วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 5 - ความฝันตอนแรก

..
..
..

เกรนสะดุ้งลุกตัวขึ้นเมื่อได้ยินเสียงร้องวิ๊ดๆ ของหม้อเหล็กกล้าที่เค้าพึ่งซื้อมาด้วยราคาแสนแพงเพียงแต่นำมาใช้ในการปรุ่งยาที่เค้าต้องการเท่านั้น

"หะ...หวา..." เกรนหาวขึ้นมา 1ครั้งก่อนเดิน ไปยกหม้องออกจากเตาเผา เพื่อวางมันลงบนดินทรายให้มันลดความร้อนลงจะได้เริ่มต้นขั้นต่อไปใน

"ท่านเกรนคะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูเกรน

"เอ้า.. นี้เจ้าตื่นแล้วหรือ เป็นไงเหมือนว่าจะหลับยาวหายวันเลยนะ มิเรน"

"คะ หลังจากที่คลาวก่อนเราไปขโมยเลือดของมังกรมาจากเจ้าเมืองนั้น ทำให้ข้าต้องใช้พลังในการสร้างหมอกมากเหมือนกันะคะ มันก็ต้องเหนื่อยกันเป็นธรรมดาหละคะ"

"โอ้... ไม่งอนนะคนดี แต่พวกเราก็ลอดมาได้นี้ แถมได้ของมาครบแล้วด้วย 555" เกรนที่สังเกตเห้นการตอบแบบงอนๆของมิเรนจึงพูดหยอกเพื่อให้เจ้าตัวหายงอนซะหน่อย

"ถึงยังไงที่ผ่านมาข้างต้องขอบใจเจ้าจริงๆที่ช่วยมาตลอดนะ ทั้งตอนหลบหนีจากการขโมยมุกนิลสีรุ้งที่คฤหาสน์นั้น กับ หนีหัวซุกหัวซุนจากพวกโจนสลัด(ผัก)ขี้งกนั้นอีก ข้าแค่หยีบผลไม้มาแค่ผลเดียวไล่ล่ายังกับไปฆ่าญาติมันงั้นหละ"

"เออ.. ท่านเกรนคะ ก็ของที่ท่านไปขโมยมานั้นมันหาอยากและราคาแพงมากทั้งนั้นนี้คะ" เมื่อเจอมุกระบบความในใจของเกรนมิเรนจำต้องหายงอนแล้วกกลับความจริงออกมาเพื่อเตือนนายของตังเองว่าที่โดนไล่ล่าเพราะอะไร

"555 เจ้าก็ว่าไปนั้น แต่ตัวยาที่ผสมเสร็จแล้วนะ รอแค่มันเย็นลงแล้วนำมากินก็เท่านั้น คราวนี้หละ ข้าจะได้จับต้องตัวเจ้าแบบเป็นๆได้ซักที จริงมั้ยมิเรน ไม่ใช้แค่ในจิตอีกแล้วนะ" เกรนกล่าวออกมาพร้อมทั้งมองไปทางหม้อ และยิ้มออกมา

"อะ...อือ...คะ" หลังจากเกรนกล่าวเสร็จ มิเรนได้ตอบแบบน้ำเสียงอายๆกลับไป

..
..
..

เมื่อ 2เดือนครึ่ง ก่อนหน้านั้นช่วงที่เกรนได้พบกับเสียงปริศนาที่อยู่ในกายตนและตั้งชื่อให้เธอว่ามิเรน ได้ทำการสืบหาจนพบว่าที่เมืองที่ชื่อว่า "มิสคารา" ซึ่งอยู่ถัดไปอีกด้านข้างทิศตะวันออกของเมือง "โคโรคารา" ที่เค้าอยู่นั้น มีพ่อค้ามหาเศรษญีคนหนึ่งมีของที่เค้าต้องการจึงทำการวางแผนลอบเข้ไปขโมย ซึ่งแน่นอนมิเรนที่สามารถพูดคุยกับเขาได้แล้วนั้นก็มีส่วนร่วมในการวางแผนด้วยเช่นกัน

ในคืนนั้นเกิดเหตุการณ์แห่งชะตาขึ้น

"เร็วๆ รีบกระจายกำลังออกหาให้ทั่วคฤหาสน์ ปิดประตูทางเข้าออกให้หมด ส่งคนไปประจำตำแหน่งกำแพงคฤหาสน์ทุกๆ 50ก้าวด้วย อย่าให้มีแม้แต่หนูสักตัวผ่านไปได้ เร็วเข้า"

ห่างออกไปไม่นานเป็นจุดที่ชายหนุ่มทำการซ่อนตัวอยู่

"ซวยแล้วไงมันรู้ตัวซะแล้วทำไงได้หละเนี่ย"

"ก็ข้าบอกท่านแล้วนี้คะว่าอย่าไปเอาอย่างอื่นที่มันนอกแผนมาอะ"

"แหะๆ แหม ของมันวางล่อตา ล่อใจ ซะขนาดนั้น ไหนก็ขโมยแล้วทั้งทีก็อยากได้อะไรติดไม้ติดมือพิเศษไปซะหน่อย"

"แล้วผลเป็นไงหละคะ" (-*-")

"งะ... ผมผิดไปแล้วครับ" (T_T")

"เอาเถอะคะ จะมาว่าตอนนี้ก็คงไม่ได้อะไรดีขึ้นมา ตอนนี้คงต้องช่วยกันหาทางออกกันก่อนดีกว่านะคะ"

"อือ... ข้าก็ว่างั้นหละ"

ผัวะ

"อ๊อก !!!"

"ว๊าย ท่านเกรนคะ ... ท่านเกรน ..."

"มาเร็วข้าจับมันได้หละ ..."

"ท่านเกรน ... ท่านเกรน ..."

"ดีมากเอามันไปขังไว้ก่อน รอท่านเจ้าบ้านมาแล้วค่อย ตัดสินกันว่าจะทำอย่างไร .... " เสียงพูดคุยสุดท้ายที่เกรนได้ยินก่อนสลบไป

...


เกรนรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนมานอนอยู่ในที่มืดมิด รอบกายเป็นสีดำสนิทไม่ว่ามองไปทางไหน ก็ไม่เห็นอะไรเลย

"นี้ที่ไหนกันนะ" เกรนค่อยๆยืนขึ้นพร้อมทั้งหันมองไปมาจนพบบางอย่าง

"เอ๊ะ.. นั้นอะไรหนะ" เกรนจึงค่อยๆย่างเท้าเดินไปยังเงานั้น

"เอ๋... คนนี้คงโดนจับมาขังด้วยมั้ง รองไปปลุกดูหน่อยเผื่อได้ข้อมูลอะไรบ้าง"

"ว่าแต่ไอ้คุกนี้ก็แปลกๆแฮะไม่มีโซ่ล่ามือหรือขาเลย แถมมืดสุดไปเลยด้วย"

แต่เมื่อเดินไปไกล้ เขากับมองเห็นคนๆนั้นชัดขึ้นจนแทบไม่น่าเชื่อว่าตนอยู่ในคุกมืด เพราะไม่มีแสงสว่างอะไรเลยแต่เค้ากับมองเห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

คนที่นอนอยู่นั้นเป็นหญิงสาวผมยาวสีเทาถึงหลังนอนขดตัวอยู่บนเตียงหนานุ่ม มีใบหน้ากลมมล ขนตางอนเล็กน้อยพองาน 2แก้มดูมีน้ำมีนวล จมูกไม่บานแต่ก็ไม่แคบเกินไปมีสันงานจดหน้าผาก ริมฝีปากเรียวยิ้มหวานอยู่เหมือนกับฝันดีอยู่ พอมองถัดไป นางมีทรวดทรงงดงามอกเอวสะโพดสมส่วน ผิวพรรณาขาวแบบชาวตะวันตก เสื้อที่ใส่เป็นแบบเสื้อกระโปรงแขนกุดสีดำออกเงานิดชายเสื้อยาวสรวยจดข้อเท้านาง

เกรนจ้องนางอยู่นานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว พอรู้สึกตัวอีกครั้ง เป็นตอนที่นางขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แบบคนที่พึ่งตื่นนอน

"เจ้า...เออ... แม่นางเจ้าก็โดนจับมาขังในคุกมืดด้วยอย่างงั้นหรือ" เมื่อได้สติเค้าก็ยิงคำถามออกไปทันที

"หรือ?... อือ... หาว...." หญิงสาวยังคง งั่วเงียอยู่

"เออ เจ้าเข้าใจที่ข้าถามมั้ย เราอยู่ที่ไหนกัน"

"งึมๆ ออ... อือ... เอ๋?" นางอุทานขึ้น เมื่อนางค่อยลืมตามองดูผู้มาปลุกนาง

"เอ๋?" เขาจ้องตาสีนิลของนาง

"หะ หา ท่านเกรน"

"เออ เจ้ารู้ชื่อข้าได้ไง เราเคยรู้จักกันหรือ ข้าจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักเจ้าเลย"

"ข้า มิเรน ไง ท่านมอบชื่อนี้ให้กับข้าเองนะ ท่านตั้งหากที่จำไม่ได้หรือ หรือว่าโดนตีหวัจนเพียนไปแล้วคะ"

"ชื่อมิเรน เอ มิเรน อะ หะ หา นี้เจ้าคือมิเรนหรือ"

"ใช่แล้วคะ ข้าคือมิเรนไง แล้วนี้ท่านเห็นข้าได้ไงอะ"

"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันรู้สึกตัวก็อยู่ที่นี้หละ"

เมื่อนางมองไปรอบตัวจึงกล่าวออกมาว่า

"ความจริงแล้วท่านยังไม่ได้ตื่นเลยคะ"

"เอ๋? เจ้าหมายความว่าไงนะ"

"ก็ที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในจิตใจของท่านเกรนนี้คะ และที่ข้าอยู่ที่นี้เพราะข้าอยู่นี้ตั้งแต่แรกแล้วคะ ท่านตั้งหากที่เข้ามายังจิตของตัวเอง"

"หา.. เจ้าว่าข้าอยู่ในจิตใจของตัวเองอยู่หรือ แต่ในความจริงข้าก็ยังหลับอยู่อะนะ"

"ใช่แล้วคะ"

"ละ แล้วนี้ข้าจะตื่นมั้ยเนี่ย"

"อันนี้ข้าก็ไม่ทราบได้คะ ถ้ามีคนมาปลุกท่านก็นะ จะตื่นแล้วออกไปจากที่นี้ได้มั้งคะ"

"จะเป็นคำปลอบใจที่ดีมาก ถ้าช่วยตัดคำว่า มั้ง ออกไปอะนะ"

มิเรนยังคงยิ้มอยู่ไม่ได้กล่าวอะไรตอบกลับมา เกรนจึงมองไปรวบอีกรอบสำรวจว่าในจิตของเขามีอะไรอยู่อีกบ้าง

"แล้วทำไมที่นี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรเลยหละ ที่ข้าเห็นมีแต่เตียงนอนของที่เจ้านอนเอง"

"อือ... ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกัน ทั้งๆที่มีที่กล่างขนาดนี้ ความจริงข้าก็อยากได้สวนเอาไว้นั่งเล่นเหมือนกันนะ"

พอมิเรนพูดถึงสวน เกรนก็จิตนาการตามว่าถ้าที่นี้เป็นบ้านบนเขาล้อมรอบไปด้วยดอกไม้มีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่ริมข้างบ้าน ทุ่งดอกไม้นั้นมีทั้งเขียวขจี และมีสีสันสวยงามกว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตา ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ท้องฟ้าสีครามสดใส่ มีเฆกล่องลอยไปมาช้า มีลมพัดโชยเป็นช่วงๆให้เย็นสบาย บวกกับแสงแดดอบอุ่นกำลังดี

เพียงเท่านั้นรอบกายทั้ง เกรนและมิเรนค่อยๆเปลี่ยนไป พื้นดินเหมือนสั่นๆ เกิดต้นไม้โผ่ขึ้นโอบล้อมทั้งสองเอาไว้ แล้วค่อยเปลี่ยนรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมมีประตูและหน้าต่าง

"เฮ่... อะไรกันเนี่ย" เกรนกล่าวด้วยความตกใจ แล้วจูงมือมิเรนออกไปข้างนอก

เมื่อเปิดประตูออก ภายนอกนั้นเกิดทุ่งดอกไม้ค่อยเติบโตแผ่ขยายออกไปจากตัวบ้านที่ตอนนี้อยู่บนเนินเข้าขนาดกลาง ด้านข้างบ้านมีต้นไม้ขนาดใหญ่ด้วย สักพักก็เกิดท้องฟ้าขยายจากจุดที่ทั้งสองอยู่กว้างออกไปจนสุดตา มีเฆกลอยไปมาช้า และลมพักเอื่อยๆเย็นสบาย แสงแดดที่เกิดขึ้นส่องมายังพื้นดินอบอุ่นพอดี เหมาะแก่การดำรงชีวิตของเหล่าพืชพรรณาต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามที่ชายหมุ่มจิตนาการทั้งนั้น

"ว้าว... ท่านเกรนคะ ที่นี้สวยงานมากเลยคะ"

"นะ นั้นสินะ ทำไมหละ แค่ข้านึกจิตนาการเอง รอบๆกายก็เปลี่ยนไปตามที่ข้านึกเลย"

"ข้าคิดว่าเพราะนี้คือในจิตของท่าน สิ่งที่ท่านเกรนนึกคิด แล้วจิตนาการออกมาจะแสดงผลให้เห็นได้คะ" มิเรนกล่าวขึ้น พร้อมทั้งชื่นชมธรรมชาติรอบๆตัวไปด้วย


"อือ... ที่เจ้าพูดมามันก็มีเหตุผลอยู่แฮะ งั้นเดี๋ยวเจ้าลองบอกมาสิว่าเจ้าอยากได้ห้องและบ้านแบบไหนเดี๋ยวข้าจัดให้ เจ้าอยู่แต่ในที่มืดๆแบบนี้มานานแล้วสินะ" เกรนมองไปยังมิเรนด้วยสายตาห่วงใย และสงสารที่ ตั้งแต่นางมาอยู่ในร่างเขาต้องอยู่แบบมืดมิดมาโดยตลอด และเขาก็ชั่งไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

"อะ ไม่เป็นไรคะ ให้ข้าได้อยู่ในที่แบบนี้ ได้แค่นี้ข้าก็พอใจแล้ว ขอบคุณมากคะ" พอสบตาชายหนุ่มนางจึงได้แต่ก้มหน้าเอ่ยตอบเบาๆกลับไป นางรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรงและใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นมานิดๆ

เป็นความจริงแล้วที่ทั้งสองได้ ใช้เวลาด้วยกันมาสักระยะ(ช่วงที่ตามหาเบาะแส่นั้นเอง) ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดและความรู้กัน เกรนนั้นเห็นว่ามิเรนมีสติปัญญาดีมากจำได้รวดเร็ว ถึงจะมีเอ๋อบางก็ตาม จึงเป็นคนอารมณ์ดีโกรธง่ายหายเร็ว เขาเองก็ชอบตรงส่วนนี้ของนางไม่น้อย ซึ่งตัวมิเรนเองหลังทำความรู้จักพูกคุยกันแล้วก็รู้สึกชอบพอกับเกรนเช่นกัน ด้วยความที่เขาเป็นกันเอง ไม่บ้าอำนาจ ถึงจะพูดน้อยไปหน่อยก็ตาม เพราะส่วนมากนางจะเป็นฝ่ายถามซะมากกว่า

"เอา.. เถอะตัวบ้านเจ้าว่าอย่างดีก็ได้แต่ยังไง ข้าว่าต้องลองนึกถึงของใช้ในบ้านด้วยเจ้าช่วยข้านึกสิจะใช้อะไรบ้างข้างจะได้ จิตนาการสร้างขึ้นให้เจ้าได้"

"ท่านเกรน ข้าขอบคุณท่านมากจริงๆ"

"555 ไม่เป็นไรหลอก ถ้าเจ้ามีความสุขเข้าก็มีความสุขไปด้วยนั้นหละ" เกรนจึงไปจับมือมิเรนพอเข้าไปในบ้านเพื่อ สร้างของใช้จำเป็นอื่นๆ

ถึงแม้ชายหนุ่มจะพูดและกระทำโดยไม่ทันคิดอะไรแต่ หญิงสาวนั้นจิตใจกับเริ่มร้อนวูบวาบขึ้นไปอีกได้แต่ก้มหน้าตอบรับแล้วเดินตามเข้าไปในบ้าน "คะ ท่านเกรน"

...

หลังจากที่ทั้งสองได้ปรับแต่งเพิ่มเติมบ้านและของใช้จำเป็นอยู่นานสองนานจึงพระอาทิตย์ตกดิน

"อืบ... เฮ่อ.... ไม่นึกเลยว่าแค่จิตนาการถึงสิ่งของต่างแค่นี้ถึงได้เหนื่อยขนาดนี้" ชายหนุ่มนั่งเอนตัวลงไปยังโซฟาขนาดยาวรูปตัว L อย่างหมดแรง

"ก็ข้าบอกกับท่านแล้วว่าพอแล้วๆ ท่านก็ยังจะถามอีกว่ายังไม่หมดใช่มั้ย มีอีกเปล่า บอกมาเถอะ ข้ายังไว้ แค่นี้จิ๊บๆ นี้หนา อิอิ" มิเรนกล่าวพร้อมเดินไปจุดไฟตามจุดต่างในบ้านในสว่างขึ้นมา แล้วไปเอาน้ำจากเครื่องเย็น(ตู้เย็นนั้นหละ)ออกมาส่งให้เกรนดื่ม

"ขอบใจมาก"

"ไม่เป็นไรคะ ท่านคงเหนื่อยมากสินะคะ" นางได้นั่งลงข้างๆเกรน

"555 ไม่หลอกแค่ได้น้ำเย็นจากเจ้าข้าก็หายเหนื่อยแล้ว" เขากล่าวพร้อมดื่มน้ำที่รับจากนางมาจนหมด วางแก้วบนโต๊ะด้านข้างแล้วมองไปยังมิเรน

ในสายตาเค้ารู้สึกว่านางมีเสน่ห์น่าหลงใหล ยิ่งมองจากใต้แสงไฟอ่อนยามค่ำคืน ยิงงดงามมากขึ้นยิ่งนัก ในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจขยับกายไปใกล้ตัวนางมากขึ้นพร้อมทั้งเอ่ยกับนาง

"มิเรน เจ้ารู้มั้ย เจ้าชั่งงดงามมาก ยิ่งมองใต้แสงไฟแบบนี้"

"ท่านเกรนคะ" นางได้แต่ตอบแค่นั้น ส่วนตากลับจ่องผสานตาของเกรม นั่งตัวเกร็งจากการรุกเล้าของชายหนุ่ม

"มิเรน ข้าจะขอเจ้า เจ้าจะปฏิเสธหรือไม่ ขะ ข้า ว่าข้ารักเจ้าซะแล้วซิ" เกรนกล่าวพร้องจ่องไปยังตาของนางตอบ ด้วยสายตาแน่วแน่

"ขะ ข้า ข้า จะปฏิเสธท่านได้หรือ ยังข้าก็เป็นของท่านอยู่แล้วนิ" นางตอบกลับพร้อมหลบสายตาของเค้ามองไปยังมือทั้ง2ที่ตอนนี้โดนชายหนุ่มกุมเอาไว้ตอนไหนไม่ทราบ

"เจ้าไม่จำเป็นต้องตอบตกลงก็ได้ ถ้าเจ้าไม่ยินยอมจากใจของเจ้าเอง ข้าไม่อยากฝืนใจใคร" ชายหนุ่มกับถอนมือข้างหนึ่งจากการจับกุมมือนาง มาสัมผัสใบหน้านางให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางได้แต่สายหน้าตอบกลับว่า

"ปะ เปล่า ข้าไม่ได้ยอมท่านเพราะโดนบังคับเลย แม้แต่น้อย ขะ ข้า ..."

"เจ้าทำไมหรือ.." ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้นางงเพิ่มขึ้น จยตอนนี้หน้านางแทบจะชิดแนบติดกับเขาแล้ว

"ขะ ข้า .."

"หือ... ว่ามาสิ" เขาได้รับคำตอบแล้วแต่ยังถามอีก เพราะยังอยากแกล้งนางนิดๆ

"ขะ ข้า โธ่ ท่านแกล้งข้านี้" นางสังเกตเห็นแววตาของชายหนุ่มที่ส่อแววสนุกจึงทราบทันที่ว่าตอนนี้เค้ากำลัวแกล้งนางอยู่

"555 ข้าไม่แกล้วเจ้าแล้ว ข้าขอเพียงคำตอบเดียวจากเจ้าก็พอ มิเรนเจ้ารักข้ามั้ย"

ตอนนี้หัวใจนางเต้นแรงยิ่งกว่าตอนไหนๆจนไม่สามารถขยับปากได้ ได้พียงแต่พักหน้าตอบชายหนุ่มไปด้วยสีหน้ายิ่มแย้มอย่างมีความสุข ซึ่งรอยยิ่มนี้ทำให้เกรนต้องชะงักไปเพราะมันชั่งเหมาะสมกับนงในยามนี้จริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น