วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเดินทาง 13 - ช่วยเหลือ

เมื่อทั้งสองเข้าใกล้จุดต่อสู้มากขึ้น

มิเรนหยุดห่างออกไปจากจะต่อสู้ไม่ไกลมาหลบหลับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพร้อมตั้งท่าร่ายมนต์ขนาดใหญ่เพราะต้องให้คงอยู่นานกว่าปกติเพื่อเป็นการก่อกวนและตัดกำลังออกเป็นสองส่วน ส่วนเกรนยังวิ่งพุ่งไปด้านหน้าสู้สมรภูมิด้วยความเร็วที่มากขึ้น

เขาเดินกำลังภายในวนลงขาผ่านเส้นจิงจิน จิงเป๋ และเป๋ลั่ว เพิ่มกำลังขาให้มากขึ้นทำให้เค้าสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นจากเดิมมาก พอกะชั่นชิดก็ร่ายเวทสายลมส่งตัวเขาไปลอยข้ามกลุ่มที่ล้อมวง ลงไปยังกลางกลุ่มตั้งรับอย่างนิ่มนวล สร้างความตกใจแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างมาก ต่างก็ถอยแยกเข้าไปรวมกลุ่มของตนก่อน

"ช้าก่อน!!! ข้าจะมาช่วยพวกท่าน" เกรนเมื่อลงมาได้ก็ยืนขึ้นหันหน้าไปกล่าวกับกลุ่มที่ตั้งรับทันที่

"เห๋ เจ้าเป็นใคร มาจากไหนกัน" ชายวัยกลางคนร่างไม่ใหญ่มาผิวคลำนิดๆคนหนึ่งเดินออกมาอยู่ด้านหน้าพร้อมกล่าวกับเกรน

"ข้ามีชื่อว่า เกรนมอร์ กาโนส เรียกข้าว่า เกรน ก็ได้ ข้าเดิทางฝ่านมาแล้วได้ยินเรื่องของพวกท่าน ข้าเห็นว่าสมควรช่วยเหลือจึงยืมมือเข้ามา"

"ข้ามีนามว่า สมชาย หวังหมาย เป็นหัวหน้าคุ้มกันกลุ่มนี้" ชายวัยกลางคนตอบ

"เฮ่ๆ ท่านสมชาย ข้าว่าเจ้าหมอนี้ไม่น่าวางใจเลย อยู่ก็โผ่เข้ามาแบบนี้ มันอาจเป็นนกต่อของเจ้าพวกนั้นก็ได้นะ" ทหารคนหนึ่งด้านหลังออกความเห็น

"ถ้าท่านจะสงสัยข้าก็ไม่แปลก แล้วข้าก็ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันด้วย ข้าเพียงแต่ต้องการช่วยคนดีที่กำลังเดือดร้อนเท่านั้น" เกรนเอ่ยขึ้น


สมชายและเกรนต่างมองตากันอยู่พักหนึ่งบรรยายกาศรอบด้านยิ่งตึงเคลียดมากขึ้น

"ท่านนักเดินทางข้าว่าเรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสกว่าที่ท่านคิด ขอให้ท่านคิดดีก่อน" ในที่สุดสมชายก็เอ่ยออกมา

"ดีท่านไม่ต้องห่วงข้าหลอก" เกรนกล่าวพรางหันหลังไปอีกด้าน

"ทะ ท่านสมชายจะดีแล้วหรือครับ ข้าว่า..."

"พอเถิด ข้าเชื่อในสายตาตนเอง ข้าเห็นความจริงใจในสายตาหมอนี้ เหมือนที่ข้าเห็นในตังพวกเจ้า"  สมชายกล่าวตัดลูกน้อง

"ข้าขอจัดการพวกด้านนี้เองพวกท่านไปจัดการ3ด้านที่เหลือเถอะ" เกรนกล่าวออกมาอย่างมั่นใจหลังจากที่หันไปมองกลุ่มคนด้านหลังแล้ว

"หืม เจ้าว่าจะจัดการด้านนั้นเองคนเดียวหรือ" สมชายสงสัย

"อ๋อ ข้ามีคนซุ่มช่วยอยู่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ"

"งั้นหรือเจ้ามั่นใจนะ"

"555 ข้ามั่นใจว่าจะไม่มีคนไหนผ่านข้าไปยังรถม้าที่ท่านคุ้มกันได้เลย ด้วยชีวิตข้า" เกรนเอ่ยยืนยันคำพูดของตน

"หึหึ ข้าจะเชื่อเจอสหายหน้าใหม่" สมชายกล่าวแล้วหันไปส่งสัญญาณแก่ลูกน้องของตน ซึ่งด้านลูกน้องนั้นยังลังเลกับการตัดสินใจของหัวหน้าที่อยู่ก็ย้ายกำลังด้านหนึ่งทั้งหมดไปรวมกับด้านที่เหลือ จนสมชายต้องกะคอกไปจึงเริ่มตัดใจได้แต่เชื่อมั่นในหัวหน้าของตนแล้วปฏิบัติตามแยกย้ายกำลังไปสมทบด้านอื่นๆ

"เอาหละ ทางโล่งจะได้ไม่ต้องห่วงใครโดนลูกหลงหละ" เกรนหันมองฝ่ายที่ล้อมพรางบ่นเบาๆ

เหมือนด้านที่ล้อมจะงงเช่นกันที่อยู่อีกฝ่ายดันย้ายกำลังพลไปรับด้านอื่นๆ เหลือเอาไว้แต่ชายผู้มาใหม่เพียงคนเดียว

"555 เจ้านั้นนะ บ้าหรือเปล่าวะ" ทหารฝ่ายที่ล้อมคนหนึ่งกล่าว

"นั้นสิ คิดว่าคนเดี่ยวจะสามารถต่อสู้กับพวกข้านับ100คนได้หรือ 555" อีกเสริม

"555 555 555 555" ทั้งหมดร่วมหัวเราะเสริมเข้าไปอีก

"ข้าว่าเจ้าน่าจะถอนตัวไปดีกว่าข้าให้โอกาศพวกเจ้าสักครา" เกรนที่ยังนิ่งกล่าวออกมา

"555 โอ้ว ข้ากลัวจนหัวหดเลยวะ 555" ทหารฝ่ายที่ล้อมคนหนึ่งกล่าว

"งั้นเตรียมรับมือ" เกรนกล่าวพรางตั้งท่าสู้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่านจะประมาทจึงยังคงยืนหัวเราะต่อ เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงเดินกำลังภายในแล้วพุ่งออกไปหน้าทหารฝ่ายที่ล้อมคนที่กล่าวเป็นคนแรก

ฉึก!!! ผืบ!!!

พลิบตาทหารคนนั้น ล้มตัวลงนอนแน่นิ่งไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ตั้งท่าเลยด้วยซ้ำ

"วะ เฮ่ย พวกเราฆ่ามัน" จากนั้นพวกที่เหลือส่วนหนึ่งก็เข้าล้อมเกรน อีกส่วนหนึ่งกำลังจะวิ่งไปที่รถม้า แต่ก็เกิดลมพายุพัดแรงมาเข้ามาล้อมพวกทหารส่วนหลังเอาไว้ทำให้กำลังโดนแบ่งออกเป็นสองทันที ซึ่งส่งผลให้ผู้คนด้านนอกมองไม่เห็นข้างในได้ชัด เมื่อเป็นเช่นนั้นทหารที่เหลือจึงแบ่งกำลังออกไปหมายจัดการกับรถม้าแต่ก็ไม่สามารถไปได้ เพราะตอนนี้เกรนได้วิ่งวนมองเห็นเป็นสายลมดำไล่เชือดแทงทหารไปที่ละคนสองจนทหารที่เหลือต้องหันหลังชนกันเอาตัวรอดจากเทศกาลสังหาญฝ่านเดียวของเกรน

"ว้าว มันเป็นปิศาจแน่ๆ"

"พระเจ้าช่วยลูกด้วย"

"5 5 5 5 5 5 เข้ามาเลยๆ ข้าไม่กลัวแกหลอก 5 5 5 5 5 "

พวกทหารจนมุมบ้างก็สวด บ้างก็ขอพระเจ้า บ้างก็สติแตก ปนกับเสียงร้องสุดท้ายของชีวิตของพวกพ้องที่ไปทีละคนๆ จนกลายมาเป็นเสียงเงียบในไม่กี่นาที เมื่อลมพายุสงบลงพวกทหารที่เหลือในพายุต่างต้องตะลึงกับภาพเบื้องหน้า

เหล่าพวกพ้องที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีได้ยืนล้อมชายหนุ่มตรงหน้า ตอนนี้ได้กลายสภาพมานอนสิ้นใจบนพื้นบนตัวแต่ละคนมีแผล1-2แผลเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะโดนแทงที่หัวใจตาย ที่เหลือโดนเชือดคอเลือกไหลนองพื้นไปหมด เหลือเพียวชายหนุ่มที่ยังยืนโด่อยู่คนเดียว

"บะ บ้า ไปแล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้น" ทหารคนหนึ่งกล่าว

"เอา ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าหละ เข้ามาเลย" เกรนเอ่ยขึ้น

"ขะ ข้า ไม่เอาแล้ว ว้าก" ทหารคนหนึ่งคุมสติไม่ไหวจึงวิ่งหนีออกจากกลุ่มไป

"อะ เออ ข้าด้วย ข้าไม่อยู่แล้ว ว้ากกกกก" แล้วก็ตามด้สนคนต่อๆไปจนทั้งหมดหนีหายไป ทำให้ด้านทิศที่เกรนรับปากว่าจะจัดการว่างขึ้นทันตา

ด้านมิเรนเมื่อเห็นว่าทหารที่ต่อสู้กับเกรนหนีไปหมดแล้วจึงวิ้งออกจากต้นไม้ไปหาเกรนทันที

"ท่านเกรนคะ เป็นไงบ้างไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนนะคะ"

"อืม ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยสนับสนุนอย่างดี ข้าเลยไม่ได้บาดเจ็บอะไร" ข้ากล่าวแล้วส่งมือไปลูบแก้มนางเบาๆ

"คะย่อมช่วยท่านอยู่แล้วไม่เห็นต้องขอบคุณกันเลย" นางกล่าว แล้วยืนรับความรู้สึกอบอุ่นจากสัมผัสของเขาแล้วยิ่มหวานสงกลับไปให้เกรน

"เอา หละเราไปช่วยด้านที่เหลือกัน" เขายิ่มกลับแล้วลดมือลง กล่าวกับมิเรนแล้วหันหลังไปเพื่อจะไปช่วยรับมือด้านที่เหลือ

"เอ๊ะ" แต่เขาก็พบว่าตอนนี้เหลือแต่กองกำลังของสมชายเท่านั้นที่ล้อมรถม้าเป็นรูปตัวยูอยู่ ซึ่งทั้งหมดต่างหันมามองที่เกรนทั้งสิ้น ไม่นานสมชายที่รู้สึกตัวก่อนจึงเดินออกมาจากกลุ่มแล้วคุยกับเกรน

"ข้าต้องขอบคุณท่านมาก ที่ช่วยเราในคราวนี้" สมชายยกมือขึ้นผสนกันคราวะเกรน เขาจำต้องรีบคราวะกับไปอย่างงงๆ

"พวกท่านก็เก่งนะ ไล่ไปได้รวดเร็วขนาดนี้" เกรนกล่าว

"มิใช่เลย ที่พวกนั้นถอยไปเพราะได้เห็รฝีมือของท่านตังหาก" สมชายเอ่ย

"หา ข้าแค่จักการไป50กว่าคนเองนะ พวกนั้นทำไมใจเสอะกันจัง" เกรนยังคงสงสัยอยู่

"ฮิฮิ ท่านหละก็ยังไม่รู้ตัวอีกหรือคะ" มิเรนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี

"ท่างคงไม่ได้มองมาทางพวกข้าสินะ ทันที่มีเกิดลมพายุตัดกำลังกลุ่มหลัง ทั้งพวกข้าและพวกฝ่ายนั้น ต่างหยุดการต่อสู้ถอยมาแนวหลัง แล้วมองหาคนที่สร้างพายุกัน แต่ก็ไม่พบ เห็นแต่สายลมสีดำวูบไปมารอบๆพวกทหารทุกครั้งที่ผ่านใครจะมีคนลงไปนอนบ้างก็นอนนิ่ง บ้างก็นอนลงไปมีเลือกพุ่งจากคอ จนพวกนั้นหมดแล้วถึงเห็นท่านยืนนิ่งอยู่กลางศพพวกนั้น แค่นั้นหละทั้งพวกมันทุกก็ด้านวิ่งแตกกระจายไปหมด 555" สมชายเล่ายาว

"ข้าว่าพวกนี้คงกระจอกจริงๆ แค่นี้ก็วิ่งแล้วไม่มีเลือดนักรบเลย" เกรนกล่าว

"555 ท่านจะว่าไงก็ได้ เพราะเดิมทีพวกนั้นแค่ทหารชั้นเลวที่รับเงินมาแล้วก็ถึงอาวุธอาศัยพวกมากก็เท่านั้น" สมชายเอ่ย

"เอาหละหมดเรื่องแล้วเห็นทีข้าต้องขอตัวเดินทางต่อหละ" เกรนเมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้วจึงกล่าวลา

"ช้าก่อน ข้ายังไม่ได้ตอบแทนท่านเลย" สมชายกล่าวตัดออกมา

"แต่ข้าไม่หวังผลตอบแทนอะไรนะ ข้าช่วยเพราะเห็นว่าสมควรเท่านั้น ข..." เกรนตอบ

"ท่านไม่ร่วมเดินทางไปกับพวกข้าหรือ" เสียงหวานหนึ่งกล่าวตัดก่อนที่เกรนจะกล่าวอะไรอีก

เกรนหันไปมองพบว่าเป็นหญิงสาวสวมชุดหญิงรับใช้สีดำแขนเสื้อจีบสั้นเสมอศอก กระโปนงยาวบานถึงข้อเท้ามีโบด้านหลัง นางมีใบหน้าสวยคิ้วบางรีมฝีปากอิ่มอวบสองแก้มนวนตามสีกายเหลืออมผึงของนาง ไว้ผมยาวซอยปะบ่าเท่านั้น ถึงนางจะไม่สวยเท่ามิเรนแต่จัดว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง นางเดินลงจากรถม้ามาหาเกรน

"ขอต้อขอบคุณพวกท่านมากจริงๆ และขอกล่าวว่า ยินดีที่รู้จักข้าขื่อว่า เบญจมาศ เป็นสาวใช้ของคุณหนูนาริสาที่ท่านได้ช่วยเอาไว้คะ" นางกล่าวขอบคุณแล้วแนะนำตนเอง

"อะ เออ ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ เรียกข้าว่า เกรน ก็ได้ส่วนนี้ มิเรน พวกเรากำลังเดินลงใต้นะ" เกรนกล่าวรับพร้อมแนะนำตัวมิเรน

"ยินดีที่รู้จักคะ" มิเรนกล่าวทัก

"ข้าก็เช่นกัน" เบญจมาศทักตอบ

"เกรนข้าว่าเจ้าเดินทางไปพร้อมพวกข้าก็ดีนะ ไหนๆเจ้าก็ช่วยพวกข้าแล้วให้พวกข้าตอบแทนอะไรบ้าง อีกอย่างเจ้าไปมีเรื่องกับพวกนั้น ไม่นานคงโดนตามล่าจากพวกนักล่าแน่ๆ เจ้าไปกับเราน่าจะปลอกภัยกล่าวนะ จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตากันได้" สมชายว่า

เกรนหันไม่มองมิเรนเพื่อขอความเห็น แต่พบว่านางกำลังเดินคู่กับสาวใช้ไปนั่งคุยกันบนก้อนหินใกล้ๆนั้นเอง เขาจึงหันกลับไปยังสมชายแล้วยักไหล่ยิ้มเจือๆ

"คงต้องรบกวนพวกท่านแล้วหละ เหอๆ"

"555 เยี่ยมงั้นเดี๋ยวข้าพาไปแนะนำตัวกับพักพวกที่เหลือกัน ปล่อยให้แม่นางมิเรนคุยกับเบญจมาศไปเถอะ ผู้หญิงนี้มีเรื่องคุยกันได้แยะ 555" สมชายกล่างพรางเอามือโอบไหล่เกรนแล้วพาเดินตรงไปยังกลุ่มพวกเค้าที่อยู่รอบเพื่อแนะนำเกรนที่จะเดินทางไปกับพวกเค้าด้วยกัน

เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานการแนะนำตัวก็เสร็จ สมชายเห็นพวกเค้าได้พักกันพอแล้วจึงสั่งกำลังพลเริ่มเดินทางกันต่อ โดนมีเกรนเดินข้างเค้าไปด้วย ส่วนมิเรนขออนุญาติเกรนเข้าไปนั่งคุยกับเบญจมาศภายในรถม้า ซึ่งเกรนก็ไม่ติดขัดอะไร

"เออ ท่านสมชาย คุณหนูของพวกท่านนี้เป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ง่ายนะ มิเรนพึ่งเข้าไปในรถม้าได้ไม่นานก็มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวออกมากันหละ"

"555 คุณหนูท่านก็เป็นคนแบบนี้หละ พวกเราถึงให้ความรักเคารพไง"

"นางเป็นคนเช่นไรหรือ ท่านพอบอกได้มั้ย" เกรนถามต่อ

"เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างมุมมองนะ แต่สำหรับพวกข้าคุณหนูนั้นสุดยอด ถึงยังเด็กอยู่แต่เป็นคนมีน้ำใจ สนุกสนาน ถึงจะชอบเอาแต่ใจบางครั้งก็เถอะ แต่คุณหนูก็มีความรับผิดชอบสูงและฉลาดด้วย"

"หรือที่กล่าวมานี้ ไม่ทราบว่าคุณหนูพวกท่านอายุเท่าไหรหละ ท่านถึงเห็นว่าเด็กนะ"

"คุณหนูเราอายุพึ่งได้ 12ปี อย่างเข้า 13ปี เองแต่นางฉลาดมาก พวกข้าเคยเล่นหมกขุนกับคุณหนูแต่ไม่มีใครสามารถชนะคุณหนูได้เลย 555"

"หู้... อะไรจะขนาดนั้น"

"ข้ากล่าวจริงๆ ไม่ได้ปดแม้แต่น้อย ท่านลองขอแข่งหมกขุนกับคุณหนูดูสิ ข้าจะช่วยยุให้ หึหึ"

"เออ เหมือนท่านจะมีเล่นัยแอบแฝงเลย ที่ให้ข้าไปแข่งกับคุณหนูของท่านเนี่ย" เกรนกล่าวพร้อมหรีตาจัดผิด

"เฮ่ย ไม่มีอะไรในก่อไผ่เลย ขะ ข้าแค่อยากเห็นคนชนะคุณหนูบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่มีเล่นัยแอบแฝงเลยจริงจริ๊งงงง..." สมชายตอบแบบติดขัดเล็กน้อย

"เอา เถอะข้าก็ไม่คิดอะไรมากหลอก ว่าแต่นี้ข้างหน้าก็เป็นเขตหมู่บ้านหลังกำแพงชั้นนอกแล้ว ข้าหวังว่าจะมีห้องว่างเหลืออยู่นะ กว่าจะมาถึงเล่นซะเย็นเลย"

"อ๋อ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงพวกข้าส่งนกด่วนไปยังโรงพักผ่อนประจำที่พวกข้าใช้ ให้จ้องห้องเพิ่มให้พวกท่านแล้ว"

"โอ้ว.. ขอบคุณท่านมากเลย"

"ไม่เป็นไรนะ คนกันเอง 555"

ไม่นานทั้งคณะก็เดินทางมาถึงเขตหมู่บ้าน 'เชาวาเรีย' ที่อยู่ติดกับกำแพงกันดินแดนกลางใต้เอาไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น