามิภักดิ์' ใส่ทำให้ข้าต้องทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายโดยขัดไม่ได้ ส่วนจิตของข้านั้นโดนกดไปอยู่ภายในไม่สามารถต่อต้านได้เลย ข้าได้เห็นพวกนั้นให้ข้าทำเรื่องชั่วร้ายมากมาย แต่ก็ไม่สามารถขัดได้แม้แต่น้อยจนมาเจอเจ้านี้หละ"

"อืม ที่เจ้าเล่ามามีสองคำสาบ แล้วอีกอันหละ มันคืออะไร ข้ารู้สึกได้ตอนที่ข้าสลายคำสาบมีถึงสามเลยนะ" เกรนเมื่อฟังจบก็เอ่ยอย่างสงสัย

"เอ๋ เจ้าว่ามีสามหรือที่ข้าจำได้มีแค่นั้นจริงๆ ข้าไม่ได้เล่าปิดบังเจ้าเลยแม้แต่น้อย" นางกล่าวสายตานั้นดูไม่น่าปดแม้แต่น้อย

"เจ้ามีความรู้สึกอะไรแปลกไปจากเมื่อก่อนมั้ยหละ" เกรนลองถามดู

"ข้าไม่รู้สึกแปลกอะไรเลย"

"อืม แปลกดี แต่ชั่งเถอะ ถ้าเช่นนั้น เจ้าจะทำอย่างไรต่อไปหละ" เกรนหันไปมองหญิงด้านข้าง

"ข้ายังไม่รู้เลย" นางกล่างพร้อมส่ายหน้า

"งั้นหรือ เจ้าสนใจจะร่วมเดินทางไปกับพวกข้าดูมั้ยหละ" เขาเอ่ยชวน

"แต่ข้าเป็นคนที่เคนอยู่กับกองโจร ถ้าไปกับพวกท่านคงโดนทางการล่าได้"

"นั้นมันเจ้าเมื่อก่อนนิ" เกรนเตือนนาง

"เอะ จริงๆด้วยตอนนี้ข้ากลับเป็นหญิงไปแล้ว"

"ใช้ แล้วเจ้าว่าไงหละ"

นางนั่งมองไปยังท้องฟ้าคิดอยู่นาน แต่เกรนก็ยังนั่งมองนางอย่างใจเย็นรอคำตอบอยู่จากปากนาง เขาคิดว่านางมีฝีมือระดับหนึ่งน่าจะชวยเขาดูแลมิเรนขณะที่ตนต้องออกไปล่าสัตว์หรือทำอะไรอื่นๆได้ เมื่อต้องจากกับพวกสมชายไปแล้ว

"อืม ข้าขอรบกวนเจ้าด้วยหละกัน" นางตอบตกลงในที่สุด พร้อมมองไปยังเกรน

"เยี่ยม" เกรมยิ้มกว้างอย่างดีใจที่ได้เพื่อนร่วมทางที่มีฝีมือมาเพิ่ม ส่วนนางคิดว่าชายตรงหน้านี้แปลกดีไม่มีอารมณ์เคลืองนางที่ก่อหน้านี้จะฆ่าจะแกงกันอยู่หลักๆ กับดีด้วยจนน่าใจหาย อีกทั้งแววตาจริงใจนั้น กะตุ้นอารมณ์ส่วนลึกๆนางอย่างประหลาดด้วย

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 18 - ระหว่างทาง(2)


นายทหารที่กำลังจะกล่าวต่อกับโดนธนูลึกลับตรงเขาเสียบแขนด้านซ้ายอย่างจัง

"เฮ่ย ระวังมีคนบุกโจมตี" เกรนที่เห็นดังนั้นจึงตะโกนออกไปในทั้นที ส่งผลให้คนอื่นๆรีบตื่นขึ้นมาจับอาวุธตนแล้วออกมาล้อมเต็นนางของตนไว้ ต่างส่งสสายตามองไปรอบๆเพื่อหาผู้บุกรุก ส่วนเกรนหลังจากตะโกนไปแล้วก็ลากทหารที่บาดเจ็บไปหลบข้างเต็นของนาริสาก่อน

"พวกเจ้าระวังตัวเอาไว้ เดี๋ยวข้าจะออกไปดูราดราวก่อน" สมชายกล่าว

"งั้นข้าจะแยกไปดูอีกด้าน" เกรนต่อความ

"อืม ที่เหลือฝากคลุ้มคลองผู้หญิงด้วยหละ ระวังตัวกันให้ดีๆ ไม่รู้พวกที่จู่โจมจะมาแบบไหน" สมชายว่า

"ครับ" พวกทหารที่ตอนนี้ตั้งแถวล้อมเต็นเอาไว้ตอบรับ

จากนั้นทั้งเกรนและสมชายต่างวิ่งแยกกันไปคยละทิศเพื่อตรวจสอบรอบๆ

เกรนที่แยกมาสำรวจด้านหนึ่ง ค่อยๆเดินสำรวจไปรอบอย่างใจเย็น เปิดระบบสัมผัสของตนเต็มที่ เข้าแผ่กระแสปราณออกรอบกายเพื่อตรวจสอบในระยะ 10เมตรได้ ไม่นานเค้าก็สัมผัสได้ถึงจุดหนึ่งที่มีกระแสปราณคุ้งผิดธรรมชาติ เขาจึงทำการลบจิตและลมปราณของตนให้ไร่รอยตามที่ได้เรียนมาจากฮาเดส แล้วย่องไปยังจุดนั้นอย่างระวัง

"แฮะๆ เจ้าไม่น่ายิงพลาดเลย" โจรร่างท้วมบ่นขึ้น

"ไอ้ลมบ้าเสือกพัดแบบไม่มีเคล้าเลย มันเลยพลาดไป ข้าไม่ผิดนะ" โจรร่างผอมรีบเก้ตัวกลับไป

"พอๆ พวกเจ้าหยุดเถึยงกัน แล้วพวกมันเห็นพวกเจ้าหรือไม่" หัวหน้าโจรที่ร่างกำลังดีมีกล้าเนื้อตามคนที่เคยฝึกยุทธมา

"ไม่นะ พวกข้ารีบถอยออกมาก่อนเลย ไม่เห็นใครตามมาด้วย" โจรร่างท้วมว่า

"งั้นหรือ ข้าก็ยังสัมผัสไม่ได้ว่ามีคนที่นอกจากพวกเราเข้ามาแถวนี้ พวกมันน่าจะยังหาเราไม่เจอ" หัวหน้าโจร

"หัวหน้าว่าพวกมันจะส่งกำลังออกมามั้ยหละ" โจรร่างท้วมว่า

"ข้าว่าคงมีแต่ไม่น่าหวง เพราะที่สังเกตุมากลุ่มนี้มีคนไม่มากถ้าส่งออกมาคงมีคนสองคนเท่านั้น" เป็นชายหนุ่มร่างเล็กอีกคนกล่าว

"แล้วเราจะเอาไงต่อดีล่อมันมาจุดกำดักเลยดีมั้ย แผนลอบฆ่าที่ละคนมันเหลวไปแล้วนิ" ชายอีกคนที่เงียบมาตลอดกล่าว และยังมีคนอื่นๆสนับสนุนด้านหลังด้วยอีก 5-6คน

"คงต้องทำอย่างงั้นหละ ดูจากการวางตัวตอนเดินทางก็รู้แล้วว่าพวกนี้ฝึกมาดีระดัยหนึ่งเลย ข้าเองก็ไม่อยากไปปะทะตรงๆให้เสียแรง" หัวหน้าโจรเห็นด้วย

"ได้ๆ งั้นพวกข้ากระจายตัวไปตามจุดหละกัน" โจรร่างท้วมว่า

"งั้นพวกเจ้าย้ายกันไปได้แล้ว ส่วนเจ้าหน้าใหม่ตามข้ามา" หัวหน้ากล่าวแล้วไปบอกกับคนร่างเล็กด้านหลัง

เมื่อพวกโจรแยกย้ายกันไปแล้วเกรนที่แอบอยู่ที่พุ่มไม้ห่างออกไปไม่ไกลก็ทำการประมวลว่าจะตามไปเก็บใครก่อนดีเพราะที่เห็นนี้มีร่วมสิบกว่าคน ทั้งหมดล้วนแต่กายปกปิดหน้าตาเอาไว้จนมองไปออกว่าใครเป็นใคร เขาพอแยกแยะได้จากรูปร่างเท่านั้น

"งั้นเราตามเก็บพวกที่จะไปล่อก่อนดีกว่า" แล้วเขาก็ย้ายกายไปยังสองคนที่จะไปเป็นตัวล่อทางด้านข้างเมื่อสพโอกาสก็พุ่งตัวด้วยเคล็ดปราณวนกายลงขาเพิ่มความเร็วในการขยับกายแล้วฟาดไปยังต้นคอทั้งสองอย่างรวดเร็วทำให้พวกมันสลบไปแบบไม่ทันรู้ตัว จากนั้นก็ค่อยไปเก็บโจรคนอื่นๆตามจุดต่างเลื่อยๆเงียบๆจนครบ แล้วจึงเคลื่อนกายไปจัดการตัวหัวโจกเป็นอันดับสุดท้าย

"ทำไม ตั้งนานแล้วยังไม่มีวี่แววพวกที่ไปล่อเลยวะ" หัวหน้าโจรที่อยู่ใต้ต้นไม้ยืนบ่นอยู่ แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมองชายร่างเล็กที่ให้มากับตนที่อยู่บนต้นไม้

"เจ้าเห็นอะไรบ้างมั้ย"

"ท่านหัวหน้าข้ายังไม่เห็นอะไรเลย"

"อืมๆ ดูไปดีหละ พวกนี้ทำงานกันชักช้าจังวะ"

ตอนนี้เกรนวิ่งมาใกล้จุดสุดท้ายที่เขาสัมผัสปราณได้แล้วลดความเร็วลงเป้นย่องเข้าไปใกล้แบบช้าๆแทนการวิ่ง

"งั้นข้าน่าจะลองแผ่ปราณไปซักหน่อย" อยู่เจ้าหัวโจกก็เอ่ยขึ้นพร้อมแผ่ปราณออกมาทันที

"ตายหละ" เกรนถึงกับสถบ เพราะเขาไม่ได้ลบจิตปราณของตนที

"เอะ ตรงนั้นใครวะ" หัวหน้าโจรที่แผ่ปราณออกมาไม่ทันไรก็พบคนแปลกหน้าซะแล้ว เข้าเอ่ยเสียงตะหนกพร้อมซัดอาวุธออกไปทางที่สัมผัสได้ทันที

ฝุบ ฝุบ ฝุบ วูบ

เกรนจำต้องกระโดดหลบออกมาจากพุ่มไม้ที่ต้นแอบอยู่ แผ่ปราณของตนไปกดดันอีกฝ่ายทันที

"อุบ ลมปราณมันเกร่งกว่าเรา" หัวหน้าโจรที่มีปราณอ่อนกว่าจึงโดนปราาณของอีกฝ่ายกดดันจนเกิดเหงือขึ้นตามใบหน้า แต่ก็ทำใจสู้ถามไปว่า "เจ้าเป็นใครกัน"

"หึหึ ข้าก็เป็นเพื่อนของคนที่โดนลูกธนูปักแขนนะสิ" เกรนยิ้มกล่าวออกมา แบบสบายๆ เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังด้อยกว่ามาก

"งั้นข้าคงปล่อยเจ้าไปไม่ได้หละ" ว่าแล้วหัวหน้าโจรก็เปล่าปากเกิดเสียงดังสองครั้งทันที

"เออ ถ้าท่านส่งสัญญาณเรียกพวกที่เหลือหละก็ตอนนี้คงโดนมัดอยู่ที่ค่ายของข้าหมดแล้วหละ" เกรนเอ่ย

"หา เป็นไปไม่ได้หลอกอย่ามาหลอกข้าเลย" หัวหน้าโจรโต้

"งั้นดูนี้" ตูบ เกรนโยนผ้าคลุมหน้าหลายผืนลงบนพื้น

"นะ นี้มัน จริงหรือนี้" หัวหน้าโจรเมื่อเห็นก็ตกใจเพราะดูก็รู้แล้วว่าต้องเป็นของพวกตนแน่

"เอาหละ ยอมให้จับกันดีๆเถอะ คืนนี้ข้าเสียแรงตามเก็บพวกเจ้าไปมากแล้วนะ" เกรนเอ่วขู่หวังให้อีกฝ่ายยอมจำนน

"555 ได้เวลาตอบแทนข้าแล้ว คิยะ" หัวหน้าโจรไมม่ยอมจำนนง่ายกับเรียกชื่อคนออกมา

ฝุบ ตุบ ร่ายเล็กกระโดดลงมาขว้างระหว่างหัวหน้าโจรกับเกรนทันที

"เจ้าจงฆ่ามันซะแล้วรีบตามข้าไปที่ซ่อน" หัวหน้าโจรเอ่ยพร้อมหันหลังวิ่งจากไปทันที

"เฮ่ย เจ้า..." เกรนที่จะตามไปกับโดนชายร่างเล็กขยับขว้างทางเอาไว้ พร้อมทั้งปล่อยจิตกดดันออกมา

"เอะ นี้เจ้าใช้จิตได้หรือนี้" เขารับรู้ได้ทันทีที่อีกฝ่ายปล่อยจิตออกมา เกรนจึงต้องรีบปล่อยจิตขยายออกไปลดแรงกดดันอย่างเร็วจึงไม่สามารถตามหัวหน้าโจรต่อไปได้ หันมาจ้องตาชายร่างเล็กแทน

"เจ้าก็เก่งแบบนี้ไม่น่าจะไปเป็นลูกน้องโจจรอ่อนๆแบบนั้นได้เลยนิ" เกรนถามนำทางดูเผื่อมีทางออกง่ายกว่าการสู้กันเพราะเขาไม่ค่อยมั่นใจในการต่อสู่ด้วยจิตเท่าไหร่ ง่ายๆคือเขาไม่ถนัดนั่นเอง

"...." อีกฝ่ายไม่ตอบแต่กลับพุ่งหายไปจากสายตามาโผ่ด้านข้างเกรน ข้างอาวุธลับออกมาใส่อย่างเร็ว

"อะ จ้าก เร็วจริงๆ" เขาสถบแล้วโยกตัวหลบเป็นพัลวัน

อีกฝ่ายเมื่อส่งอาวุธลับออกไปแล้วก็หาหยุดนิ่งไม่ เคลื่อนกายวนไปด้านหลังเกรนแล้วชักมีดสั้นพุ่งเข้าจู่โจมชายหนุ่มทันที

เกรนที่กำลังหลบอาวุธอยู่ได้วางกระแสปราณเอาไว้รอบๆกายตนเอาไว้แล้ว พออีกฝ่ายพุ่งแทงมาก็รับรู้ได้ทันทีจึงเอนตัวหลบไปอีกด้านพร้อมทั้งออกฝ่ายมือแฝงลมปราณซัดมส่อีกฝ่าย

แต่ด้านชายร่างเล็กก็พลิวหมุนตัวหลบได้ เมื่อเท้าแตะพื้นก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้อีกมือกับมีมีดขนาดเล็กอีกเล่มด้วย ตรงเข้ามาโลมรัยเกรนอย่างรวดเร็ว ถ้าเขาไม่ได้ผนึกปราณทั่วร่างทันก่อนคงได้รับบาดแผลเป็นแน่แท้ตอนนี้เขาใช้ถุงมือที่มีปราณสายแข็งผนึกคลุมเอาไว้ปัดให้การแทงฟันของอีกเแไปด้านข้างแทน คนหนึ่งโหมรุกอีกคนได้แต่รับเท่านั้น

(บ้าจริงเห็นตัวเล็กๆแบบนี้ไหงอึดจังวะ ไม่เห็นจะมีแววเหนื่อยเลย สงสัยต้องใช้ตัวช่วยเพิ่ม) เกรนบ่นในใจ

"ย้ากกกกกก" หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สลับการจู่โจมได้แล้วส่งหมัดซ้ายออกไปใส่อีกฝ่าย

ด้ายชายร่างเล็กกับไม่สะท้านจากการปัดพลิกตัวหนุ่มตามแรง ทำให้หมัดคาดใบหน้าไปนิดหนึ่ง แล้วประชิดตัวส่งมีดทั้งสองออกไปหาเกรนที่มีช่องว่างเกิดขึ้น

"แฮะ แฮ่ เสร็จโก๋" แต่เป็นเกรนที่ยิมขึ้นมา พร้อมทั้งเกิดแสงพุ่งออกจากตัวเขาทำให้อีกฝ่ายแสบตาชะงักไปวิ ซึ่งก็พอที่จะทำให้เขาพลิกเกมได้แล้ว เกรนอาศัยจังหวะนี้เองเอนตัวจากวิถีของใบมีด แล้วส่งหมัดแผงปราณเขาท้องน้อยของอีกฝ่ายทันที

ตุบ วูบ โครม

"โอ้ยยยย" เป็นเสียงแรกออกจากปากชายร่างเล็ก พร้อมร่างทีกระเด็นไปชนต้นไม้ด้านหลังอย่างจัง

"เห็นไง เร็วนักโดนแบบนี้ไปทีเดียวจดหละสิ" เขาพุ่งตามไปติดๆ

"ฮึ" ชายร่างเล็กเคล้นเสียงออกมาพยายามลุกขึ้น แต่ก็ไม่ทันเกรนที่ใช้มือข้างชกตรงไปยังหน้าอีกฝ่ายจนหน้าคลุมหลุดออก

"เอะ หน้าก็ดีไม่หน้าเป็นโจรเลย" เกรนหลังต่อยซ้ำไปแล้ว ก็ที่จับแขนสองข้างของชายร่างเล็กไขวหลังกระแทกตัวให้ลงนอนไปกับพื้น แล้วมัดด้วยผ้าคลุมหน้าที่หลุดออกมาทันที

เกรนจึงพิจารณาใบหน้านั้นได้ส่วนยาวเรียวแบบหนุ่มตะวันออก ผมสีดำ คิ้วคมได้ส่วนลับกับตาที่คมเข้มสีฟ้าเข้ม ปากได้รูปแต่ผิวกายนั้นกับนวลคล้ายหญิงสาว ทำให่เขาต้องตะลึงและสงสัยจึงมองลงไปที่อกอีกฝ่ายพบว่ามันราบเป็นปกติจึงบ่นสายหน้าออกไปว่า

"ผิวดีขนาดนี้ไม่น่าเป็นชายเลยแฮะ เสียของๆ"

"ฮืม" ชายร่างเล็กยังคงรั้งหมายหลุดจากพันธนาการ

ผัวะ

"งั้นหลับไปก่อนหละกัน" เกรนจึงใช้สันมือส่งไปยังต้นคอทำให้อีก่ฝายหลับไปอย่างไม่เต็มใจนัก

"เอาหละเรามาดูกันซิ ว่ายังมีซ่อนอีกมั้ย" เขาจึงใช้ปราณแผ่ขยายออกตรวจสอบรอบบริเวณอีกครั้ง

"แย่จริงๆเหมือนหน้าโจกจะหนีไปแล้วจริงๆ แฮะ" เกรนบ่นๆ เมื่อไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นๆในเขตที่เค้าแผ่ออกไป

"เอาหละ สำหรับเจ้านี้คงต้องเสริมเวทหลับเข้าไปด้วยดูถ้าจะเก่งจริงคงฟื้นตัวเร็วแน่ ถ้ามันตื่นระหว่างลากไปเดี๋ยวจะยุ่งยากเปล่าๆ" ว่าแล้วเกรนก็ร่ายเวทกัยคำสาบใส่ตนก่อน ทันนี้เนื่องจากวิชาเวทก็เป็นอีกวิชาที่ตนไม่ค่อยถนัดนักเพราะชอบในมิเรนช่วยๆจัดการให้มากกว่า จึงร่ายกันตัวเองโดนลูกหลงไปด้วยไว้ก่อน แต่เขาก็พบอะไรบ้างอย่างตอยสนองต่อเวทของเขา

"กรรม ไอ้หนุ่มนี้ก็โดนเวทคำสาบหรือเนี่ย ถึงมีแสงตอบสนองเวทกันของข้าได้" เกรนที่เห็นแสงตอบสนองเวทกันคำสาบเรืองมาจากอกของอีกฝ่ายจึงลองตรวจสอบดูอยู่สักพักด้วยความสงสัย

"เฮ่ย นี้มันเวทอะไรฟะ ดูเวทยังไงก็ไม่เข้าใจ วนซะสามสี่ชั้นเลย เหมือนพวกเวทผนึกเลยแฮะ" เกรนเปิดเสื้อดูก็พบว่ามีอักขระเวทสลักอยู่กลางอกอีกฝ่าย

"เหอๆ แบบนี้มันน่าลองแก้ดูแฮะ ท้ายทายกันแบบนี้" เกรนที่ตอนนี้เห็นของแปลกใหม่จึงลืมจุดประสงเดิมทีไปซะแล้ว

เขาลงมือทาบไปยังอกกว้างของชายร่างเล็กแล้วเริ่มร่ายเวทแก้คำสาบแบบพิเศษที่อาจารณ์ฮาเดส(ในความคิดของเขาเอง เพราะฮาเดสไม่ยอมรับว่าตนเป็นศิษย์) สอนมาเพราะสายวิชาการเพิ่มกำลังของตนมีโอกาศทีจะโดนคำสาบได้ง่ายๆซะเองจึงต้องมียาดีเอาไว้แก้ไขซะหน่อย ซึ่งมีทั้งสามแบบเลยคือใช้ทั้งจิต ปราณ และเวทผสมกันจนได้เวทอักขระคลายคำสาบลูกผสมหนึ่งเดียวในโลกขึ้น ซึ่งมันมีความสามารถคลาย ปราณสะกด จิตสะกด หรือ มนต์คำสาบ ได้อย่างแน่นอน

"ไหนดูซิว่าไอ้วิชานี้ของปุ่จะเจ๋งตามที่โมเปล่า ย๊ากกกก" ว่าแล้วเกรนก็เริ่มด้วยการร่ายเวทสร้างอักขระคลายคำสาบลงบนฝ่ามือก่อน แล้วเติมกระแสจิตเข้าไป ช่วยรั้งกระแสปราณให้หล่อร่วมกับวงเวทได้จนเกิดแสงสว่างขึ้น แล้วเกรนก็กดฝ่ามือลงกลางอกทันที

วูบบบบบบบ

"ฮะ เฮ่ยยย อะไรฟะ อ๊ากกกกก"

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 17 - ระหว่างทาง(1)

หลังจากพวกเกรนได้อิ่มกับข้างกลางวันแล้ว

ทั้งคณะก็ได้เริ่มออกเดินทางลงใต้ทันที โดยตามแผนการพวกเค้าจะแบ่งเป็นสองส่วนคือให้คนส่วนมากเดินทางกลับไปยังหัวเมืองแดนใต้ก่อน ส่วนสมชายและพวกอีก8คนจะเดินทางไปกับพวกเกรนตามที่คุณหนูขอร้องว่าอยากเดิมทางไปเที่ยวกับพวกเกรนด้วย ซึ่งพวกเกรนไม่ได้ตรงเข้าสู่หัวเมืองแดนใต้ก่อน แต่จะแวะชมหมู่บ้าน2-3หมู่บ้านระหว่างทางสักหน่อย ทำให้เส้นทางการเดินเป็นอ้อมโครงไปมาแทน

"ท่านแน่ใจนะว่าจะเดิมทางไปพร้อมพวกข้า" เกรนเอ่ย

"555 ข้าว่าจะดีมากซักอีก ดูแล้วคุณหนูคงสนุกที่ได้เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆนะ เพราะนานๆทีถึงจะได้ออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้"

"อืม ฟังดูแล้วคงมีผู้ประสงค์ร้ายต่อนางแยะหรือท่าน ถึงไม่ค่อยได้ออกไปไหน" เพราะเกรนมองแล้วคุณหนูคนนี้ไม่น่าจะเป็นพวกขี้โรคอะไร แต่กับไม่สามารถเดินเที่ยวเล่นไปมาข้านอกบ่อยๆได้

"อืม มันเป็นเรื่องในสำนักนะ" สมชายกล่าวออกเสียงเข้มนิดๆ

"อา ข้าต้องขอโทษที่ถามไปละลาบละล้วงเรื่องภายในแบบนี้"

"ไม่เป็นไรหลอกข้าไม่ถืออะไร 555"

"เอาเถอะอย่างงี้ก็ดี มิเรนจะได้มีเพื่อนหญิงคุยกันบ้าง ได้แลกเปรียบเรื่องราวของสาวๆกันเองน่าจะดีกว่ากับพวกชายหนุ่มแบบข้าอะนะ"

"อืม พวกผู้หญิงนี้มีเรื่องมากมายกันจริงๆนั้นหละ"

"เอาหละ เมื่อตกลงกันได้เราน่าจะเดินทางกันได้หละ คิดว่าค่ำนี้คงต้องพักกลางป่ากัน" เกรนกล่าว

"อืม ข้าก็ว่าเช่นนั้น เพราระยทางที่ไปอีกหมู่บ้านมันอ้อมออกด้ายทิศตะวันออกไปไกลอยู่" สมชายเสริม

"ไปๆ ตามนี้แยกย้ายกันไปได้แล้ว แล้วพวกเจ้าอย่าลืมรายงานกับไปยังท่านเจ้าสำนักด้วยนะ" สมชายสั่งการไปยังรองหัวหน้ากองของตนที่ให้คุมคณะส่วนใหญ่กับไปยังสำนักก่อน

"ครับๆ ข้าจะไม่ให้ท่านผิดหวัง" รองหัวหน้ากองกล่าวแล้วหันไปสั่งลูกน้องให้เริ่มเดินทางไปกัน

หลังจากที่กองหบักเดินทางออกไปกันแล้วพวกเรนก็เริ่มเดินทางตามแผนทางของตนเช่นกัน โดยตอนนี้คณะของเกรนมีพักพวกรวมเกรนแล้ว 12คน กับรถม้าอีก 1คันที่มีกระบะขนาดเล็กพวงท้ายไว้ใส่เสบียงในการเดินทางและสัมภาระบางส่วนของคณะ โดยมีสมชายเป็นคนขับและเกรนนั่งด้านข้าง ทหารแบ่ง 3ส่วนคือ ไปอยู่ซ้ายขวาด้านละ 2คนและด้านหลังอีก 4คน คอยขนาบกระบะพวงเอาไว้

"นานแล้วที่ข้าไม่ค่อยได้ผ่านทางนี้ เมื่อก่อนแถวนี้ถนนยังรุกรังมากกว่านี้ ไม่คิดว่าไม่กี่ปีกับปรับปรุงได้มากขนาดนี้" สมชายที่นั่งคุมรถม้าอยู่กล่าวขึ้นกับเกรน

"เป็นเช่นนั้นหรือ ข้าพึงลงใต้เป็นครั้งแรกนี้หละ ปกติจะรับงานขึ้นเหนือกับตะวันออกนะ" เกรนตอบไป

"งั้นหรือ ความจริงข้าก็เคยขึ้นไปทางหเนืออยู่บ้าง ส่วนมากทางนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นตลอดเวลาเลย"

"ใช้ครับ เลยต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆหน่อย ทำให้เวลาต่อสู้เนี่ยลำบากไม่น้อยเลย เวลาเจอกับพวกสัตว์ป่าอะนะ"

"อืมๆ ข้าก็ว่านั้นหละ เมื่อก่อนคุ้มกันของขึ้นเหนือเจอพวกหมาป่าแทบแย่เพราะเสื้อที่สวมมันหนาหมุนตัวรับควเขียวลำบากจริงๆนั้นหละ"

"แล้วแดนใต้เป็นไงบ้าง ข้าได้ยินว่าด้านนี้ส่วนมาก สัตว์ป่าจะเป็นพวกที่มีความเร็วเป็นเริส"

"ก็ตามที่เจ้าได้ยินมานั้นหละ ถึงจะมีความเร็วมากกว่า แต่ข้ากับมองว่ามันจัดการง่ายกว่าพวกทางเหนือที่มีความอีดมากกว่ามากนัก เพราะถ้าเราอ่านทางมันได้ก็ง่ายกว่า จึกเดียวจบ"

"งะ มันจะอ่อนอะไรขนาดนั้น" เกรนเบ๊ปากกล่าว

สองชายหนุ่มสนทนาแรกเปลี่ยนประสพการณ์ระหว่างเดินทางกันอย่างสนุกปาก แต่ด้านในรถม้านั้นกับเป็นเรื่องของกินและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในหมู่บ้านที่จะไป ที่หญิงสาว 2นางกับสาวน้อยที่ย่างเข้าวัยสาวอีกหนึ่งนาง คุยกันอย่างสนุกปาก

"นี่ๆ แล้วที่หมู่บ้านนี้มีอะไรพิเศษบ้างมั้ยคะ" มิเรนถามหมู่บ้านที่กำลังจะไปท่องเที่ยว

"อืม ที่ข้ารู้มาก็จะเป็นการนั่งดื่มชาชมธรรมชาติของป่าไผ่สายรุ้งนะ ที่ป่าแห่งนี้ต้นไผ่จะเปลี่ยนสีไปทุกๆ 10นาที โดยประมาณเค้าว่าสวยมาเลย" เบญจมาศตอบ

"ข้าก็อยากไปดูเหมือนกันได้ยินแต่ที่ท่านพ่อเล่าแต่ไม่ยอมพามาชมสักที" นาริสาเสริม

"อูว คงจะสวยน่าชม ข้าชักอยากเห็นเร็วๆแล้วสิ" มิเรน

"แต่ที่ข้าสนใจคงเป็นการชงชาของที่นั่นหละ เห็นเค้าว่ากันว่ารสชาติจะแปลกกว่าที่อื่นๆนะ" เบญจมาศ

"แต่ในป่าไผ่เนี่ยจะมีลมพัดสบายๆได้หรือคะ ส่วนมากที่ข้ารู้จะขึ้นหนาจนแทบบังลมไปหมด" มิเรนถามขึ้น

"อืม นั้นก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องที่แนวไผ่จะขึ้นเรียงกันเป็นแถวยาวหลายๆแถวนะ เหมือนกองทหารยินเรียงแถวเลย และไม่มีต้นที่แตกหน่อออกแปลกแยกแถวด้วย" เบญจมาศกล่าว

"ว้าว น่าสนใจจริงๆ" มิเรนที่ได้ยินยิ่งตาเป็นประกาย อยากรีบไปให้ถึงเร็วๆ

"ใจเย็นๆสิคะ ยังไงวันนี้ก็ใกล้ค่ำแล้วเดี๋ยวสมชายคงสั่งให้หยุดขบวนตั้งค่ายพักแรมแล้วหละ" นาริสาเอ่ยออกมา พรางมองออกไปยังหน้าต่างดูแสงอาทิตย์ที่เลื่อนลงมาจนเกือยโดนต้นไม้ตามแนงทางบังแล้ว

"หยุดดดดดด" แล้วก็เป็นดังคาดเสียงสมชายบอกให้หยุดขบวน พร้อมกับรถม้าที่เคลื่อนที่ช้าลงจนหยุดนิ่ง

"คุณหนูครับ เราจะพักกันตรงนี้ช่วยรอในรถม้าสักพักให้พวกข้ากางเต็นให้ก่อนนะครับ" สมชายกล่าวเข้ามาเข้าในรถม้า แล้วกระโดดลงไปปดม้าจากตัวรถม้าทั้งสองตัว แล้วจูงไปผูกติดกับต้นไม้ให้มันกินหญ้าใต้ต้นไม้นั้น แล้วเดินไปสั่งการลูกน้องตนต่อ

ส่วนเกรนนั้นได้ลงจากรถม้าแล้วไปกางเต้นใกล้ต้นไม้ไม่ห่างจากกลุ่มของสมชายมากนัก โดยมีมิเรนที่ขอตัวลงมาช่วยเกรนกางด้วยทั้งสองมีเพียงเต็นเดียว เดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะมีเพื่อนร่วมเดินทางกันแบบนี้จึงไม่ทันคิดถึงสภาพที่คนอื่นจะมองว่าชายหญิงนอนเต็นเดียวกัน

"อืม เอาไงดีไม่ทันคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ แฮะ" เกรนบ่นขึ้น

"ยังไงหรือคะ" มิเรนที่กำลังร่ายมนต์กันสัตว์แมลงใส่เต็นกล่าวด้วยความส่งสัย

"ก็ในสังคมคนแดนใต้ส่วนมากที่ข้าศึกษามา ถ้าชายหญิงที่ไม่ได้แต่งงานกันจะไม่นอนห้องหรือเต็นเดียวกันแบบนี้นะ" เกรนเอ่ยเสียงเครียดนิดๆ เพราะมันจะทำให้มิเรนดูไปในทางไม่ดีในสายตาเพื่อนใหม่ของนาง

"แต่เมื่อคืนเราก็นอนห้องเดียวกันนี้คะ"

"เม่อคืนมันด้วยเหตุจึงเป็นและห้องนั้นเป็นแยกเตียงเลยน่าจะพอเข้าใจได้แต่นี้มันคนละสถานการณ์กันนะ"

"ข้าไม่เห็นสนใจเลย เดี๋ยวข้าไปอธิบายให้พวกนางเข้าใจก็สิ้นเรื่อง"

"อืม สงสัยต้องเอาแบบนี้ไปหละ บอกไปเลยว่าข้าเป็นสามีเจ้า เพียงแต่เรายังไม่ได้แต่งงานกันเท่านั้นดีกว่า แล้วค่อยขอโทษพวกเค้าที่ไม่ได้บอกไปตั้งแต่แรก" เกรนกล่าวออกมา

"ขะ ขะ ข้า เออ ท่านเกรน ข้าไม่คิดว่ามันจะดีนะคะ" มิเรนที่กล่าวออกมาด้วยความแกลงใจ ไม่อยากทำตัวผูกมัดเหมือนนางเป็นเจ้าของเขาผู้เดียว

"เอาเถอะ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วนี้ว่าข้าจะดูแลเจ้าตลอดไปนะ ยังไงสักวันเราก็ต้องสมรสกันอยู่แล้ว" เขากล่าวแล้วจ้องมองตานาง สองมือขยับไปกุมมือนางไว้

"ท่านเกรน" นางกล่าวแล้วมองตาเขา

"เอาตามนั้นหละ"

"คะ ขอบคุณมากข้ามีความสุขจริงๆ ที่ได้พบกับท่าน" นางกล่าวพร้อมซบลงอกเขา ดีที่จุดที่เขากางเต็นอยู่ห่างกลึ่มพอสมควรและแต่ละคนก็กำลังวุ่นอยู่กับการกางเต็นของตน จึงไม่ทันสังเกตุการกระทำของทั้งสองคน

แต่มีสานตาคู่หนึ่งจ้องไปยังทั้งสองอย่างเงียบๆ

"คุณหนูคะ คุณหนู คุณหนู ..." เสียงสาวใช้ดังขึ้นมาปลุกให้นางรู้สึกตัวหันไปขานรับ

"อะ เออ มีอะไรหรือ เบญ" นาริสากล่าวออกมา

"ข้าเรียกคุณหนูตั้งหลายหน ท่านมัวแต่เหม่อนั้นหละ ดูอะไรอยู่หรือคะ" สาวใช้เอ่ยด้วยความสงสัยแล้วขยับตัวไปนั่งด้านกับคุณหนูของตน

"ดะ เดี๋ยวสิ" นางจะเอ่ยห้ามแต่ก็สายไปแล้ว

"อา ท่านเกรนกัยมิเรนนี้เอง เอ๋ นี้คุณหนูสนใจท่านเกรนหรือคะ" นางเห็นดังนั้นจึงเริ่มแซวคุณหนูของตนเล่นๆ

"อะ เออ มะ ไม่หลอก จะ เจ้าพูดอะไร พะ เพ้อเจ้อ" นางก้มหน้าที่แดงขึ้น มองสองมือที่กำกระโปรงแน่น แล้วกล่าวอย่างติดขัด

"เอ๋" เมื่อเห็นอาการเช่นนี้มีหรือสาวใช้มากประสพการจะไม่ทราบว่าคำตอบคือใช่

"ชะ ชั่งเถอะ เจ้ามีอะไรอีกมั้ย" นาริสาเบี่ยงเรื่องทันที

"อา ใช่แล้วสมชายบอกว่ากางเต็นเสร็จแล้วให้คุณหนูเข้าไปพักผ่อนได้แล้วคะ อิอิ" สาวใช้กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มมีเร่กล

"อะ อืม งั้นเราไปกันเถอะ ข้าชักเหนื่อยๆแล้ว" นาริสารีบเปิดประตูออกแล้วเดินไปยังเต็นของตน

"อิอิ สงสัยมีเรื่องสนุกแน่เลย ฮุฮุ" สาวใช้ขำเล็กน้อยออกมาแล้วเดินตามคุณหนูของตนเข้าไปในเต็นทันที

ไม่นานดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปมีดวงจันทร์ลอยขึ้นมาทำหน้าที่ส่องแสงสลัวๆเข้ากับบรรยากาศมืดค่ำอย่างน่าชมแทน ผู้ชายทั้งหมดต่างนั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันพูดคุยกันหน้ากองไฟที่จุดขึ้นมาเพื่อทำอาหาร ส่วนหญิงสาวนั้นนั่งกินอยู่อีกด้านที่มีโต๊ะสนามวางให้นั้งอย่างสบายๆ เมื่อเวลาผ่านไปต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าทีของตน โดยฝ่ายหญิงมีสาวใช้อาสาจัดการกับจาชามเอง ปล่อยให้คุณหนูนาริสาไปอาบน้ำกับมิเรนที่กระโจนอาบน้ำอย่างง่ายๆที่กางเอาไว้ด้านข้างเต็นของพวกนาง ส่วนฝ่ายชายหลังจากโดนกันไม่ต้องจัดการจานชามแล้วจึงเก็บและจัดการกับเศษอาหารเอาไปฝังยังหลุมที่ขุดเอาไว้เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นออกมา แล้วแบ่งยามกันไปเฝ้าเต็นสามกะ กะละคู่โดยเกรนได้อยู่กะสองพร้อมกับนายทหารคนหนึ่งส่วนสมชายนั้นขอกะสุดท้าย เพราะพอหมดกะจะได้ปลุกพวกให้ตื่นแล้วทำธุระยามเช้าต่อได้เลย

เกรนที่ตอนนี้ได้นอนในเต็นของตนคนเดียว เพราะมิเรนโดนชวนไปนอนอยู่ที่เต็นของพวกนาริสา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ยื้ออะไรกับคิดว่าน่าจะดีซักอีกที่มิเรนจะได้ไม่โดนมองในแง่ลบ ส่วนมิเรนนั้นก็ไปอย่างเต็มใจเพราะไม่อยากให้เกรนต้องมาวุ่นวายกับการอธิบายเรื่องของตนกับเขา

ดวงจันทร์เคลื่อนตัวมาอยู่เหนือท้องฟ้าอันมืดมิดเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนกะที่สองมาเฝ้าเกรนที่โดนปลุกกำลังนั่งผิงไฟอยู่หน้ากองไฟถึงแดนใต้นี้ในตอนเช้าจะมีอากาศร้อนแต่ตอนเย็นกับมีลมเย็นพัดผ่านอยู่ตลอด ซึ่งถ้ามาอยู่กลางแจ้งแบบนี้มันก็หนาวไม่ใช่น้อยสำหรับเกรนที่ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามารับสภาพอากาศแบบนี้

"555 เกรนเจ้าจะยอมเสื้อนอกข้าก่อนมั้ยข้ามีสามตัวเลยนะ" ทหารคู่กะกล่าวขึ้น

"อา ไม่เป็นไรหลอกหนาวๆแบบนี้ข้าชอบ แหะๆ" เกรนกล่าวปฏิเสธออกไป

"ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ ว่าทางใต้อากาศจะเป็นแบบนี้"

"หึหึ ตอนแรกข้าก็เป็นแบบเจ้าหละ แต่พออยู่ไปนานๆก็ชิน เห็นงี้ความจริงข้าเป็นคนทางเหนือนะ"

"เอ๋ แล้วไงท่านลงมาอยู่ที่แดนใต้หละ"

"พูดแล้วเรื่องมันยาว"

"ยังไงกะสองของเราก็พึ่งเริ่มหนิ ท่านไม่ลองเล่าดูหละ ข้าอยากฟังนะ" เกรนเอ่ยออกมา เพราะยังไงเวลาเฝ้ายามยังอีกตั้งนานฟังเรื่องชีวิตของคู่กะซักหน่อยคงฆ่าเวลาไปได้มากโขทีเดียว

"เอางั้นหรือ"

"อืม เล่าเลยท่าน"

"เอาวะ เรื่องมีอยู่ว่า ....." ทหารคู่กะก็เริ่มเล่าเรื่องราวชีวิตของตนตั้งแต่อยู่ทางแดนเหนือแล้วย้ายมาหางานทำที่แดนใต้จนได้พบรักแต่งงานกับหญิงแดนใต้ จึงอยู่กินกันตั้งแต่นั้นมาซึ่งเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเข้าตี1คลึ่งอีกไม่นานก็จะเป็นเวลาเปลี่ยนกะอีกครั้ง

"ข้านะอยากจะได้ลูกชายนะ แต่ทำยังไงก็ไม่ได้สักที"

"แล้วตอนนี้ท่านมีลูกสาวกี่คนหละ"

"หาใครว่าข้ามีลูกสาว"

"ก็ท่านบอกว่าทำยังไงก็ไม่ได้ลูกชายไง" เกรนกล่าวถามแบบงง

"แต่ข้าก็ไม่ได้บอกว่ามีลูกสาวนิ"

"งะ ตกลงท่านยังไม่มีลูก" เขาจึงย้ำคำตอบ

"อืม" นายทหารตอบหน้าตาเฉย

"แล้วพูดยังกะมีแล้วงั้นหละ" เกรนกล่าวพรางทำใบหน้าเซ้งๆ

"555 ก็ข้าไม่ค่อยว่างเลยนี้มีเวลาอยู่บ้านวันสองวันก็ต้องออกเดินทางไปนู่นนั้นตลอด"

"อืม ข้าว่าท่านคงต้องลาพักยาวๆ แล้วลุยปั๊มแบบมาราธานไปเลยรับลองต้องได้ชัว"

"เฮ่ย นี้เห็นข้าเป็นตัวอะไรวะ จะให้จัดแบบมารธานเนี่ย ไม่ใช้ไตรกีฬาโว้ย" นายทหารตอบพราทำปากเบ๊ใส่

"แหมๆ แน่นจำนวนครั้งไงยังไงก็ต้องมีซักครั้งที่โดนหละ" เกรนกล่าวแบบยิ้มๆ ตอบกับไป

"ข้าวะ "

ฉึก !!!

"อ๊ากกกกก"

การเดินทาง 16 - สู่แดนใต้

หลังจากที่ทั้งสองทำธุระตนเสร็จแล้ว

ทั้งสองได้เดินลงมาด้านล่างของโรงพักผ่อน ก็พบว่าเพื่อนคณะร่วมเดินทางได้มานั่งรออยู่แล้วด้านล่าง

"ไง สมชายท่านอนไม่หลังหรือไง ดูไม่สดใส่เลย" เกรนเข้าไปทักสมชายก่อนเพราะเห้นว่าเขาดูซีดเหมือนคนไม่ได้นอน

"555 ข้าสบายดี เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร" เสียงของเค้าเบาลงอย่างเห้นได้ชัด

"แน่ใจนะท่าน"

"อืม เมื่อคืนทำธุระมากไปหน่อยเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหลอก 555" สมชายแม้จะพยายามหัวเราะออกมาแต่ก็ดูเบาไร้กำลังเหมือนทุก

"ถ้าท่านว่าอย่างงั้นข้าก็ตามใจท่าน แล้วแม่นางเบญจมาศกับคุณหนูนาริสาหละ" เกรนจึงเปลี่ยนหัวข้อสมทนา

"เฮ่อ ถ้าเบญหละก็ตอนนี้คงอาบน้ำเสร้จแล้วไปรับคุณหนูนาริสานั้นหละ อีกสัหพักคงพากันลงมา"

"เอ๋ ท่านเจอแม่นางเบญจมาศแล้วหรือ"

"อะ อ๋อ ใช่ข้าพบนางตอนเช้ามืดนะพอดีเดินลงมาดูรถม้าที่ฝากเอาไนะว่ายังดีอยู่มั้ย 555" สมชายกล่าวตะกุกตะกักเล็กน้องเหมือนคนแก้ตัวยังไงอยู่ แต่เกรนก็หาสนใจไม่

"อ๋อ ท่านนี้ชั่งขยันนะ 555"

"555 นั้นนะสิข้ายังงงตัวเองอยู่เลย 555" สมชายนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเขากับสาวใช้ร่วมรักกันนานจนถึงตี3เลยทีเดียวเล่นเอาเขาหมดเรี่ยวหมดแรงไปเลยทีเดียว แต่ต้องฝืนสังขารเตรียมตัวเพื่อการเดินทางต่อ

"เอะ นั้นไงพวกนางลงมาแล้ว" มิเรนที่นั่งเงียบอยู่ด้านข้างเกรนกล่างขึ้นมาหลังจากเห็นพวกเบญจมาศลงมา

"อรุณสวัสดิ์ครับ แม่นางเบญจมาศ ท่านนี้คงเป็นคุณหนูนาริสา เอ๋ ??" เกรนกล่าวไปก่อน แต่ต้องออกเสียงตกใจกับคนที่เดินมากับสาวใช้

"อรุณสวัสดิ์ท่านเกรน ก็ด้วยมิเรน" เป็นเบญจมาศที่กล่าวต่อ

"คะ อรุณสวัสดิ์คะ" มิเรนตอบกับ

"ส่วนคนนี้คือคุณหนูนาริสาคะ" เบญจมาศกล่าวต่อไป

"อะ อรุณสวัสดิ์มิเรน" นาริสาเอ่ย

"คะ อรุณสวัสดิ์คะ"

"อะ เออ เจ้าเป็นคนที่ข้าแบ่งเครปให้ใช่มั้ยเนี่ย" ในที่สุดเกรนก็มีโอกาศพูดขึ้น

"เอ๋" ทั้ง3คนที่เหลือต่างสงเสียงสงสัยขึ้นมา

"อะ อืม เป็นเราเองหละ ตะ ตอนนั้นเราหลงนะ จะ ใจที่แบ่งให้นะ" นาริสาเอ่ยแบบติดๆขัดๆ ในหัวแวบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนต้องก้มหน้าลงบังแกมที่เริ่มแดงเรื่อของนาง เบญจมาศที่สังเกตุพอจะเข้าใจว่านางคงอายที่เมื่อวานไปแอบอยู่ในตู้จึงเอื่อมมือไปกุมมือคุณหนูของตนเอาไว้

"งั้นหรือแล้ว มันอร่อยมั้ย"

"เห๋ กะ ก็อร่อยมากเลยหละ"

"โอ้ว งั้นก็ดีแล้วเดี๋ยววันนี้เราจะกินเค้กที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านนี้กัน ใช่มั้ยมิเรน" เขาหันไปถามมิเรน

"จะ จริงด้วยเราจะไปกินเค้กกัน ไปด้วยกันนะคะ"

"เดี่ยวสิเจ้าเจอกับคุณหนูตอนไหนนะ" สมชายที่หายงงกล่าวออกมา

"อืม เดี๋ยวข้าจะเล่าตอนไปกินเค้กหละกัน" เกรนตอบไป

"งั้นไปกันเถอะคะ" มิเรนกล่าวอย่างมีความสุข แล้วไปจูงมือนาริสาเดินออกไปจากโรงพักผ่อนไปยังร้านเค้กยอดนิยมของหมู่บ้านนี้ที่อยู่เยื้องๆตรงข้ามกับโรงพักผ่อนที่พวกเขาเขาพักไม่ไกลนัก ระหว่างทางก็ได้ดูเหล่าพ่อค้าที่มาเปิดแผลงขายของของตนกันกระจายตามข้างทาง

"ฮู ที่นี้แม้เช้าๆก็ยังมีคนขายของไม่ต่างอะไรกับที่เมืองเลยเนอะ" มิเรนกล่างออกมาอย่างตื่นแต่

"ก็ที่นี้ด่านเปิดช่วง10โมงเช้าถึง6โมงเย็นนะ ถ้าเช้าๆแบบนี้พวกพ่อค้าที่จะออกเดินทางลงใต้ส่วนมากก็มักจะเอาของออกมาวางขายข้างทางกัน ป็นการหารายได้เพิ่มไง" สมชายอธิบายแบบง่ายๆ

"อืม คงอย่างงั้นหละ" เกรนเสริม

"อา ถึงแล้วนี้หละร้านขายเค้กแสนอร่อยที่ข้าภูมิใจเสนอ" สมชายเดินนำตรงไปยังร้านขายขนมที่มีโต๊ะให้นั่งหน้าร้าน เป็นร้านเล็กๆมีที่นั่ง 4-5โต๊ะเท่านั้น

เมื่อทั้งหมดเลือกที่นั่งกันได้แล้วจึงสั่งเค้กมากินกันโดยมิเรนนั้นเลือกคัสตาร์ดเค้ก, เค้กช็อคโกแล็ตหน้านิ่ม และสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กมาสามชิ้นตามที่ตกลงกับเกรนเอาไว้ ส่วนเขาสั่งแต่น้ำเปล่าเพราะพอมองราคาเทียบกับขนาดชิ้นแล้วรู้สึกได้เลยว่ามันแพงเอาการจึงไม่อยากเพิ่มรายจ่ายของตนไปมากกว่านี้ ส่วนอีกสองสาวนั้นเลือกสั่งบลูเบอร์รี่ชีสเค้กกับบราวนี่เค้ก และสมชายเลือกเค้กคาปูชิโน่

"เกรนเจ้าไม่ลองชิมดูหรือ อุสามาถึงที่แล้วนะ" สมชายถามเมื่อเห็นว่าเกรนไม่ได้สั่งเค้ก

"ข้าไม่ค่อยชอบของหวานแบบนี้นะ ขอแค่น้ำเปล่าก็ใช้ได้แล้ว นั่งดูบรรยากาศยามเช้าดีกว่านะ" เกรนตอบผ่านๆไปจากนั้นเขาก็ลากเก้าอี้ตนไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งปล่อยให้สาวๆนั่งกินกันแบสบายๆ

"อย่างั้นหรือ" สมชายเอ่ย

"อืม" เกรนตอยแล้วนั่งมองดูผู้คนเดินไปมาซื้อขายของกันบนท้องถนน ซึ่งไม่นานก็มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวจากด้านสาวๆที่ตอนนี้เค้กมาเสริบบนโต๊ะให้ลองชิมกันแล้ว เกรนหันไปมองมิเรนที่ตั้งหน้าตั้งตากินเค้กทั้งสามชิ้นสลับกันไปมาอย่างสนุกสนาน แล้วหันกับไปมองยังท้องถนนต่อไปแต่ก็พอกัยแววตาคู่หนึ่งที่จ้องมายังเขาและเขาก็จำได้แม่นเลยว่าเป็นใคร

เจ้าของแววตานั้นเดินตรงเข้ามาหาเกรน ส่วนเขาก็ยิมตอนรับกลับไป

"ไม่คิดว่าจะมาพบเจ้าที่นี้เลยนะ" เจ้าของแววตานั้นกล่าว

"อา ข้าก็ไม่ฝันว่าจะมาพบท่านหัวหน้าหน่วยอินทรีย์เหล็กเช่นกัน" เกรนตอบ

"แล้วนี้เจ้ามาทำอะไรที่นี้กันหละ จะลงใต้หรือ" คาเรนถามขึ้น

"ใช้แล้วพวกข้าจะเดินทางลงใต้ไปท่องเที่ยวกันนะครับ" เกรนกล่าวพรางผายมือไปยังโต๊ะข้างๆ

"อ๋อ มากับเพื่อนเจ้าสินะ"

"ครับนี้ แม่นางเบญจมาศ คุณหนูอาริสา มิเรน และสมชาย ครับ" เขาแนะนำตัวคนในโต๊ะด้านข้างจากซ้ายไปขวาทีละคน

"ยินดีมีรู้จักคะ/ครับ" คนในโต๊ะด้านข้างได้ขานต่อจากเกรนที่กล่าวจบตามมารยาท

"อืม ยินดีที่รู้จักนะ แล้วพวกเจ้าจะออกเดินทางตอนไหนหละ" คาเรนตอบกลับ

"อ๋อ พวกเราจะออกตอน 10โมงตามเวลาที่ด่านเปิดนั้นหละครับ" สมชายเอ่ย

"งั้นหรือ ถ้างั้นขอให้โชคดีนะ ระวังตัวกันหน่อยช่วงนี้แดนใต้มีพวกกองโจรออกมาเพ่นพลานมากขึ้นนัก" นางกล่างออกมาแล้วหันไปจ่องมองเกรน

"อา ครับข้าขอบคุณในความหวังดี" เกรนเห็นดังนั้นจึงกล่าวออกไป

นางจ่องเกรนอยู่นานแล้วพึมพัม "หรือว่าเราคิดไปเองนะ"

"ท่านคาเรนจ่องข้านานแล้วมีอะไรอีกหรือไม่ครับ" เกรนจึงกล่าวออะมาเพราะเห็นนางนิ่งไปนาน

"หืม เปล่าหลอกข้ากำลังคิดอะไรนิดหน่อยเลยเหม่อไปบ้าง งั้นข้าไปหละ" คาเรนจึงเดินออกไปพรางโบกมือลา

"ครับ โชคดีเช่นกันครับ" เกรนโบกมือลานางกลับไป

"แล้วนี้เจ้าไปพบรู้จักนางได้ไงอะ" สมชายที่สงสัยจึงถามขึ้น

"อ๋อ ตอนที่ข้าอยู่ในเมืองดังไปช่วยชายโดนรุ่มเข้าแต่พอพวกเจ้าหน้าที่ตรวจการมาถึงดันจะจับข้าไปด้วยพอดีนางนั่งในร้านเห็นเหตุการณ์จึงช่วยเห็นพยายานให้เราเลยรู้จักกันแบบผ่านๆอะนะ"เขาอธิบายนแบบรวบๆ

"อืมๆ ข้าเข้าใจหละ"

หลังจากนั้นต่างคนก็เริ่มกินเค้กของตนไปแล้วพูดคุยสัเพเหระกันไปจนใกล้ได้เวลาออกเดินทาง เกรนจึงเรียกเก็บเงินซึ่งสมชายก็ช่วยออกให้ครึ่งหนึ่งเพราะทนเห็นเกรนที่คับเงินจ่ายแล้วไม่ยอมปล่อยมือจากเงินสักทีไม่ได้ จึงเสนอว่าจะช่วยออกให้สักครึ่งเพราะตนควรรับผิดชอบค่าเค้กในส่วนของเบญจมาศกับคุณหนูเอง ทำให้เกรนดีใจจนแทบกระโดดไปกอดเพื่อนใหม่คนนี้เลย

พอทั้งหมดเดินทางมายังโรงพักผ่อนก็แยกย้ายกันไปเก็บสัมพาระของตนแล้วลงมารวมกันที่หน้าโรงพักผ่อน เอาของไปใส่ในรถข่นของที่จอดหน้าโรงพักผ่อนแห่งนี้ แล้วเริ่มเคลื่อนขบวนไปยังประตูทิศใต้กัน

เมื่อมาถึงยังประตูทางทิศใต้พวกเกรนก็พบว่ามีผู้คนมายืนต่อแถวเพื่อยื่นเรื่องเดินทางลงแดนใต้ยาวแล้ว

"ปะ พวกนี้ขยันกันจริงๆ มาต่อแถวกันตั้งแต่เช้าเลย" เกรนกล่าว

"คงมีคนคิดแบบเรามากหละ เราก็รีบไปต่อแถวกันเถอะ" สมชายเสนอ

"อืม"

พวกเขาต่อแถวไปอย่างใจเย็นเมื่่อถึงเวลา แถวก็เริ่มเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ สลับหยุดนิ่ง เนื่องจากแถวที่พวกเกรนต่อนั้นเป็นแถวสำหรับคณะที่มีรถม้า-รถขนของซึ่งต้องมีการตรวจอย่างละเอียดกว่าคนเดินทางปกติมาก ซึ่งครั้งนี้เกรนผ่านไปได้แบบง่ายๆไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จนถึงช่วงเกือบเที่ยงทั้งคณะถึงผ่านออกมาได้ครบ แต่ด้วยใกล้เที่ยงจึงนั่งกินข้าวเที่ยงกันก่อน แล้วเริ่มเดินทางลงสู้แดนใต้ต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 15 - อยากรู้

ในห้องพักห้องหนึ่ง

หลังจากที่สาวใช้ได้เดินมาส่งยังห้องนางก็ให้สาวใช้ไปพักยังห้องด้านข้างของตน แล้วเข้าไปอาบน้ำก่อนเข้านอน นาริสาได้เดินไปยังกระจกบางใหญ่ที่ติดอยู่กับผนังด้านหนึ่งของห้องอาบน้ำ นางพิจารณาเรื่องร่างของนางไปมาพางคิดไปถึงเหตุการณ์สดๆที่พึ่งได้ผ่านมาไม่นาน ถึงนาริสาจะไม่ได้เห็นภาพอะไรมากมาย แต่ในตู้ที่ทั้งสองอยู่นั้นเสียงสามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้เบาๆ นางจึงได้ยินเสียงร่วมรักของทั้งสองเต็มสองหูทำให้นางรู้สึกบางอย่างมันอัดอั่นอยู่ภายในทั้งทั่วร่างกายโดยฉะเพาะช่วงล่างของนางที่รู้สึกเสียวๆคันๆจนต้องหนีบขาเอาไว้ตลอดที่อยู่ในตู้นั้นเพื่อไม่ให้แสดงอาการในสาวใช้ตนรู้ พอตอนนี้นางได้มาอยู่คนเดียวจึงเริ่มสัมผัสร่างกายตนตามจุดที่มีอาการตามความสงสัยของสาวที่กำลังเข้าวัยรุ่นทั่วๆไป

"อะ มันเสียวๆจั้กจี้แอธ" นางเอามือลูบวนหน้าอกที่เริ่มนูนขึ้นมาประมาณส้มผลหนึ่งได้

"อืมมมม" จากนั้นก็เลื่อนมาลูบลงมาบริเวณหน้าท้อง

"อะ อี้ อะไรเนี่ย อะ อาาาา" พอมือนางลูบไปยังด้านล่าง นิ้วกลางนางไปเสียดผ่านติ่งเสียวที่ตอนนี้มันแข็งเป็นเม็ดขนาดเม็ดถั่วยิ่นออกมาเล็กน้อยยริเวณปากถ้ำนาง

"อะ อาาาา โอ้ววววว สะ เสียวววว จริง อาาาา" ตอนนี้ร่างกายนางเป็นไปตามธรรมชาติของการสำเร็จความไคล่ มือหนึ่งเริ่มออกแรงบีบเคล้นอกน้อยๆของนาง อีกมือกลับรูดขึ้นลงปากถ้ำให้นิ้วเสียดสีกับติ่งเสียวของนางไปมา ตัวนางคล่อยๆย่อตัวนั่งลงไปกับพื้นห้องอาบน้ำ แล้วเอนตัวพิงผนังห้องสองมือยังคงทำงานของมัน เพียงแต่เร่งมือเร็วขึ้นตามอารมณ์ของผู้เป็นนาย

"อะ อะ อาาาา ซีดดดด อู้ววววว มันจังเลย อาาาา" แจ๊ะๆๆ

"ซูดดดดด โอ้ววววว มะ ไม่ไหวแล้ว" แจ๊ะๆๆ

"อะ อะ อ้ายยยย ยะ เยียวจะออกแล้ว นะ นี้มันอะไรกัน" แจ๊ะๆๆ แจ๊ะๆๆ

"ซีดดดดด อาาาาาา ความรู้สึกแบบนี้ อะ อ๊ายยยยยยยยยยย" นางร้องออกมา ร่างทั้งร่างเกร็งกะตุก สองมือกดแนบแน่นกับอกและส่วนล่างของนาง ความรู้สึกขาดๆหายๆในหัวโล่งไปหมด ลมหายใจหอบเหมือนคนไปวิ่งออกกำลังกายมายังไงอย่างนั้น

"แฮะๆ แฮะๆ นี้มันอะไรกัน เราเป็นอะไรเนี่ย แฮะๆ" นาริสาที่พึ่งรู้สึกถึงการช่วยตัวเองครั้งแรกโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร ได้นั่งปล่อยมือจากอาการเกร็งลงข้างตัวอย่างหมดแรง ซึ่มซับความรู้สึดสุขสุดเอาไว้แล้วปล่อยให้เวลาผ่านไป ในไม่นานนางก็รู้สึกมีแรงขึ้นมานิดหนึ่งจึงรีบอาบน้ำเช็ดตัวแล้วใส่เสื้อนอนตรงไปนอนยังเตียงของนางอย่างอ่อนแรง พรางคิดว่าจะลองไปถามสาวใช้ของนางถึงอาการที่นางเป็นดูสักหน แล้วก็ค้อยหลับไป

...

ด้านสาวใช้ที่หลังจากส่งคุณหนูของตนแล้ว หาได้เดินตรงไปยังห้องของตนไม่กลับเดินตรงไปอีกด้านหนึ่งแทน จนมาหยุดอยู่ห้องๆหนึ่งยังคงมีแสงไฟส่องลอดจากล่องประตูออกมา แสดงว่าคนภายในนั้นยังไม่ได้หลับนอนที

ก็อกๆ นางจึงยื่นมือออกไปเคาะประตูเรียกคนด้านใน

แอ๊ดดด เสียงเปิดประตูพร้อมร่างเจ้าของห้องที่มองมายังนางด้วยสีหน้ายิมแย้ม

"ไง เบญ เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยหรือถึงได้มาซะดึกๆเนี่ย"

นางไม่พูดพ่ำทำเพลงกระโจนเข้าไปโอบคอสมชายจูบปากสอดลิ้นพัวพันกับเขา แล้วเบียดตัวเข้าไปแนบชิดกับเขาให้อกอวบของนางอัดแนบไปกับอกแข็งกว้างของเขาอย่างจงใจ

"อูย อืม จะ เจ้าใจเย็นๆ อุบ" เขาถอนปากออกมากล่าวได้แค่นั้นก็โดนสาวเจ้าประกบกับไปอีกครา "อืม อืม"

สมชายจึงเอามือข้างหนึ่งโอบเอวนาง แล้วส่งอีกมือไปปิดประตูลงพร้อมเคลื่อนกายเข้าไปยังเตียงนอนของตน ระหว่างที่เคลื่อนกายไปนั้น เบณจมาศคลายมือออกข้างหนึ่งไปปดกระโปรงและคลายซีบหลังเสื้ออย่างคล่องแคล่ว ส่วนสมชายใช้มือที่ว่างจากการปิดประตูปลดกางเกงตนเช่นกัน

พอมาถึงเตียงนางผลักเขาลงไปนอนบนเตียงแล้วจัดการถอดชุดชั้นในที่เหลือของตนออกแล้วเคลื่อนกายคลานขึ้นเตียงค่อมเขาเอาไว้ ส่วนสมชายนั้นใช้เวลานี้ถอดเสื้อของตนออกไปจนตัวเปล่าเช่นกันกันนาง เมื่อนางค่อมตัวเขาแล้วจึงจุบไซ้เขาไปทั่วตัวตั้งแต่อกแข็งกว้างลงไปหน้าท้องที่มีกล้ามมัดเป็นลูกคลื่นจนมาถึงแก่นกายของเขาซึ่งตอนนี้ตั้งแข็งตะหง่ายท้าทายผู้มาเยือนอย่างแข็งขัน

นางจูบเลียรอบแก่นกายวนไปมา ค่อยเลื่อนลงไปยังถุงด้านล่างอมดูดเข้าปากอย่างมัน ส่งสองมือไปลูบซักแก่นกายเขาจนเจ้าตัวต้องร้องเสียงหลงเอามือทั้งสองไปขยี่ผมนางเล่นระบบอารมณ์

"อู้ววววว เจ้าจะดูดให้มันขาดเลยหรือไง ฮืมมมม"

"อืม อืม จ๊วบๆ อืม จ๊วบๆ " นางไม่ได้ตอบแต่ย้ายปากขึ้มมาเลียรอบหัวแก่นกายรอบหนึ่งแล้วค่อยๆอมแก่นกายเข้าไปส่วนมือหนึ่งยังคงซักท่อนเสียงของเขาไปมา แต่อีกมือกับย้ายลงไปนวดถุงของเขาแทน สร้างความสุขเสียวแก่สมชายเป็นอย่างมาก จนเขาต้องสายกระแทกไปตามจังหวะการดูดของนาง

"อู้ววววว วะ สุดยอด อาาาา เจ้าทั้งดูดและวนลิ้นภายในแบบนี้ ข้าเสียวสุดๆไปเลย โอ้วววว"

"อืม อืม อืม จ๊วบๆ จ๊วบๆ " คราวนี้นางเร่งซักมือแล้วดูดหนักขึ้นไปอีกไม่นานเขาก็ทนต่อไปไม่ไหว

"อะ อะ โอ้วววววว ขะ ข้า แตกแล้ว อ๊ากกกกกกก" สมชายปล่อยน้ำรักพุ่งเข้าปากนางแบบไม่มีกั๊ก ตัวกระตุกเป็นระยะๆ สองมือกดหัวนางแน่ไปกับแก่นกายของเขา ซึ่งนางก็ดูดกินน้ำรักของเขาอย่างช่ำชองไม่มีหยดไหนเล็ดลอดจากปากนางได้เลย

"แฮะๆ เบญวันนี้ทำไมเจ้าร้อนแรงจัง แฮะๆ" สมชายที่ทุกครั้งจะเป็นฝ่ายบุกของร่วมรักกับนาง แต่ในวันนี้กับเป็นฝ่ายรับแทนแถมนางรุกแรงเร็วซะด้วย สร้างความแปลกใจแก่เขายิ่งนัก

"จ๊วบๆ จ๊วบๆ  อืมมมมม" นางยังคงไม่กล่าวอะไรเอาแต่ดูดทำความสะอาดแก่นกายเขา จนมันเริ่มพองตังอีกครั้งในปาก นางจึงถอนกายออกแล้วขึ้นค่อมเขาจอแก่นกายไปยังร่องเสียวของนางแล้วค่อยๆย่อตังลงให้มันเสียบเข้าไปเข้าในช้าๆ

"อะ อาาาา เจ้าไม่ต้องพูดมากความ ฮะ ฮะ เราสนใจเรื่องตอนนี้ดีนะ อืมมมมมม " เมื่อนางกล่างแก่นกายเขาก็โดนร่องเสียวนางกลืนไปทั้งแท่งแล้ว นางจึงสายสะโพกวนไปมาให้ร่องของนางเริ่มปรับตัวกับแท่งกายนี้

"อู้ววววว ซีดดดดด ดีๆ สายได้ดี อู้ววววว"

"อืมมมมมม ซูดดดดด อาาาาา เสียวจัง อาาาาา"

"แบบนี้ข้าจะไม่ไหวเอานา ฮืม" สมชายส่งมือไปรั้งเอวนางเอาไว้แล้วกระแทกกายขึ้นส่งผลให้แท่งของเขาอักเข้าไปในร่องของนางมากขึ้น

"อุยยยยยยย ซีดดดดด งั้นข้าจะเริ่มหละนะ" เมื่อเห็นคู่ขาตนกระแทกเปิดตัวแล้วนางจึงเริ่มขยังสะโพกขึ้นลงกระแทกกับไปยังคู่ขาตน ที่ตอนนี้เขากำลังเด้งกายตอบโต้นางเช่นกัน ต่างคนต่างขยับกายใส่กันอย่างมัวมัน ตับๆตับๆ

"อู้ววววว ซีดดดดด แรงๆอีกท่าน อาาาา" ตับๆตับๆ

"ฮืม ฮืม โฮ้วววว" ตับๆตับๆ

"อะ อาาาาา ดะ ดีดี อาาาาา อย่างนั้น หะ หละ" ตับๆตับๆตับๆ

"ฮะ ฮะ ฮ่าาาาาา ซีดดดดด" ตับๆตับๆตับๆ

"ซูดดดดด โอ้ววววว เร็วๆอีกท่าน ขะ ข้าจะแตกแล้ว อาาาาา" ตับๆตับๆตับๆตับๆ

 "ดะ ได้ ได้ อู้ววววว สุดยอด ซูดดดดดด" สมชายตอบรับด้วยการเร่งกระเด่งและสาวมือกดสะโพกนางลงมาเร็วขึ้น ตับๆ ตับๆ ตับๆ ตับๆ ตับๆ

"อะ อะ อะ อะ อาาาาา ขะ เสร็จ ละ แล้ว อะ อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย" นางกรี๊ดร้องออกมาพร้อมกระแทกกายสุดตัวลงไปยังแก่นของเขาอีกทั้งยังเกร็งแขนขาหลับตาแหงนหน้าขึ้นแพดาน ดึมดั่มกับสวรรค์ที่มาเยือนอย่างเต็มที่

"อะ โอ้ววววว ขะ ก็แตกแล้วววววว อ๊ากกกกก" สมชายก็เช่นกันหลังจากที่นางกระแทกกายสุดท้ายภายในนั้นตอดรัดแก่นกายเขาอย่างแรงจนเขาทนไม่ไหวต้องเสียน้ำอีกหนไล่เลี่ยกับนางไป

"แฮะๆ เป็นไงมั่งท่าน ข้ามีความสุขจริงๆ แฮะๆ" นางล้นตัวลงซุกอกคู่ขาของตนอย่างหมดแรง

"555 สุดยอดไปเลย ไม่ว่ากี่ครั้งเจ้าก็สุดยอดที่สุดแล้ว" สมชายกล่าวพรางเอามือไปโอบนางเอาไว้ลูบไล้แผ่นหลังนวลของนางไปมา

นางเริ่มขยับเลื่อนกายข้นมาระดับใบหน้าเขาแล้วจูบเขาหนึ่งครั้งก่อนชันตัวขึ้นคร่อมให้อกอวบนางมาอยู่ตรงสายตาเขาพอดี

"ท่านช่วยดูดให้ข้าบ้างสิ เมื่อกี้ข้าทำให้ท่านไปแยะแล้วนะ" นางพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

"ได้สิ งั้นเรามาต่อรอบสองกันเถอะ" สมชายเมื่อเจอการยั่งแบบนี้มีหรือจะปฏิเสธนางได้ จึงสนองด้วยการดูดเลียอกอวบและยอดถัดนาง ใช้มือทั้งสองนวดเคล้นให้อีกแรง เพื่อให้นางเสียวสมใจหมาย

"อะ อาาาาา ดี อย่างงั้นหละ อาาาาา ซีดดดดด"

แล้วสงครามสวรรค์ของสองคนก็ดำเนินต่อไปตามครรลองของธรรมชาติการร่วมรักชายหญิง

...


ในเช้าวันใหม่ เกรนตื่นนอนแล้วแต่เขายังไม่ขยับกาย เพราะกลัวว่านางในอ้อมกอดจะยังคงนอนหลับอย่างสุขสมในอ้อมแขนของเขาจะตื่นขึ้นมา แต่ไม่นานนางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมางัวเงีย

"อืม อรุณสวัสดิ์คะ ท่านเกรน" นางหันไปกล่าวยิมกับชายหนุ่มที่กอดนางจากด้านหลัง

"อรุณสวัสดิ์มิเรนเป็นไงสบายดีมั้ย"

"ข้าก็สบายดีสิคะ ถามอะไรแปลกๆ"

"งั้นข้าทำแบบเมื่อคืนทุกวันเลยหละกัน"

"เอะ ขะ ข้า มะ ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ โถ่ท่านเกรนนี้ชอบแกล้งข้าจริงเชียว" นางกล่าวตกใจในตอนแรกเพราะเรื่องสบายที่ผิดความหมายของเกรน และเปลี่ยนเป็นงอนอย่างรวดเร็ว

"555 หรือว่าไม่จริง ข้าเองก็สบายนะ สุดยอดไปเลยหละ" เขายังคงกล่าวแกล้งต่อ

"ว้าย ท่านนี้หละก็ ข้าจะไปอาบน้ำแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้แม่นางเบญจมาศกับคุณหนูนาริสา จะลงไปรอแล้วหรือยัง" นางดึงแขนที่โอบนางเอาไว้ออกแล้วลุกขึ้นนั่งหมายจะลุกเดินไปเอาอาบน้ำ แต่ชายหนุ่มก็ยื่นมือมาโอยนางเอาไว้อีกหน

"น่าๆ ก็เจ้าน่ารักออกแบบนี้ข้าเลยอยากแกล้ง สงสัยข้าแกล้งแรงไปนะ"

"ฮืม" นางเชิดหน้าไปอีกทาง

"เอางี้เดียวเราไปหาอะไรกินข้างนอกกัน ข้าได้ยินมาจากสมชายว่าแถวนี้มีร้านทำขนมเค้กและชาอร่อยมากๆอยู่นะ แถมข้าจะให้เจ้ากิน2ชิ้นเลย" เกรนเริ่มเอาของหวานมาต่อรอง

"ฮะ นี้ท่านเห็นข้าเห็นแก่กินหรือไงคะ เอาของกินมาล่อแบบนี้นะ" นางยังหันไปอีกด้านแต่บ่นออกมาแบบงอนๆ

"งะ แล้วจะให้ทำไงเจ้าจะหายงอนข้าหละ คนดี"

นางชูนิ้วขึ้นมาอีก3นิ้วแล้วกล่าวว่า

"ข้าขอ3ชิ้นคะ แล้วจะชวนเบญจมาศกับนาริสาไปด้วย"

"เออ ข้าต้องออกให้ทั้งสองด้วยมั้ย"

"ต้องเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ"

เขาได้แต่ยกมือสองข้างขึ้นยอมแพ้เป้นอันตกลงตามที่นางต้องการ

"จริงๆนะคะ" นางหันกลับมาตาเป็นประกายสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด แม้ไม่ได้ล้างหน้าอะไรเลย

"อืม ข้าสัญญาเลย" เกรนได้แต่จำใจรับคำไป

"เย่ ขอบคุณมากคะ งั้นข้าขอตัวไปอาบน้ำล้างหน้าก่อนนะคะ" แล้วนางก็ลุกพุ่งออกไปยังห้องน้ำทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งทำใจกับเงินที่จะหายไปคนเดียวพรางกล่าวเบาๆ

"เขาเริ่มเข้าใจที่ท่านเตือนแล้วครับ ท่านฮาเดส ใจหญิงนั้นอยากจะหยั่งถึง เหอๆ"

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 14 - ค่ำอันแสนสุข

ณ. หมุ่บ้าน 'เชาวาเรีย'

พวกเกรนได้เดินทางเข้าไปยังโรงพักผ่อนที่ทางสมชายได้ส่งข่าวมาจ้องเอาไว้ให้ก่อนแล้ว

"เอ๋ ได้มาห้องเดียวหรือ" สมชายกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตอนรับที่บาร์ด้านล่างของโรงพักผ่อนนี้

"ข้าต้องขอโทษท่านด้วยนะครับ ช่วงนี้คนแห่ลงใต้กันแยะ ห้องเลยเต็มเร็วกว่าปกติ" เจ้าหน้าที่ตอนรับกล่าว

"เอาเถอะๆ ข้าสามารถนอนร่วมกันมิเรนได้อยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร" เกรนกล่าวขึ้น

"งะ งั้นหรือ ขะ ข้านี้ก็ไม่ทันสังเกตุเลยเนอะ 55555" สมชายที่ได้ยินดังนั้นก็กล่าวติดๆขัดๆในตอนแรก แต่ก็เข้าใจได้จึงหัวเราะออกมา

"อา ท่านสมชายอยู่ก็หัวเราะออกมมา มีอะไรกันหรือคะ" มิเรนที่คุญอยู่กับสาวใช้ได้ยินจึงหันไปถามด้วยความสงสัย

"เออ ข้าก็แค่หัวเราะไปเท่านั้นหละ 555" สมชายกล่าวตัดง่ายๆออกไป

"คุณลูกค้าครับ นี้กุญแจห้องของท่าน" เจ้าหน้าที่ตอนรับได้ยื่นกุญแจห้องให้กับเกรน แล้วหันไปส่งให้กับคนอื่นๆอีก

"ขอบคุณครับ"

"เอาหละ ในเมื่อได้ห้องกันแล้วก็แยกย้ายกันไปได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมารวมตัวกันใหม่ตอนเช้าแล้วอย่าลืมกินข้าวเช้ามากันด้วยหละ พอร่วมกันเสร็จแล้วจะได้ออกเดินทางกันเลย ไปๆ" สมชายเห็นว่าแจกจ่ายห้องกันแล้วจึงสั่งแยกย้ายกันไปทำธุระของแต่ละคน


"งั้นพวกข้าก็ขอตัวหละ" เกรนกล่าว

"อือ" สมชายรับ แล้วเดินแยกกันไป

ห้องที่เกรนพักนั้นอยู่คนละด้านกับพวกสมชายที่อยู่อีกด้านกับพวกเค้าและคุณหนูของพวกเค้าก็เช่นกัน ตอนนี้จึงมีแค่เกรนกับมิเรนที่เดินไปอีกด้านเท่านั้น

"มิเรนเจ้าสนุกมั้ย" จู่ๆเกรนก็เอ่ยขึ้นมา

"เอ๋? คะ?" นางขานรับอย่างงงๆ

"อา ข้ายินเจ้าคุยกับแม่นางทั้งสองอย่างสนุกในรถม้านะ เลยอยากรู้ว่าคุยอะไรกันถึงได้สนุกแบบนั้น" เข้าสริม

"อ๋อ เจ้าคะ พวกข้าก็คุยเรื่องของที่ขายในตลาดตามข้างทาง เรื่องตลาดในเมือง 'ทาฟาเนีย' เสื้อผ้า ขนม อาหาร และเรื่องอื่นๆเล็กๆน้อยๆคะ" มิเรนตอบ

"หรือแล้วสนุกมั้ย"

"คะ ข้ามีความสุขมาก ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสพการณ์ กับแม่นางเบญจมาศกับคุณหนูนาริสาคะ" นางยิมสดใส่ออกมาบ่งบอกว่านางสุขจริงๆ

"555 ดีแล้วถ้าเจ้ามีความสุขข้าก็ดีใจ เจ้าจะได้มีเพื่อนๆกับคนอื่นบาง ต้องค่อยตามช่วยเหลือข้าตลอดเลยนิ"

"มะ ไม่หลอกคะ ข้าก็มีความสุขที่ได้ติดตามท่านเกรนนะคะ" นางกล่าวออกมาอย่างร้อนรน

"555 เจ้าไม่ต้องรนขนาดนั้น ข้าไม่ได้น้อยใจอะไร ข้าแค่พูดจากใจข้าตั้งหากที่เห็นเจ้ามีความสุขแบบนั้น สงสัยข้าต้องเดินทางไปกับพวกสมชายอีกสักหน่อยแล้วหละ เจ้าจะได้สนิทกับเพื่อนใหม่ของเจ้าให้มากๆ 555"

"ท่านเกรน ขอบคุณมากคะ" นางยืมมือมาจับหน้าเขากล่าวขอบคุณแล้วส่งจูบไปยังแก้มของเขาหนึ่งทีพรางเอากุญแจจากมือชายหนุ่มไปไขที่ห้อง "ข้าว่าเรารีบเข้าห้องดีกว่านะคะ ท่านจะได้พักผ่อน"

"หึหึ เจ้าคิดว่าจะได้พักหรือ" เกรนพูดแล้วเดินตามเข้าไปในห้องพร้อมปิดประตูลงกลอนอย่างรวดเร็ว

เกรนเดินตรงไปหามิเรนที่กำลังจะเปิดหน้าต่างให้ลมพัดระบายอากาศในห้องสักหน่อย

"อุย มีอะไรหรือคะ" นางกล่าวตกใจ เพราะชายหนุ่มเข้ามาประชิดตัวนางพร้อมทั้งโอบกอดนางจากด้านหลัง

"ฮืม.. เจ้าน่ารักมากรู้มั้ย" เกรนหอมไปยังซอกคอและหลังใบหูของนาง

"อืม ท่านเกรน ขะ ข้าเปิดหน้าต่าง ยะ อยู่นะคะ อุบ" นางเอียงใบหน้าเล็กน้องเพื่อกล่าวกับชายหนุ่มด้านหลัง ซึ่งเป็นจังหวะที่ชายหนุ่มขยับเข้าหอมแก้มนางและจูบปากนาง เขาขยับมือทั้งสองข้างออกจากเอวนาง แล้วอื่มไปดึงผ้าม่านเลื่อนมาบดบังวิสัยทัศย์พวกเขาจากภายนอก

"อืมมมมมม" มือของนางขยับไปโอบคอชายหนุ่มพร้อมจูบตอบโต้รับลิ้นที่เขาสอดเข้ามาในปากนาง

มือซ้ายชายหนุ่มขยับสอดเข้าไปใต้เสื้อนางบีบนวดอกอวบ ส่งนิ้วชี้กลายเขี่ยยอดถัดนางไปด้วย อีกมือเลื่อนลงล่างสอดเข้าไปใต้กระโปรงยาวสวยของนาง คลึงเนินอวบอิ่มด้านล่างของนางวนไปมาโดยให้นิ้วชี้บีบยังติ้งเสียวของนางไปด้วย

"อืมมมมม ทะ ท่านเกรน อาาาาา" มิเรนเมื่อโดนเล่นทั้งจุดเสียวบนล่างถึงกับครางตัวอ่อนเอนกายพิงชายหนุ่มยันไม่ให้ตนล้มเนื่องจากหมดแรงจากความเสียวที่ได้รับ

"มิเรนขยับมาทางนี้กัน" เกรนกล่าวแล้วเลื่อนมือที่นวดเคล้นอกอวบนางไปประคลองนางให้ขยับหันไปทางโต๊ะรับแขกที่อยู่ด้านข้าง

เกรนจับมือมิเรนข้างหนึ่งจากที่โอบคอเขาลงมายังโตะเอาไว้แทน โดยที่เขสยังจับมือนางจากด้านกลังมืออยู่อย่างนั้น ส่วนอีกมือของเขาได้เลื่อนชั้นในส่วนล่างนางลงจนถึงเขานาง แล้วถอยมือออกไปปลดกางเกงของตน ทำการถอกกระโปรงนางขึ้นจนเห็นก้นงอนนวลของนางจากด้านหลัง เขาลูบไล่ก้นนางสักพักก็แนบกายชิดหลังมิเรนให้แท่งกายของเขาจ่อตรงกับเนินล่างของนาง ย้ายมือที่ก้นนางลูบไล่ผ่านก้นไปยังเอวบางววนนวดรอบหน้าท้องแบนราบรอบสองรอบแล้วลูบไล่สนขึ้นบกไปเคล้นอกอวบนางต่อ

"อืมมมมม ..อา.."

"ฮืมมมม..."

เกรนขยับสะโพกสายไปมาให้แท่งกายเขาถูไถไปมากับเนินล่างของนาง อีกทั้งปลายหัวยังคอยสะกิดโดนติ่งเสียวนางเป็นระยะๆยิ่งเพิ่มความเสียวแก่นางยิ่ง น้ำในถ้ำนางเริ่มมากขึ้ยจนไหลออกมานองระหว่างขานางแล้ว

"อู้ววววว ซีดดดดด อาาาา ทะ ท่านเกรน ใส่เข้ามาเถอะ ยะ อย่าทรมานข้าเลย อาาาาา ซีดดดดด"


"นั้นสินะ ข้าซักทนไม่ไหวเหมือนกัน"

ว่าแล้วเขาก็ขยับแท่นกายเขาถอยหลังแล้วค่อยเดินหน้าเชิดหัวขึ้นส่งแท่งกายให้ค่อยหายเข้าไปในถ้ำของนางอย่างช้าๆ

"อู้วววววว ของเจ้ามันทั้งคับและแน่ไม่ส่างคลายเลย อืมมมม"

"อะ อืมมมมม ทะ ซีดดดด ท่านเกรน หะ หละก็ อ๊าาาาาาา ไม่น้า.... อี๊ออออออออออ" นางกล่างยังไม่ทันไรเขาก็กระทู้งแท่นกายอีกคลึ่งรำเข้าถ้ำนางจนมิดส่งผลให้นางเสียวจนเสร็จไปหนึ่งทีหลังจากโดยเล่าโลมมานาน

"อู้ววววว เจ้าอย่าตอดแรงเดี๋ยวข้าก็เสร็จหลอก อาาาา"

"ท่านเกรน ก็ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ มันตอดเองตั้งหาก อาาาา"

เกรนหลังจากหยุดให้นางได้พักนิดหนึ่งก็เริ่มสาวแท่นกายเข้าออกอย่างช้าๆ สองมือยังคงทำงานของมันต่อไป หนึ่งมือเลื่อนไปเคล้นอกและยอดถัด อีกมือเลื่อนไปลูบไล่หน้าข้าง โครนขา เอวบาง หน้าท้องแบนราบวนไปมา จุดไฟอารมณ์ให้แก่นางขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

"อู้วววว ซีดดดด อะ อาาาาาา"

ไม่นานจะการสาวเข้าออกอย่างช้าๆก็เปลี่ยนมาเร็วขึ้นทีละนิดจนตอนนี้หน้าอกของมิเรนกระเพิมตามจังหวะการกระแทกของเกรน มิเรนเริ่มรู้สึกวาบๆร้อนในกายอีกครั้งสองมือที่ยังโต๊ะขยับย้ายไปตามอารมณ์นาง มือหนึ่งไปจับกับมือที่เคล้นอกอวบนาง อีกข้างไปเกาะคอชายหนุ่มไปตอนนี้แนบกายซากไซ้หลังคอและใบหูนางไปอยู่

"อะ อะ อาาาา ทะ ท่าน เกรน ขะ ข้า จะไม่ ไหว ละ แล้ว อะ อาาาาา ซีดดดดดด"

"ฮืม ฮืม ขะ ข้าก็ใกล้หละ ฮะ ฮืม อู้วววว"

เมื่อได้ยินดังนั้นเกรนจึงถอยมือทั้งสองของเขาไปจับเอวบางนางแน่นแล้วเร่งกระแทกจากทางด้านหลังเร็วขึ้น จนตอนนี้ตัวมิเรนสั่นไหวตามการกระแทกของเขาสองมือปล่อยจากการเกาะกุมชายหนุ่มมาซุกเกาะโต๊ะแน่ร้องครางอย่างสุขสุดตลอดเวลา

"อะ อะ อาาาาา ทะ เกรน อะ โอ้วววววว อู้ยยยยยยยย ซีดดดดดดด แรงอีก อะ ซีดดดดดดด" ตับๆตับๆ

"ฮะ ฮะ ฮืมมมมม ฮะ ฮะ อู้ววววว" ตับๆตับๆ

"ซีดดดดด อูยยยยยย ขะ ข้า อะ อาาาาาาาาาาาา ไม่ อะ อ๊ายยยยยยยยยยยยย" ตับๆตับๆ ตับๆตับๆ

"โอ้ววววววววว มิเรนนนนน" เมื่อปลายทางมาถึงทั้งสองต่างร้องออกมา

เกรนกระแทกซ้ำครั้งสุดท้ายแล้วลงไปแนบกายโอบกอดนางจากด้านหลังกรัตุดตัวปล่อยน้ำพุ่งเขาไปยังถ้ำมากมายจนนองไหลออกมาระหว่างขานาง ส่วนนางที่ไปถึงก่อนเกรนไม่กี่วินาทีนั้นตอนนี้ทั้งเกร็งจากการถึงสวรรค์และเสียววูบวาบการน้ำที่เกรนหลั่งออกมามากมายในท้องของนาง สองมือนั้นจีกขอบโต๊ะแนน สองขาเกร็งกระตุกตามจังหวะของน้ำที่ไหล่เขามาในตัวนาง

ไม่นานอาการทั้งสองก็คลายลง เกรนจึงดึงตัวนางมากอดจากด้านหลังแล้วหมุนตัวไปนอนราบยาวลงบนโวฟายาวด้านข้างโต๊ะปล่อยให้นางนอนหันหน้าไปทางนอกโซฟให้หลังพิงอกเขาแล้วเลื่อนมือไปโอบนางเอาไว้ไม่ให้ห่าง มิเรนก็ตามใจเกรนนอนแนบพิงอกเขาแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการรับศึกครั้งนี้ ในอ้อมแขนของเกรน

...


กึก กัก มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆหลังจากทั้งสองเสร็จกิจกันแล้ว เสียงนั้นดังมาจากด้านในตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกด้านของโซฟาที่เกรนนอนกอดกับมิเรนอยู่

"นี่เบญจมาศข้าเปิดตาได้หรือยัง" เสียงหญิงสาวกล่าวออกมา

"อือ นะ น่า จะได้แล้วนะคะ" เสียงสาวใช้กล่าวออกมา

"เจ้าก็ทำไมต้องให้ข้าปิดตาด้วยหละ แล้วนี้เมื่อไหร่จะได้ออกไปซักที ข้าอยากกลับไปนอนแล้วนะ"

เป็นสองสาวนนั้นเองที่มาแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า เพื่อหวังเล่นให้มิเรนตกใจ แต่พอจะออกไปก็พบว่าเกรนนั้นเข้าไปนัวเนียกับมิเรนซะแล้ว จะออกไปก็กะไรอยู่เลยต้องจำใจแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าต่อไปจนหนังสดจะจบลง ซึ่งสาวใช้ได้ยกมืข้างหนึ่งขึ้นมาปิดตาคุณหนูของตนเอาไว้


"คะ รออีกสักครู่ให้แน่ใจว่าสองตนนั้นหลับไปแล้วจริงๆนะคะ" สาวใช้ที่ตอนนี้แอยมองออกไปข้างนอกประเมณสถานการณ์อย่างเงียบๆ

"เฮ่ย กระจะมาแอบทำให้ตกใจสักหน่อย ไหงกลายมาเป็นฝ่ายตกใจเอวหละเนี่ย แถมต้องมาอยู่ในตู้แคบๆอีก"

"แต่คุณหนูเป็นคนต้นคิดนะคะ"

"อะ เออ เออ ชั่งเถอะ" นาริสาบอกปัดๆไปเพราะตอนนี้อยากกับห้องของตนมากแล้ว

"เอาเป็นว่าเราน่าจะออกไปได้แล้วนะคะ ข้าว่าทั้งสองคนน่าจะหลับไปแล้วจริงๆ" สาวใช้จึงเปิดตู้เสื้อผ้าเบาๆแล้วจูงมือคุณหนูของตนแอบย่องออกไปจากห้องของเกรน


วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 13 - ช่วยเหลือ

เมื่อทั้งสองเข้าใกล้จุดต่อสู้มากขึ้น

มิเรนหยุดห่างออกไปจากจะต่อสู้ไม่ไกลมาหลบหลับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมตั้งท่าร่ายมนต์ขนาดใหญ่เพราะต้องให้คงอยู่นานกว่าปกติเพื่อเป็นการก่อกวนและตัดกำลังออกเป็นสองส่วน ส่วนเกรนยังวิ่งพุ่งไปด้านหน้าสู้สมรภูมิด้วยความเร็วที่มากขึ้น

เขาเดินกำลังภายในวนลงขาผ่านเส้นจิงจิน จิงเป๋ และเป๋ลั่ว เพิ่มกำลังขาให้มากขึ้นทำให้เค้าสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นจากเดิมมาก พอกะชั่นชิดก็ร่ายเวทสายลมส่งตัวเขาไปลอยข้ามกลุ่มที่ล้อมวง ลงไปยังกลางกลุ่มตั้งรับอย่างนิ่มนวล สร้างความตกใจแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างมาก ต่างก็ถอยแยกเข้าไปรวมกลุ่มของตนก่อน

"ช้าก่อน!!! ข้าจะมาช่วยพวกท่าน" เกรนเมื่อลงมาได้ก็ยืนขึ้นหันหน้าไปกล่าวกับกลุ่มที่ตั้งรับทันที่

"เห๋ เจ้าเป็นใคร มาจากไหนกัน" ชายวัยกลางคนร่างไม่ใหญ่มาผิวคลำนิดๆคนหนึ่งเดินออกมาอยู่ด้านหน้าพร้อมกล่าวกับเกรน

"ข้ามีชื่อว่า เกรนมอร์ กาโนส เรียกข้าว่า เกรน ก็ได้ ข้าเดิทางฝ่านมาแล้วได้ยินเรื่องของพวกท่าน ข้าเห็นว่าสมควรช่วยเหลือจึงยืมมือเข้ามา"

"ข้ามีนามว่า สมชาย หวังหมาย เป็นหัวหน้าคุ้มกันกลุ่มนี้" ชายวัยกลางคนตอบ

"เฮ่ๆ ท่านสมชาย ข้าว่าเจ้าหมอนี้ไม่น่าวางใจเลย อยู่ก็โผ่เข้ามาแบบนี้ มันอาจเป็นนกต่อของเจ้าพวกนั้นก็ได้นะ" ทหารคนหนึ่งด้านหลังออกความเห็น

"ถ้าท่านจะสงสัยข้าก็ไม่แปลก แล้วข้าก็ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันด้วย ข้าเพียงแต่ต้องการช่วยคนดีที่กำลังเดือดร้อนเท่านั้น" เกรนเอ่ยขึ้น


สมชายและเกรนต่างมองตากันอยู่พักหนึ่งบรรยายกาศรอบด้านยิ่งตึงเคลียดมากขึ้น

"ท่านนักเดินทางข้าว่าเรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสกว่าที่ท่านคิด ขอให้ท่านคิดดีก่อน" ในที่สุดสมชายก็เอ่ยออกมา

"ดีท่านไม่ต้องห่วงข้าหลอก" เกรนกล่าวพรางหันหลังไปอีกด้าน

"ทะ ท่านสมชายจะดีแล้วหรือครับ ข้าว่า..."

"พอเถิด ข้าเชื่อในสายตาตนเอง ข้าเห็นความจริงใจในสายตาหมอนี้ เหมือนที่ข้าเห็นในตังพวกเจ้า"  สมชายกล่าวตัดลูกน้อง

"ข้าขอจัดการพวกด้านนี้เองพวกท่านไปจัดการ3ด้านที่เหลือเถอะ" เกรนกล่าวออกมาอย่างมั่นใจหลังจากที่หันไปมองกลุ่มคนด้านหลังแล้ว

"หืม เจ้าว่าจะจัดการด้านนั้นเองคนเดียวหรือ" สมชายสงสัย

"อ๋อ ข้ามีคนซุ่มช่วยอยู่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ"

"งั้นหรือเจ้ามั่นใจนะ"

"555 ข้ามั่นใจว่าจะไม่มีคนไหนผ่านข้าไปยังรถม้าที่ท่านคุ้มกันได้เลย ด้วยชีวิตข้า" เกรนเอ่ยยืนยันคำพูดของตน

"หึหึ ข้าจะเชื่อเจอสหายหน้าใหม่" สมชายกล่าวแล้วหันไปส่งสัญญาณแก่ลูกน้องของตน ซึ่งด้านลูกน้องนั้นยังลังเลกับการตัดสินใจของหัวหน้าที่อยู่ก็ย้ายกำลังด้านหนึ่งทั้งหมดไปรวมกับด้านที่เหลือ จนสมชายต้องกะคอกไปจึงเริ่มตัดใจได้แต่เชื่อมั่นในหัวหน้าของตนแล้วปฏิบัติตามแยกย้ายกำลังไปสมทบด้านอื่นๆ

"เอาหละ ทางโล่งจะได้ไม่ต้องห่วงใครโดนลูกหลงหละ" เกรนหันมองฝ่ายที่ล้อมพรางบ่นเบาๆ

เหมือนด้านที่ล้อมจะงงเช่นกันที่อยู่อีกฝ่ายดันย้ายกำลังพลไปรับด้านอื่นๆ เหลือเอาไว้แต่ชายผู้มาใหม่เพียงคนเดียว

"555 เจ้านั้นนะ บ้าหรือเปล่าวะ" ทหารฝ่ายที่ล้อมคนหนึ่งกล่าว

"นั้นสิ คิดว่าคนเดี่ยวจะสามารถต่อสู้กับพวกข้านับ100คนได้หรือ 555" อีกเสริม

"555 555 555 555" ทั้งหมดร่วมหัวเราะเสริมเข้าไปอีก

"ข้าว่าเจ้าน่าจะถอนตัวไปดีกว่าข้าให้โอกาศพวกเจ้าสักครา" เกรนที่ยังนิ่งกล่าวออกมา

"555 โอ้ว ข้ากลัวจนหัวหดเลยวะ 555" ทหารฝ่ายที่ล้อมคนหนึ่งกล่าว

"งั้นเตรียมรับมือ" เกรนกล่าวพรางตั้งท่าสู้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่านจะประมาทจึงยังคงยืนหัวเราะต่อ เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงเดินกำลังภายในแล้วพุ่งออกไปหน้าทหารฝ่ายที่ล้อมคนที่กล่าวเป็นคนแรก

ฉึก!!! ผืบ!!!

พลิบตาทหารคนนั้น ล้มตัวลงนอนแน่นิ่งไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ตั้งท่าเลยด้วยซ้ำ

"วะ เฮ่ย พวกเราฆ่ามัน" จากนั้นพวกที่เหลือส่วนหนึ่งก็เข้าล้อมเกรน อีกส่วนหนึ่งกำลังจะวิ่งไปที่รถม้า แต่ก็เกิดลมพายุพัดแรงมาเข้ามาล้อมพวกทหารส่วนหลังเอาไว้ทำให้กำลังโดนแบ่งออกเป็นสองทันที ซึ่งส่งผลให้ผู้คนด้านนอกมองไม่เห็นข้างในได้ชัด เมื่อเป็นเช่นนั้นทหารที่เหลือจึงแบ่งกำลังออกไปหมายจัดการกับรถม้าแต่ก็ไม่สามารถไปได้ เพราะตอนนี้เกรนได้วิ่งวนมองเห็นเป็นสายลมดำไล่เชือดแทงทหารไปที่ละคนสองจนทหารที่เหลือต้องหันหลังชนกันเอาตัวรอดจากเทศกาลสังหาญฝ่านเดียวของเกรน

"ว้าว มันเป็นปิศาจแน่ๆ"

"พระเจ้าช่วยลูกด้วย"

"5 5 5 5 5 5 เข้ามาเลยๆ ข้าไม่กลัวแกหลอก 5 5 5 5 5 "

พวกทหารจนมุมบ้างก็สวด บ้างก็ขอพระเจ้า บ้างก็สติแตก ปนกับเสียงร้องสุดท้ายของชีวิตของพวกพ้องที่ไปทีละคนๆ จนกลายมาเป็นเสียงเงียบในไม่กี่นาที เมื่อลมพายุสงบลงพวกทหารที่เหลือในพายุต่างต้องตะลึงกับภาพเบื้องหน้า

เหล่าพวกพ้องที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีได้ยืนล้อมชายหนุ่มตรงหน้า ตอนนี้ได้กลายสภาพมานอนสิ้นใจบนพื้นบนตัวแต่ละคนมีแผล1-2แผลเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะโดนแทงที่หัวใจตาย ที่เหลือโดนเชือดคอเลือกไหลนองพื้นไปหมด เหลือเพียวชายหนุ่มที่ยังยืนโด่อยู่คนเดียว

"บะ บ้า ไปแล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้น" ทหารคนหนึ่งกล่าว

"เอา ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าหละ เข้ามาเลย" เกรนเอ่ยขึ้น

"ขะ ข้า ไม่เอาแล้ว ว้าก" ทหารคนหนึ่งคุมสติไม่ไหวจึงวิ่งหนีออกจากกลุ่มไป

"อะ เออ ข้าด้วย ข้าไม่อยู่แล้ว ว้ากกกกก" แล้วก็ตามด้สนคนต่อๆไปจนทั้งหมดหนีหายไป ทำให้ด้านทิศที่เกรนรับปากว่าจะจัดการว่างขึ้นทันตา

ด้านมิเรนเมื่อเห็นว่าทหารที่ต่อสู้กับเกรนหนีไปหมดแล้วจึงวิ้งออกจากต้นไม้ไปหาเกรนทันที

"ท่านเกรนคะ เป็นไงบ้างไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนนะคะ"

"อืม ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยสนับสนุนอย่างดี ข้าเลยไม่ได้บาดเจ็บอะไร" ข้ากล่าวแล้วส่งมือไปลูบแก้มนางเบาๆ

"คะย่อมช่วยท่านอยู่แล้วไม่เห็นต้องขอบคุณกันเลย" นางกล่าว แล้วยืนรับความรู้สึกอบอุ่นจากสัมผัสของเขาแล้วยิ่มหวานสงกลับไปให้เกรน

"เอา หละเราไปช่วยด้านที่เหลือกัน" เขายิ่มกลับแล้วลดมือลง กล่าวกับมิเรนแล้วหันหลังไปเพื่อจะไปช่วยรับมือด้านที่เหลือ

"เอ๊ะ" แต่เขาก็พบว่าตอนนี้เหลือแต่กองกำลังของสมชายเท่านั้นที่ล้อมรถม้าเป็นรูปตัวยูอยู่ ซึ่งทั้งหมดต่างหันมามองที่เกรนทั้งสิ้น ไม่นานสมชายที่รู้สึกตัวก่อนจึงเดินออกมาจากกลุ่มแล้วคุยกับเกรน

"ข้าต้องขอบคุณท่านมาก ที่ช่วยเราในคราวนี้" สมชายยกมือขึ้นผสนกันคราวะเกรน เขาจำต้องรีบคราวะกับไปอย่างงงๆ

"พวกท่านก็เก่งนะ ไล่ไปได้รวดเร็วขนาดนี้" เกรนกล่าว

"มิใช่เลย ที่พวกนั้นถอยไปเพราะได้เห็รฝีมือของท่านตังหาก" สมชายเอ่ย

"หา ข้าแค่จักการไป50กว่าคนเองนะ พวกนั้นทำไมใจเสอะกันจัง" เกรนยังคงสงสัยอยู่

"ฮิฮิ ท่านหละก็ยังไม่รู้ตัวอีกหรือคะ" มิเรนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี

"ท่างคงไม่ได้มองมาทางพวกข้าสินะ ทันที่มีเกิดลมพายุตัดกำลังกลุ่มหลัง ทั้งพวกข้าและพวกฝ่ายนั้น ต่างหยุดการต่อสู้ถอยมาแนวหลัง แล้วมองหาคนที่สร้างพายุกัน แต่ก็ไม่พบ เห็นแต่สายลมสีดำวูบไปมารอบๆพวกทหารทุกครั้งที่ผ่านใครจะมีคนลงไปนอนบ้างก็นอนนิ่ง บ้างก็นอนลงไปมีเลือกพุ่งจากคอ จนพวกนั้นหมดแล้วถึงเห็นท่านยืนนิ่งอยู่กลางศพพวกนั้น แค่นั้นหละทั้งพวกมันทุกก็ด้านวิ่งแตกกระจายไปหมด 555" สมชายเล่ายาว

"ข้าว่าพวกนี้คงกระจอกจริงๆ แค่นี้ก็วิ่งแล้วไม่มีเลือดนักรบเลย" เกรนกล่าว

"555 ท่านจะว่าไงก็ได้ เพราะเดิมทีพวกนั้นแค่ทหารชั้นเลวที่รับเงินมาแล้วก็ถึงอาวุธอาศัยพวกมากก็เท่านั้น" สมชายเอ่ย

"เอาหละหมดเรื่องแล้วเห็นทีข้าต้องขอตัวเดินทางต่อหละ" เกรนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้วจึงกล่าวลา

"ช้าก่อน ข้ายังไม่ได้ตอบแทนท่านเลย" สมชายกล่าวตัดออกมา

"แต่ข้าไม่หวังผลตอบแทนอะไรนะ ข้าช่วยเพราะเห็นว่าสมควรเท่านั้น ข..." เกรนตอบ

"ท่านไม่ร่วมเดินทางไปกับพวกข้าหรือ" เสียงหวานหนึ่งกล่าวตัดก่อนที่เกรนจะกล่าวอะไรอีก

เกรนหันไปมองพบว่าเป็นหญิงสาวสวมชุดหญิงรับใช้สีดำแขนเสื้อจีบสั้นเสมอศอก กระโปนงยาวบานถึงข้อเท้ามีโบด้านหลัง นางมีใบหน้าสวยคิ้วบางรีมฝีปากอิ่มอวบสองแก้มนวนตามสีกายเหลืออมผึงของนาง ไว้ผมยาวซอยปะบ่าเท่านั้น ถึงนางจะไม่สวยเท่ามิเรนแต่จัดว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง นางเดินลงจากรถม้ามาหาเกรน

"ขอต้อขอบคุณพวกท่านมากจริงๆ และขอกล่าวว่า ยินดีที่รู้จักข้าขื่อว่า เบญจมาศ เป็นสาวใช้ของคุณหนูนาริสาที่ท่านได้ช่วยเอาไว้คะ" นางกล่าวขอบคุณแล้วแนะนำตนเอง

"อะ เออ ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ เรียกข้าว่า เกรน ก็ได้ส่วนนี้ มิเรน พวกเรากำลังเดินลงใต้นะ" เกรนกล่าวรับพร้อมแนะนำตัวมิเรน

"ยินดีที่รู้จักคะ" มิเรนกล่าวทัก

"ข้าก็เช่นกัน" เบญจมาศทักตอบ

"เกรนข้าว่าเจ้าเดินทางไปพร้อมพวกข้าก็ดีนะ ไหนๆเจ้าก็ช่วยพวกข้าแล้วให้พวกข้าตอบแทนอะไรบ้าง อีกอย่างเจ้าไปมีเรื่องกับพวกนั้น ไม่นานคงโดนตามล่าจากพวกนักล่าแน่ๆ เจ้าไปกับเราน่าจะปลอกภัยกล่าวนะ จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตากันได้" สมชายว่า

เกรนหันไม่มองมิเรนเพื่อขอความเห็น แต่พบว่านางกำลังเดินคู่กับสาวใช้ไปนั่งคุยกันบนก้อนหินใกล้ๆนั้นเอง เขาจึงหันกลับไปยังสมชายแล้วยักไหล่ยิ้มเจือๆ

"คงต้องรบกวนพวกท่านแล้วหละ เหอๆ"

"555 เยี่ยมงั้นเดี๋ยวข้าพาไปแนะนำตัวกับพักพวกที่เหลือกัน ปล่อยให้แม่นางมิเรนคุยกับเบญจมาศไปเถอะ ผู้หญิงนี้มีเรื่องคุยกันได้แยะ 555" สมชายกล่างพรางเอามือโอบไหล่เกรนแล้วพาเดินตรงไปยังกลุ่มพวกเค้าที่อยู่รอบเพื่อแนะนำเกรนที่จะเดินทางไปกับพวกเค้าด้วยกัน

เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานการแนะนำตัวก็เสร็จ สมชายเห็นพวกเค้าได้พักกันพอแล้วจึงสั่งกำลังพลเริ่มเดินทางกันต่อ โดนมีเกรนเดินข้างเค้าไปด้วย ส่วนมิเรนขออนุญาติเกรนเข้าไปนั่งคุยกับเบญจมาศภายในรถม้า ซึ่งเกรนก็ไม่ติดขัดอะไร

"เออ ท่านสมชาย คุณหนูของพวกท่านนี้เป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะ มิเรนพึ่งเข้าไปในรถม้าได้ไม่นานก็มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวออกมากันหละ"

"555 คุณหนูท่านก็เป็นคนแบบนี้หละ พวกเราถึงให้ความรักเคารพไง"

"นางเป็นคนเช่นไรหรือ ท่านพอบอกได้มั้ย" เกรนถามต่อ

"เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างมุมมองนะ แต่สำหรับพวกข้าคุณหนูนั้นสุดยอด ถึงยังเด็กอยู่แต่เป็นคนมีน้ำใจ สนุกสนาน ถึงจะชอบเอาแต่ใจบางครั้งก็เถอะ แต่คุณหนูก็มีความรับผิดชอบสูงและฉลาดด้วย"

"หรือที่กล่าวมานี้ ไม่ทราบว่าคุณหนูพวกท่านอายุเท่าไหรหละ ท่านถึงเห็นว่าเด็กนะ"

"คุณหนูเราอายุพึ่งได้ 12ปี อย่างเข้า 13ปี เองแต่นางฉลาดมาก พวกข้าเคยเล่นหมกขุนกับคุณหนูแต่ไม่มีใครสามารถชนะคุณหนูได้เลย 555"

"หู้... อะไรจะขนาดนั้น"

"ข้ากล่าวจริงๆ ไม่ได้ปดแม้แต่น้อย ท่านลองขอแข่งหมกขุนกับคุณหนูดูสิ ข้าจะช่วยยุให้ หึหึ"

"เออ เหมือนท่านจะมีเล่นัยแอบแฝงเลย ที่ให้ข้าไปแข่งกับคุณหนูของท่านเนี่ย" เกรนกล่าวพร้อมหรีตาจัดผิด

"เฮ่ย ไม่มีอะไรในก่อไผ่เลย ขะ ข้าแค่อยากเห็นคนชนะคุณหนูบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่มีเล่นัยแอบแฝงเลยจริงจริ๊งงงง..." สมชายตอบแบบติดขัดเล็กน้อย

"เอา เถอะข้าก็ไม่คิดอะไรมากหลอก ว่าแต่นี้ข้างหน้าก็เป็นเขตหมู่บ้านหลังกำแพงชั้นนอกแล้ว ข้าหวังว่าจะมีห้องว่างเหลืออยู่นะ กว่าจะมาถึงเล่นซะเย็นเลย"

"อ๋อ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงพวกข้าส่งนกด่วนไปยังโรงพักผ่อนประจำที่พวกข้าใช้ ให้จ้องห้องเพิ่มให้พวกท่านแล้ว"

"โอ้ว.. ขอบคุณท่านมากเลย"

"ไม่เป็นไรนะ คนกันเอง 555"

ไม่นานทั้งคณะก็เดินทางมาถึงเขตหมู่บ้าน 'เชาวาเรีย' ที่อยู่ติดกับกำแพงกันดินแดนกลางใต้เอาไว้