วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 9 - สุดยอดวิชาท่าแรก

ในห้องพักในโรงพักผ่อนแแห่งหนึ่ง

มีสาวนางหนึ่งนอนคุดคู้อยู่บนเตียงนุ่ม หายใจเข้าออกติดๆขัดๆ บิดขาไปมา สองมือกอดอกแน่ หญิงสาวที่หลังจากพยายามข่มตาหลับแต่ก็ไม่สำเร็จมีภาพชายแปลกหน้าคนหนึ่งติดอยู่ทุกลมหาย พอยิ่งนานกลับเริ่มรู้กระสับกระส่ายกายจนไม่สามารถข่มตาหลับได้

"แฮก แฮก แฮก นี้ข้าเป็นอะไรเนี่ย"

นางเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณรอบอกและยอดปทุมถัดของนาง จนนางทดไม่ไหว จึงเลื่อนมือของนางขยับไปสัมผัสนวดคลึงเบาอกและบีบยอดถัดของนางเบา ทั้งทีที่มือนางสัมผัสไปยังยอดถัดที่ตอนนี้แข็งขึ้นมาต่อสู้กับการสัมผัสของนาง กระแสควมร้อนในอกกับแผ่ขยายลงวูบร้อนผ่านหน้าท้องแบนราบลงไปยังติ่งเสียงของนางจนมันแข็งเป็นไตขึ้นมา สร้างความเสียวต่อนางยิ่งนัก

"อืม... อาาาาาา... ทำไมข้าถึงรู้สึกแบบนี้กัยชายคนนั้นได้หละ อื๊อออออ..."

นางเลื่อนมืออีกข้าลงไปบีบติ่งเสียวของนางพร้อมทั้งส่งนิ้งกลางแหย่เข้าไปในถ้ำเข้าๆออกๆเพื่อระบายความเสียวที่เกิดขึ้น อีกมือหนึ่งก็ยังคงเคล้นคลึงยอดถัดของตนอย่างไม่ลดละ ตัวนางเริ่มบิดไปมาบนเตียงจนผ้ารองเตียงยับไปหมด

"ซีดดดดด.... อาาาา..... "

ในหัวนางตอนนี้จิตนารการถึงชายหนุ่มกำลังร่วมรักกับนาง แท่งกายของเข้าเข้าออกนางอยู่ตลอดเวลา

"อาาาาา.... ฮ่าาาาาาา..... ซีดดดดด..... โอ้วววว...."

ไม่นานจังหวะการเคล้นคลึงอกเริ่มเปลี่ยนมาเป็นหนักหน่วงขึ้น ส่วนด้านล่างนั้นได้เปลี่ยนมาเป็นนิ้วโบ้งนิ้วเดียวที่คลึงติ่งเสียวโดยส่งนิ้วชี้และนางเข้าไปชอนไชเข้าออกถ้ำของนางอย่างรวดเร็ว แจ๊ะๆๆ น้ำจากถ้ำนางตอนนี้ไหลออกมาจนแปะเตียงนอนไปหมดจากการบิดและแอนกายของนาง

"ซีดดดด..... อาาาาา.....ขะ ข้า เสียวเหลือเกิน.... อาาาา......"

ในหัวของนางตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มเร่งความเร็วในการกระแทกเพิ่มขึ้นเพื่อให้ถึงจุดหมายให้ได้ นางยิ่งเร่งมือให้เร็วขี้น แจ๊ะๆๆ

"อืมมมมม... อ๊าาาาาาา.... จะถึงแล้ว อะ อะ อ๊ะ จะถึงแล้ววววววว....."

"อะ อ้าาาาาา.... อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย..." ไม่นานนางก็ร้องขึ้นมาสุดเสียงพร้อมทั้งเกร็งทั้งกายจนก้นลอยเหยียดขาออก ทั้งสองข้างมือเกร็งบดเสียดทั้งยอดถัดและติ่งจนแน่น ภายในถ้ำตอดรัดขมิบนิ้งของนางอย่างรุนแรง

"ฮะ ฮะ อาาาา...." เมื่อความเสียวผ่านไปนางก็เริ่มผ่อนคลายแล้วหลับไปอย่างสุขสม

..
..
..

กลับมายังทางด้านเกรนหลังจากที่ได้แยกทางกับนางเขาไปกลับไปนั่งกินชาชมวิวตามกำหนดการเดิม จนเวลาผ่านไปมิเรนก็ลอยกับมาหาเขา แล้วทั้งสองก็เดินทางกลับบ้านไปพักผ่อนระหว่างทางนางได็เล่าพูกคุยถึงสิ่งต่างที่ได้เห็น มีซักถามในบางสิ่งที่ไม่เข้าใจบาง ซึ่งทำให้การเดินทางกลับของเขานั้น ไม่เงียบเหงาเหมือนเมื่อก่อนที่อยู่คนเดียวอีกต่อไป

"ท่านเกรนคะ ถ้าเราออกเดินทางไปแล้วท่านจะไปที่ไหนก่อนคะ"

"ข้าว่าข้าจะเริ่มจากทางใต้นะ"

"งั้นหรือคะ เราคงได้แวะหมู่บ้านต่างตามทางด้วยใช่มั้ยคะ"

"ก็คงต้องแวะพักหละ เพราะต้องหาข้อมูลบางอย่าง หรือแลกเปลี่ยนซื้อขายของเพื่อการเดินทางบ้างอะนะ"

"ดีเลย ข้าก็มีของที่อยากเห็นตามหมู่บ้านต่างๆด้วย เยอะแยะไปหมดเลยคะ"

ไม่นานทั้งสองก็กลับมาถึงบ้านของเขา เกรนจึงขอตัวเข้าจัดการธุระยามเย็น แล้วมานั่งพิจาราณร่างกายกับทดสอบเดินพลังของเขาว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ แต่เขาก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดไปจากก่อนเดิมเลย ทั้งเขาและมิเรนจึงลงมติว่า ควรเข้านอนก่อนในคืนนี้ โดยหวังลึกๆว่ายาที่กินเข้าไปนั้นจะได้ผลในวันรุ่งขึ้นแทน

..
..
..

เกรนรู้สึกตัวอีกครั้้งก็พบว่าเขาได้มาอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่รอบๆเป็นสีขาว ตรงหน้ามีชายที่ดูเหมือนวัยกลางคนนั่งบนพื้นใต้ต้นไม้อ่านหนังสืออยู่ เขาเดินตรงไปยังชายคนนั้น

"ยินดีที่ได้พอท่านอีกครั้บครับ ท่านฮาเดส"

"555 ในที่สุดเจ้าก็ได้กินยาตามที่ข้าบอกไปแล้วสินะ ถึงมาโผ่ที่นี้อีกครั้ง" ฮาเดสวางหนังสือลงข้างกายแล้วหันมามองเกรนที่กำลังเดินเข้ามา

"ตอนที่กินยาเข้าไปข้ากับมิเรนก็ยังกังวลว่ามันจะได้ผลมั้ย เพราะที่ข้าลองเดินพลังดูไม่พบอะไรที่แปลกไปจากเดิมเลย"

"555 นั่งก่อนสิ" เขาตบมือบนพื้นด้านข้างสื่อว่าให้มานั่งข้างนี้

"ครับ" เกรนรับคำพร้อมนั่งลงด้านข้างฮาเดส

"ที่เจ้าไม่รู้สึกอะไรเพราะเจ้าผ่านขั้นแรกไปแล้ว ซึ่งพลังของเจ้าที่เพิ่มขึ้นจากการกินยานั้นตอนนี้จะส่งผลต่อพลังแฝงของวิชาตังหากหละ นี้หละของจริง"

"หือ... ท่านหมายความว่าไงหรือ"

"ที่คราวที่แล้วที่เจอกันเจ้าได้ผ่านขั้นแรกมาแล้วซึ่งเป็นแค่การเตรียมพร้อมร่างกายของเจ้าเท่านั้น เจ้าจึงสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างง่ายดาย ทั้งร่างกายที่แข็งแรงขึ้นแบบพวกเทพ ความสามารถในการเดินพลังเหมือนเหลานักสู้ระดับสูง ความสามารถในการรักษาร่างกายอย่างรวดเร็วแบบเผาปีศาจ นั้นเป็นแค่ส่วนประกอบของตัววิชาเท่านั้น หาได้เป็นเคล็ดของวิชาที่ข้าได้ส่งมอบให้เจ้าไม่"

"เอ๋? นั้นเป็นแค่ส่วนประกอบเองหรือ แล้วตัววิชาจริงๆมันคืออะไรหละท่าน"

"555 มันเป็นสุดยอดวิชาชายที่ทุกคนใฝ่ฝันเลยหละ 555"

"หืม... ชายทุกคนใฝ่ฝัน นั้นหมายความว่ามีเพียงเพศชายเท่านั้นสินะครับ ที่จะสามารถฝึกได้"

"อือ... ความจริงหญิงก็ฝึกได้นะ แต่ฝ่ายนั้นไม่ค่อยสนใจหลอก มีเพียวพวกเพศชายนี้หละที่พยายามคิดค้นกันแบบเอาเป็นเอาตายมาหลายสมัยแล้วจนมาสำเร็จที่ข้าผู้นี้ 555"

"อืม...ข้าชักสงสัยแล้วสิว่ามันเป็นวิชาอะไร ถึงหญิงไม่สน แต่ชายกับพยายามขนาดนั้น"

"วิชานี้คือ 5สัมผัสอัตราย ถึงชื่อจะดูไม่หวือหวาเพราะตั้งตามความสามารถของวิชา แต่มันก็ถือว่าเป็นสุดยอดวิชาจากอดีตเลยนะ เพียงในแบบของข้าที่ปรับปรุ่งเพิ่มเตรียมเข้าไปในส่วนที่วิชานี้ขาดหายไปจึงทำให้วิชากายมาเป็นสุดยอดวิชาได้ข้าเลยให้ชื่อใหม่ว่า 8สัมผัสอัตราย แทน"

"อา ครับ แล้วมันเป็นไงหละ ท่านลองกล่าวคราวๆให้ข้าเข้าใจหน่อยจะได้มั้ย" (ไหง...เปลี่ยนแค่ตัวเลขเองหละ มันจะเรียกว่าปรับปรุ่งมั้ยเนี่ย =.=")

"555 เจ้าตั้งใจฟังซะ 8สัมผัสอัตราย มีขั้นของวิชาตามนี้ 1.ตาสังหาร 2.ปากสังหาร 3.กายาสังหาร 4.นิ้วพิฆาต 5.แท่นสวรรค์ และอีก 3 ที่ข้าเพื่มเข้าไปเป็นส่วนลบจุดด้อยของวิชานี้ที่ไม่สามารถต่อสู้ได้คือ 1.จิตรวมศูนย์ 2.กายรวมศูนย์ 3.ปดปล่อยอนัตา"

"ครับ จากที่ข้าเข้าใจ 5ขั้นแรกนั้นไม่ได้มัไว้ต่อสู้สินะ มีแค่ 3ขั้นหลังเท่านั้น"

"555 ใช้แล้วเพราะ 5ขั้นแรกนั้นใช่สำหรับรวบรวมเพิ่มพลังแก่เจ้า เพื่อนำมาใช้ต่อสู้ด้วย 3ขั้นหลังไง"

"อืม... ดูมันยุ่งยากจัง วิชานี้ของท่าน" เกรนพอได้รู้คล่าวๆของวิชาที่ตนจะฝึกฝน ถึงกับหนักใจ เพราะมันต้องฝึกสำหรับการเพิ่มพูนพลังแล้วค่อยเอามาใช้อีกที ซึ่งถ้าเป็นวิชาทั้งไปเพียงหมั่นฝึกฝนก็จะได้ทั้ง2อย่างมาพร้อมๆกันแล้ว







"ข้าไม่เห็นจะยุ่งอยากอะไรเลยนี้ เรามาเริ่มฝึกกระบวนท่าแรกของรวมศูนย์กันดีกว่า เท่าทีข้ารู้สึกได้ เจ้าในตอนนี้มีพลังเพียงพอต่อการฝึกกระบวนท่าแรกได้แล้ว ซึ่งจะทำให้เจ้าสามารถสยบศัตรูได้นับสิบอย่างสบายๆ ส่วนการเพิ่มพูนพลังนั้นเดี๋ยวต่อบอกเจ้าภายหลังหละกัน"

"หือ.. จริงๆหรือครับ งั้นเรามัวชักช้าอยู่ใย ข้าพร้อมทุกเมื่ออยู่แล้ว" เมื่อได้ยินว่าตนสามารถฝึกยุทธได้แล้ว จึงปล่อบเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับการเพิ่มพูลพลังของตนไปก่อน เพราะเขาจะได้มีกระบวนท่าในการต่อสู้เป็นของตนบ้าง เนื่องจากที่แล้วๆมา เกรนนั้นไม่มีกระบวนท่าอะไรเลย เพียงแต่ใช่ความเร็วของตนและคอยมองหาจุดบดของคู่ต่อสู้เพื่อจัดการเท่านั้น ซึ่งท่าต่างก็เป็นท่วงท่าแบบพื้นฐานธรรมดา

ฮาเดสจึงเริ่มกล่าวถึงท่วงท่า,การเดินพลังและการออกท่าต่างๆ ให้แก่เกรนอย่างจริงจัง พร้อมทั้งร่ายรำอย่างช้าให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเกรนก็พยายามจดจำเอาไว้ให้ได้ทั่งหมด พบฮาเดสอธิบายจบขั้นหนึ่งก็ปล่อยให้เกรนลองปฏิบัติตามครั้งหนึ่งด้วยเพื่อให้เขาเข้าใจและซึมซับท่วงท่าไปได้ในตัว พอจบก็อธิบายในท่าต่อไป เป็นเช่นนี้จนครบทั้ง 3กระบวนท่าแรกของรวมศูนย์

"อืม... เจ้าทำได้ดีมาแล้วหละ เหลือเพียงหมั่นฝึกท่วงท่าให้ชินมากขึ้น และการเดินพลังต้องทำให้ไหลลื่นมากกว่านี้ เพราะถ้าตอนที่สู้กันจริงๆ การออกท่วงท่าที่ช้าไปวินาทีก็มีผลต่อชัยชนะได้แล้ว"

"แฮก แฮก แฮก ฮาาาาาา... ขะ ข้าเข้าใจแล้วครับ" ตอนนี้มีเพียงเกรนที่นอนแผ่ลงบนพื้นอย่างหมดแรง จากการฝึกฝนครั้งแรกที่ยางนานพอสมควร

"ต่อไปข้าจะบอกเรื่องการเพิ่มพูลพลังในแบบ5สัมผัสหละ"

"แฮก แฮก ช่วยรอสักนิดได้มั้ยครับ ข้าเหนื่อยจริงนะเนี่ย แฮก แฮก"

"ข้าเกรงว่าคงจะไม่ได้หละ จะถึงเวลาเช้าแล้ว เจ้าแค่ฟังก็พอแล้ว"

"แต่ว่า..."

"ไม่ต้องแต่ จงฟังข้ากล่าวดีๆ การเพิ่มพลูพลังนั้นเจ้าสามารถทำได้ง่ายเพราะร่างกายของเจ้าตอนนี้ โดนปรับเปลี่ยนไปจากการฝึกวิชายุทธของข้าแล้ว เพียงเจ้ามีสัมพันกับหญิงสาวบริสุทธร่างกายเจ้าก็จะสร้างปฏิสัมพันพลังระหว่างนางกับเจ้าจนเกิดเป็นพลังเพิ่มพูลให้แก่เจ้าเองซึ่งเจ้าจะสามารถรู้สึกได้เองในภายหลัง ส่วน5สัมผัสนั้นเป็นพลังแผ่งที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของร่ายกายเจ้าจากวิชานี้ เพื่อช่วยให้เจ้าสามารถมีสัมพันกับหญิงสาวได้ง่ายขึ้นนั้นเอง เริ่มแรกง่ายที่เจ้าสามารถใช่ไดเตอนนี้มี 2แบบคือ สายตาแห่งปราถนาที่เมื่อเดินพลังจิตส่งไปกับสายตาจริงใจของเจ้าให้นางนางจะรู้สึกวูบวาบได้อย่างง่ายดาย อีกหนึ่งเป็น แท่งของเจ้าเมื่อทำงานจะสร้างความรู้สึกดีๆให้แก่หญิงสาวมากกว่าปกติ"

"อาาาา.. หะ หา ทะ ท่านว่าไงนะ" เกรนเมื่อได้ฟังคำร่ายยางของฮาเดสถึงกับค้างลืมความเหนือยเป็นปิดทิ้ง

"หมดเวลาแล้ว ไว้เจอกันใหม่ เมื่อเจ้ามีพลังแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถศึกษาในขั้นที่ 2ได้ลาก่อน ไอ้หนุ่ม 5555555555" เช่นเดิมร่างของฮาเดสค่อยหายไปต่อหน้าเกรน รอบๆกายเริ่มมืดลงเลทื่อยๆจนมืดสนิท

"เดี๋ยวท่านฮาเดสสสสสสสสสส" เกรนร้องกระโกนออกมาพร้อมยืนมือออกไปหมายฉุดลั่งฮาเดส แต่ก็พบว่าตอนนี้เขานอนอยู่ในบ้านของตนแล้ว

"ปัดโถโว้ย ไอ้ข้างหลังมันเรื่องบ้าอะไรหละเนี่ย" เขากล่าวอย่างหัวเสีย กับข้อมูลที่ฮาเดสให้ไว้ก่อนจากกัน แม้ในใจนั้นตื่นเต้นดีใจเล็กแบบแปลกๆ พรางคิดในใจ

(ถ้าเป็นตามที่ฮาเดสกล่าวมานั้นหมายความว่าเราจะเก่งได้นั้นต้องสังเวยพรหมจรรย์ ของหญิงสาวสินะ มันชั่งเป็นวิชาที่น่าอดสูจริงๆใช่หญิงสาวมาเป็นเครื่องมือแบบนี้ อย่างงี้ข้าจะฝึกขั้นต่อไปได้ยังไงหละเนี่ย)

(คงต้องหยุดที่จะฝึกวิชานี้ไว้แค่ขั้นแรกเท่านั้น แล้วไปหาจากที่อื่นๆดูดีกว่า สุดท้ายก็ต้องไปเข้าพวกสำนักสินะ)

ในทวีปนี้เป็นที่รู้กันว่าถ้าจะเรียนรู้วิชาระดับสูงนั้นต้องเข้าสำนัก ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากมายเป็นของแถม ซึ่งคนจนๆแบบเกรนคงไม่มีปัญญาแน่นอน ดังนั้นผู้คนที่ยากจนมักจะอยู่ได้แค่งานระดับล่างๆ ไม่สามารถไตร่ขึ้นไประดับสูงได้เลย แต่ก็จะมีบางเพียงเล็กน้อยที่โชคดีได้รับอุปถัมภ์จนสามารถไตร่ไปจนมีฐานะได้

ในขณะที่เขากำลังกลุ่มใจอยู่นั้น ก็มีมือหนึ่งมาโอบกอดแผ่วเบาจากทางด้านหลัง

"ท่านเกรนกลุ่มใจอะไรหรือคะ"

"เอะ มิเรนเจ้าตื่นแล้วหรือ" เกรนตอบกับไปเหมือนปกติที่อยู่ด้วยกันมานาน

"ท่านโปรดบอกข้าเถอะ ข้าอยากจะช่วยแบ่งเบาความทุกข์ใจนั้นของท่าน" นางยื่นหน้าออกมาแนบแก้มของเขา

"อือ... ขอบใจเจ้ามากนะ แต่ เอะ.... นะ... นี้...กายเจ้า... !!!"

"หืม... เกิดอะไร ข้าทำไมหรือคะ !!!"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น