วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 11 - บังเอิญพบ

ในช่วงบ่ายๆ

หลังจากที่ทั้งสองได้นอนพักเหนื่อยจากการเริงรักกันแล้ว เกรนได้พามิเรนออกมา ณ.ที่ลานกว้างด้านทิศใต้ที่ซึงปกติจะไม่มีคนมากมายเท่าตลาด แต่วันนี้ที่เป็นวันพิเศษทุก15วันจะมีงานสวดมนต์ระลึกถึงคุณงามความดีของกษัตริย์องค์ก่อนของเมื่องแห่งนี้ที่บุกเบิกและปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุขกันมาหลายช่วงอายุคน น่วมถึงของพรต่อเจ้าตามความเชื่อของอาณาจักร ผู้คนจึงออกมาร่วมกันสวดมนต์กันอย่างแน่หน่าตา เขาพานางมาสวดมนต์ขอพรต่อพระเจ้าเช่นคนหลายๆคน

"ท่านเกรนท่านจะขออะไรหรือคะ"

"อือ... ข้าคงจะขอให้การเดินทางของข้ากับเจ้ามีแต่ความสนุกนะสิ"

"ว้า... ถ้าท่านขอแบบเดียวกับข้าเลย อย่างนั้นข้าขออย่างอื่นดีกว่า"

"อ้าว... ข้าอยากได้อะไรหรือ"

"อือ... ข้าไม่บอกดีกว่า อิอิ"

"อ้าว... ไงงั้นหละเนี่ย เจ้าเอาเปรี่ยบข้าไปมั้ยหละ"

"ไม่หลอกคะ เรื่องแบบนี้มครเขาจะบอกกันหละ ฮิฮิ"

"เฮ่อ... เจ้าหละน้า มาๆ เราไปต่อแถวเดินไปสักการะกัน แล้วจะได้ไปเดินเล่นที่สวนกันต่อ แถวนั้นมีเครปอร่อยๆด้วยนะ"

"จริงๆ หรือคะ งั้นเรารีบไปต่อแถวกันดีกว่า ข้างอยากกินเครปเร็วๆจัง คราวที่แล้วในตลาดได้กลิ่นหอมมากแต่กินไม่ได้คราวนี้หละ จะได้ชิมดูสักที" แล้วนางก็ฉุดเกรนตรงไปต่อแถวอย่างรวดเร็ว

"จ้าๆ"

 แต่ทั้งสองต่อแถวได้ไม่นานก็เดิเสียงประกาศขึ้น

"หลีกทางหน่อย หลีกทางหน่อย ขอทางให่หน่วยทหารผ่านไปก่อน หลีกๆ"

มีขบวนทหารวิ่งแหวกผูงชนตรงมาทางที่ทั้งสองต่อแถวอยู่จนทำให้ต้องขยับหลีกทางกันวุ่นวายเล็กน้อย จนเมื่อขบวนทหารวิ่งผ่านไปหมดแล้วคนต่อแถวก็ขยับตัวมายืนเรียงกันตามปกติ

"เอ๋.. มันอะไรนะ"

"พวกเค้ารีบไปไหนกันก็ไม่รู้นะคะ"

"นั้นสิ แต่คงไม่เกี่ยวกับพวกเราหลอก"

"คะท่านเกรน"

ทั้งสองก็ยืนต่อแถวต่อจนถึงคิวของทั้งสองได้ขอพรแล้วจึงเดินมุ่งไปยังสวนสาธารณะที่หมายตาเอาไว้ ว่าจะไปกินเครปกัน

...

ณ. ที่สวนแห่งนี้ที่เกรนได้รู้จักกับมิเรนครั้งแรก ยังคงความร่มรื่นเช่นเดิม เขาพามิเรนเดินไปยังกลางสวนที่มีร้านอาหารอยู่ 2-3ร้านแล้วตรงไปยังร้าน "เทพเครปสวรรค์" ซึ่งเป็นร้านดังในสวนแห่งนี้ เพราะเครปที่นี้มีหลายแบบให้เลือกตั้งแต่แป้งเครปไปถึงหน้าที่จะใส่เลยทีเดียว

"เป็นไงอร่อยมั้ยหละ" เกรนถามหลังจากทั้งสองได้เครปมาอยู่ในมือแล้วของเกรนเลือกแบบแป้งบางกรอบใส่รวมมิตรเนื้อต่างๆ ส่วนมิเรนนั้นเลือกเอาหนานุ่มใส่หวานผลไม้รวม

"อืม... อร่อยมากเลยข้าว่า ถ้าเรามีโอกาสกลับมาที่นี้อีกข้าจะลองหน้าอื่นดูอีกหละ"

"มันต้องแน่อยู่แล้ว ที่นี้อร่อยที่สุดที่ข้าเคยกินเลยน้า" เขาพูดไปพรางเดินนำไปนั่งที่โต๊ะว่างตัวหนึ่ง

"คะ ค่ะ" นางกล่าวรับแล้วนั่งลงกินเครปทันที เหมือนเด็กได้ขนมถูกใจอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเขาเห็นดังนั้นก็ได้แต่ยิ้มสายหัวแล้วลงมือกินเครปของเขาเช่นกัน ไม่ช้าเครปในมือนางก็หมดอย่างรวดเร็ว

"ว้าว...ของข้าหมดแล้ว ท่านเกรนข้าของไปซื้ออีกอันได้มั้ยคะ" นางส่งสายตาอ้อนมายังเกรนที่ตอนนี้พึ่งกัดไปได้ 2-3คำเอง เขามองตาปรีบๆตอบรีบกลืนคำที่อยู่ในปาก

"อะ อืม เงินที่เราหามายังมีเหลืออยู่มากพอเจ้าเอาไปซื้อเถอะ" เกรนจึงยื่นถุงเงินไปให้มิเรนไปซื้อเอง

"ขอบคุณคะ ฮิฮิ" นางรับถุงเงินแล้วรีบลุกเดินไปยังร้านเครปที่ตอนนี้ต้องต่อแถวซื้อซะแล้ว เนื่อจากคนมาซื้อมากขึ้น

"หึหึ พอเรื่องขนมแล้วยังกับเด็กๆเลยนะ ยัยนี่" เขาบ่นเล็กพราวขยับปากจะไปกัดเครปคำต่อก็สังเกตุเห็นเด็กหญิงนางหนึ่งอายุประมาณ 11-12ปีได้กำลังนั่งมองมายังเครปของเขาอยู่

"งะ มองกันแบบนี้จะกินลงได้ไงหละ อืม..."

"นี้ๆ เจ้าหนู" เขาจึงตัดสินใจเรียกเด็กหญิงนางนั้น และเหมือนนางจะรู้ตัวจึงรีบหลบไปอยู่ใต้โต็ะอีกด้านหนึ่งทันที

"555 ข้าไม่ได้จะว่าอะไรเจ้าซักหน่อย เจ้าเพียวจะบอกว่า ถ้าเจ้าอยากกินข้าแบ่งให้เอามั้ยหละ" เขากล่าวอย่างอารมณ์ดี
 
"จะ จริงหรือ" นางค่อยๆส่งเสียวตอบกลับมา

"อืม..จริงๆสิ" เขากล่าวเสร็จ นางจึงยืนขึ้นอย่างช้าๆ เผอยให้เขาเห็นถึงหน้าตานางชัดๆ เด็กหญิงนางนี้มีรูปหน้ากลมมนเหมือนไข่ น่าตาสะสวย คิ้วบางเล็กน้อย ปากได้รูปพองาน รับกับจมูกที่มีสันนูนสวย สองแก้มกลมนูนเหมือนอมขนมเปาเปาอยู่ ไว้ผมยาวถักเป็นเปียหนึ่งหางเอาไว้ด้านหลังตรงปลายมีผมมีกลิ๊บดอกไม้ขนาดกลางเบ่งบางประดับอยู่ ส่วนรูปร่างสูงไม่มากเริ่มมีส่วนเว้านูนเล็กน้อยตามลักษณะเด็กอย่างเข้าวัยสาวทั่วๆไป

"นี้ ข้าแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง" เกรนแบ่งเครปของตนเป็นสองส่วนแล้วใส่กระดาษส่วนหนึ่งยื่นไปให้นาง

"ขอบคุณคะ" นางยิ้มกล่าวขอบคุณ แล้วรับเครปไปนั่งกินใกล้เขา

"นี้เจ้ามาเดินเล่นคนเดียวหรือ พ่อแม่เจ้าหละ"

"อะ เออ ข้ามาเดินคนเดียวคะ" เด็กหญิงตอบแบบไม่เต็มคำนัก

"งั้นหรือเดี๋ยวกินเสร็จแล้วรีบกับบ้านซะหละ ดึกๆมันอันตราย ถึงแม้จะอยู่ในเมืองนะ"

"คะ คะ " เมื่อไม่เห็นเขาซักไซ้อะไรนางก็ตอบกลับ แล้วกินเครปอร่อยต่อไปจนหมดแล้วขอตัวกลับบ้านไป ส่วนทางกับมิเรนที่ตอนนี้เดินกลับมพร้อมเครปทั้งสองมือ

"หะ เจ้าไหงซื้อมาสองอันหละ ข้าไม่ได้ฝากซะหน่อย" เกรนที่เห็นจึงกล่าวทักไป

"ใครว่าข้าซื้อให้ท่านหละ ข้าจะกินเองตังหาก"

"เออ.. มันอร่อยมากเลยหรือนั้น"

"คะ ความจริงข้าจะเอาอันเดียวนะคะ แต่พอเก็นอีกอันก็ตัดใจไม่ได้เลยซื้อมาสองอันเลย แหะๆ"

"เอาเถอะเจ้ากินหมดก็พอแล้ว"

"ค่ะ..." นางกล่าวอย่างอารมณ์ดีแล้วลงมือกินเครปในมือทั้งสองของตนอย่างอร่อย ส่วนเกรนหลังจากกินของตนหมดได้นั่งมองวิวบ้างมองมิเรนที่ตังหน้าตังตากินเครปบ้างไปเลื่อยๆเช่นกัน

เมื่อนางกินเสร็จทั้งสองเลยลุกเดินทางกลับไปยังบ้านของตนเพื่อพักผ่อน

"พรุ่งนี้แล้วสินะ เราจะได้เริ่มออกเดินทางตามความฝันของข้า"

"คะ"

"ข้าว่าจะออกไปตั้งแต่เช้าเลยเราจะได้เดินทางไปถึงหมู่บ้านถัดไปได้ทันก่อนมืด เจ้าว่าเรายังขาดอะไรอีกมั้ย"

"อือ.. เท่าที่ข้านึกไม่น่าขาดอะไรนะคะ"

"555 นั้นสินะ เราเตรียมตัวมาตั้งหลายวันไม่น่าจะลืมอะไร ข้าว่า !!!"

"หยุดๆ พวกเจ้าหยุดก่อน ข้าขอสอบถามอะไรหน่อย" จู่ๆทหารรับจ้างนายหนึ่งก็วิ่งออกมาจากกลุ่ม มาหาเขา

"มีอะไรให้ช่วยหรือท่าน" เกรนจึงกล่าวรับไปก่อน

"เจ้าพอเห็นเด็กหญิงตามรูปนี้มั้ย" ทหานยื่นใบปลิวที่มีรูปเด็กหญิงคนหนึ่งส่งมาให้

"เอ๋..." เมื่อเกรนรับรูปมาดูก็ต้องแปลกใจ

(อืม เด็กคนเมื่อกี้นี้หว่า ทหารรับจ้างพวกนี้ตามตัวนางทำไมนะ)

"คือว่าคุณหนูนาริสา ท่านเป็นลูกของหัวหน้าข้านะ พวกข้าได้รับงานให้มาส่งสินค้าที่เมืองนี้ ท่านเห็นว่างานนี้ไม่มีอะไรจึงอนุณาตในคุณหนูตามมาด้วยได้ แต่ตอนมาถึงหลังจากพวกข้าส่งของแล้ว นางก็ออกมาเดินเล่น แล้วพักหลงกัน ไม่ทราบว่าท่านเห็นคุณหนูในรูปบ้างหรือไม่"

(อืม จากน้ำเสียงไม่น่าจะโกหก เพราะเหมือนกลัดกลุ่มถึงการหายไปของนางเหมือนกัน อีกทั้งจากที่เห็นเมื่อกี้เสื้อผ้านางก็แต่งตัวดีดูไม่เหมือนว่าโดนรักพาตัวอะไร นะจะเป็นคนรู้จักกันหละ)

"ข้าว่า ข้าพึ่งเห็นนางเดินไปทางนั้นนะ" ว่าแล้วเขาเลยชี้ไปยังทิศที่เด็กหญิงในรูปเดินจากไป

"โอ้ว ท่านเห็นคุณหนูไปทางนั้จริงๆหรือ"

"อืม ข้าจำไม่ผิดหลอก นางพึ่งเดินไปได้ไม่นาน น่าจะยังเดินไปไหนไม่ไกลนะ"

"อา พวกข้าต้องขอบคุณในน้ำใจท่านมาก พวกข้าลาหละ"

"อืมๆ ขอให้โชคดีหานางพบโดยเร็วเพราะช่วงค่ำๆมีพวกขี้เมาแยะมันอัตรายสำหรับเด็กๆนะ"

"ครับ เร็วพวกเราไปทางนั้น" แล้วพวกทหารก็พากันวิ่งออกไปตามทางที่เกรนชี้

"ท่านเกรนคะ ท่านเห็นเด็กหญิงคนนี้หรือคะ เดินมากับท่านข้าไม่คุ้นเลย"

"555 ก็ช่วงที่เจ้าไปซื้อเครปเพิ่มข้าเห็นนางเขานะ"

"อ๋อคะ งั้นเราเดินกับบ้านต่อดีกว่า หวังว่าพวกเค้าจะพบนางโดยไว้นะคะ"

"อืม" แล้วทั้งสองก็เริ่มออกเดินกลับไปยังบ้านอีกครั้ง

...

อีกด้านหนึ่งในเมืองนฤคราช เมืองขึ้นของอาณาจักรนาคปักษาที่อยู่ทางตอนใต้ เมืองนี้อยู่ทิศเหนือเป็นหน้าด้านระหว่างเขตของอาณาจักรนาคปักษาเองกับปราการทิศใต้ของอาณาจักรทาฟาเนีย ในตัวเมืองทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของสมาคมทหารรับจ้าง "สิงห์คะนองเดช" ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3ของเมืองแห่งนี้

ปัง!!! ประตูเปิดขึ้นพร้อมกับร่ายชายสูงกำยำรี่วิ่งเข้ามาในอาคารสมาคม

"ท่านหัวหน้าพวก 2สมาคมที่บุกมาตอนนี้ ทะรวงมาถึงอาคารภายในแล้วท่านรีบหนีไปเถอะ"

"ไม่ได้ มีหรือ ข้าจะหนีปล่อยให้พวกพองตายอย่างเดียว ข้าจะอยู่สู้ร่วมกับพวกเจ้า" เขากล่าวออกมาอย่างกล้าหาญทั้งที่ตนได้รับบาดเจ็บหนัก

"แต่จ้าไม่เห็นด้วย ท่านบาดเจ็บหนักขนาดนี้ รีบหนีไปกับพวกที่เหลือเถอะ ไปตั้งต้นใหม่ แล้วค่อยมาแก้แคนแทนพวกข้ายังไม่สาย"

"ข้าเห็นด้วยกับเจ้าพวกเรายอมตายเพื่อท่าน ของให้ท่านรีบถอยหนีไปเถอะ"

"ใช่แล้วทางนี้พวกข้าที่เหลือจะต้านเอาไว้เอง"

"ท่านรองรีบพอท่านหัวหน้าหนีไปเถอะ"

"พะ พวกเจ้า ข้าไม่ไปไหนหลอก เฮ่ย... เจ้าเดชจะลากข้าไปไหน" ชายร่างใหญ่กำลังจะลากเขาด้วยหิ้วไหล่ทั้งสองข้างไปตามทางเดินด้านหลัง

"ข้าก็จะพาท่านหนีไปไง อยู่ไปท่านก็ช่วยอะไรไม่ได้หลอก"

"เฮ่ย เจ้าทำแบบนี้ได้ไง ข้าไม่มีทางทิ้งพวกเจ้าไปหลอกอย่างมากข้าก็ยอมตายตรงนี้พร้อมพวกเจ้า"

"ไม่ได้ ท่านเคยมีบุญคุณชีวิตกับพวกข้ามากมาย ข้าคงไม่ยอมให้ท่านสิ้นใจตินนี้แน่"

"วะ เฮ่ย หยุดนะ ข้ายอกให้หยุด" เขาเริ่มดิ้นไปมาจนคนอื่นๆต้องช่วยกันจับมัดมือขาเอาไว้แล้วให้คนที่ชื่อเดชเริ่มลากไปต่อ

"ว้ากๆ... พวกเจ้าทำแบบนี้ได้ไง ฮะ .."

คลืนๆ พวกที่เหลือได้เปิดทางลับแล้วพาเขาเข้าไปจากนันก็ตามด้วยพวกที่รับอาสาอารักขาเขาอีก 25คนตามเข้าไปจากนั้นก็มีเสียงประตูกลปิด คลืนๆ ตึง !!!

"เว้ย... พวกมันอยู่ที่นี้"

"ว้าก... พวกเราสู้ตายอย่างให้มันตามหัวหน้าไปทางด้านหลังได้"

"เฮ่...." จากนั้นก็เป็นเสียงต่อสู้ทั้งเสียงดาบ หอกดังลั่งสนั่น ตามหลังเขาจากประตูกล ละมีเสียง ปังๆๆๆๆๆ ดังลั่นยาวหลังจากเสียงนั้นหยุดเขาก็ไม่ได้ยินเสียงต่อสู้อื่นใดอีก เขาได้แต่หลับตาปล่อยในลูกน้องที่พักดีลากเขาต่อ ปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายหลั่งไหล ปล่อยให้สมาคม "สิงห์คะนองเดช" ที้พวกเขาสร้างกันมาโดนทะลายลงไปอย่างไม่สามารถทำอะไรได้เลย

"แล้ววันหนึ่งเราจะได้เห็นดีกัน ไอ้เมฆา ไอ้วัยยะ" เขาได้กล่าวออกมาเบาๆ แต่ทั้ง 26ชีวิตต่างได้ยินและเห็นพ้องกับเขาในใจเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น